ที่มา Thai E-News
โดย ปาแด งา มูกอ
2 เมษายน 2554
แดงสยามสยบความสับสน ออกประกาศยันชัดเจนไม่มีนโยบายโจมตีขัดแย้งกับแดงนปช.ทั้งแผ่นดิน ข่าวตามลิ้
ค์นี้ http://thaienews.blogspot.com/2011/03/blog-post_29.html
ผมเห็นข่าวนี้แล้วนึกถึงบทความที่ผมเขียนไว้ในเรื่อง สัญญาณบอกเหตุ คงพบเหตุอาเภทภัย และ เรื่อง ระวัง!แผนลับทำลายแดงทางอินเตอร์เนท ผมนึกไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นเร็ว (เร็วเหมือนกับน้ำที่มันกำลังจะท่วมบ้านในขณะนี้ หลังจากท่วมหนักมาเมื่อ 1 พ.ย.53)
เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ขอประชามติแดงทั้งแผ่นดินกันเลย ว่าต่อไปนี้จะไม่มีคำว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดิน,แดงสยาม,แดงแท้,แดงเทียม หรือสารพัดแดง อะไรก็ตาม
ให้มีเพียงพลังมหาชน “หัวใจแดง”ทั้งแผ่นดิน จะได้หมดเรื่องหมดราวเสียที แล้วเดินหน้าโค่นล้มสิ่งที่พวกเราทุกคนมุ่งหวัง
แผนการ กิจกรรม จุดมุ่งหมาย ทุกอย่างดำเนินการไปตามปกติ
เชื่อเถอะครับ ฝ่ายตรงข้ามมันยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ นี่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น ขวากหนามระเบิดเวลายังรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย
และเชื่ออีกเถอะครับว่า แก้วที่มันมีรอยร้าวแล้วยากที่จะประสานให้มันคงรูปแบบเดิมได้ แต่พวกเราโดยเฉพาะนักรบไซเบอร์หัวใจแดงทุกท่าน ภารกิจของพวกเราจะต้องหนักเพิ่มเป็นสองเท่าน่ะครับ
พวกท่านทุกคนคือผู้ที่จะประคองให้ “พลังศักดิ์สิทธิ์หัวใจแดง” เดินไปสู่จุดเป้าหมายอย่างมั่นคงและปลอดภัย
“พลังศักดิ์สิทธิ์” คืออะไร?
ขอถือโอกาสอธิบายความหมายของคำว่า “พลังศักดิ์สิทธิ์” เพื่อให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน ที่มี “พลัง” นี้อยู่ในตัวของท่านอยู่แล้ว จะได้เพิ่มและรักษา “พลัง”ตัวนี้ให้มากยิ่งขึ้นไป
“พลังศักดิ์สิทธิ์” คือ “พลังชนิดหนึ่ง” ที่มีอยู่ในตัวของเราๆท่านๆทุกคนที่เป็นคนปกติทั่วไป เป็น “พลัง” ที่ไม่แสดงออกมาอย่างพร่ำเพรื่อ และที่สำคัญเราก็ไม่สามารถที่จะนำ “พลัง” ตัวนี้มาใช้เป็นการส่วนตัวได้
เหมือนเช่น “พลัง”ตัวหนึ่ง ที่เวลาเกิดเหตุการณ์คับขัน ตกใจสุดขีด ตู้เย็นทั้งใบ ตุ่มน้ำทั้งใบ เราสามารถที่จะหยกมันหรือแบกมันขึ้นบ่าอย่างหน้าตาเฉย (เวลาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม) ตึก 2 ชั้นสามารถกระโดดลงมาถึงพื้นได้อย่างสบายๆ ว่ายน้ำ,ดำน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็น (เวลาตำรวจเข้าบุกจับเล่นการพนัน) พลังเหล่านี้มีจริงครับ และเชื่อว่าท่านผู้อ่านทุกท่านคงได้เคยประสบหรือพบเห็นมาด้วยตัวเองแล้ว
“พลังศักดิ์สิทธิ์” จึงเป็นพลังที่เหนือกว่าพลังทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดจากภายในจิตใจของมนุษย์ เป็นพลังแห่งความเสียสละ เป็นพลังที่มีจุดหมายหรือเป้าประสงค์เดียวกัน และต้องเป็นจุดหมายหรือเป้าประสงค์เพื่อส่วนรวมของสังคมและประเทศชาติ ที่สำคัญที่สุดมันเป็น “พลัง” ที่ไม่อาจซื้อได้ด้วยเงินตราหรือทรัพย์ศฤงคารใดๆ
ดังนั้นการที่พลังมวลชนนับหมื่นนับแสนมารวมตัวในสถานที่เดียวกัน เป้าประสงค์เดียวกัน (ยกเว้นการเข้าชมคอนเสิร์ต) รวมตัวกันต่อสู้ เรียกร้องโดยไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง มันจึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา
ยกเว้นท่านที่ชอบแอบหลังตู้เย็น(คำเปรียบเทียบภาคใต้) หรือแอบหลังเว๊ด(คำเปรียบเทียบภาคกลาง) ที่ไม่เคยโผล่ออกมาร่วมกับ “พลังศักดิ์สิทธิ์” นี้เลย
แต่พอเหตุการณ์ผ่านพ้นไป (ดันเสือก...!!! รู้ดีทุกเรื่องไปหมด แล้วยังเสือกมาสอนมาสั่ง) บุคคลเหล่านี้มีมากมายเหลือเกินในปัจจุบัน โดยเฉพาะในโลกยุค ไอที
สิ่งนี้แหล่ะครับที่ผมหวั่นวิตก ยิ่งไปพบคำแนะนำของเจ้าพ่ออินเทอร์เนต นักถลกหนังหัว ที่ทรงพลังมากที่สุดในปัจจุบัน จูเลียน อัสซานจ์ ที่พูดว่า “อินเทอร์เนตคือเครื่องมือสอดแนมประชาชน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ยิ่งทำให้ความหวั่นวิตกของผมกลายเป็นวิตกกังวล วิตกจริต เพิ่มขึ้นมาทันที
หรือนี่คือเหตุการณ์ปัจจุบันที่ใช้อินเทอร์เนตสอดแนมกันเอง
ในเมื่อ “พลังศักดิ์สิทธิ์” เป็นพลังแห่งความเสียสละ เป็นพลังที่มีจุดหมายหรือเป้าประสงค์เดียวกัน และมีจุดหมายหรือเป้าประสงค์เพื่อส่วนรวมของสังคมและประเทศชาติ ที่ไม่อาจซื้อได้ด้วยเงินตราหรือทรัพย์ศฤงคารใดๆ ได้แล้ว
ทำไม….? “พลังศักดิ์สิทธิ์” ไม่ว่าของกลุ่มคนเสื้อเหลือง หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จึงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายหรือเป้าประสงค์ที่วางไว้ได้ ทำไม....?
คำตอบก็คือ เพราะ “พลังศักดิ์สิทธิ์” มันได้ถูกใช้อย่างพร่ำเพรื่อ และถูกนำไปใช้นอกลู่นอกทางจากเป้าประสงค์หลัก จนส่งผลให้ “พลัง” ตัวนี้หมดความศักดิ์สิทธิ์ไปในที่สุด
ตัวอย่างที่เห็นชัดและได้พิสูจน์แล้ว ก็คือ “พลังศักดิ์สิทธิ์”ของกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่กำลังตายซากอยู่ในทุกวันนี้
ทีนี้เรามาดู “พลังศักดิ์สิทธิ์” ของกลุ่มคนเสื้อแดงกันบ้าง “พลัง” ตัวนี้ของ กลุ่มคนเสื้อแดง ยังคงมีอยู่ (ถึงแม้ว่าเริ่มจะใช้มันอย่างพร่ำเพรื่อขึ้นมาบ้างแล้ว) เพราะยังไม่ได้ใช้ “พลัง” ตัวนี้ออกนอกลู่นอกทางจากเป้าประสงค์หลักมากนัก แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ไม่แน่ ผมเกรงว่า “พลังศักดิ์สิทธิ์” ของกลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้าอีหรอบเดียวกับ “พลังตายซาก” ของกลุ่มคนเสื้อเหลืองในขณะนี้ ไม่เชื่อคอยดู
มีความคิดเห็น,วิเคราะห์,แนะนำ จากบุคคลหลายท่านว่า ทำไมการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย การเรียกร้องความเป็นธรรม หรือการเรียกร้องในเรื่องอื่นๆ (ที่เริ่มแตกหน่อออกกอ สะเปะสะปะ เละเทะ ขึ้นเรื่อยๆ) ของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงไม่ต่อสู้เรียกร้องเหมือนอย่างประเทศอื่นๆที่เขาทำกัน มีการยกตัวอย่างในประเทศอียิปต์ ลิเบีย ตูนีเซีย และเลยไปถึงการปฏิวัติในฝรั่งเศส (ที่ทั้งผม ท่านผู้อ่าน และท่านที่แนะนำ ยังไม่รู้ว่าเป็นวุ้นอยู่ที่ไหน) ขึ้นมาเปรียบเทียบหรือชี้แนะ
จริงครับ และใช่ครับ ที่เราจำเป็นต้องศึกษาประวัติศาสตร์การต่อสู้ในหลายๆประเทศ ไม่ว่าในเรื่องใดก็ตาม แต่ท่านต้องไม่ลืมว่านี่คือประเทศไทย ที่ประเทศอื่นเขาไม่เหมือนเรา อัตลักษณ์ประจำตัวของประเทศไทย ที่เริ่มมาเมื่อประมาณ 3,500 ปี ก่อนพุทธศักราช ที่ชนชาติไทยได้อพยพข้ามเทือกเขาเทียนชาน จนมาถึงก่อนประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งแต่สมัยพระเจ้าพีล่อโก๊ะ โก๊ะล่อฝง กษัตริย์น่านเจ้า เรื่อยๆๆๆๆๆๆ ลงมาจนถึง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆลงมาจนถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน ท่านคิดว่า ท่านสามารถพลิกประวัติศาสตร์หรือพลิกฝาท่อ กทม.ด้วยฝ่ามือน้อยๆของท่านได้หรือ
ผมตอบสั้นๆเพียงคำเดียวครับว่า ยากส์......และโคตรที่จะยากส์ ครับ
เหตุการณ์การต่อสู้เรียกร้องในประเทศอืยิปต์ (ตามประวัติศาสตร์และตามอัตตลักษณ์ของประเทศนี้ก็มีลักษณะคล้ายๆกับของประเทศไทยเรา) ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์ และไม่ใช่เรื่องที่จะมายกย่อง ให้เป็นตัวอย่างของประเทศไทย
ประเทศไทยนี่แหล่ะครับ คือต้นตำรับการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม โดยปราศจากอาวุธ ของโลกยุคใหม่ ที่เริ่มจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 เรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมาถึง รุ่น นปช.แดงทั้งแผ่นดิน
ดังนั้นท่านที่ชอบเอ่ยถึง อียิปต์ ลิเบีย ตูนีเซีย อืยิปต์ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ท่านกำลังดูถูกตัวเองอยู่น่ะครับ เราเป็นต้นตำรับเก่าแก่ ที่เก่าแก่กว่า ร้านโกฮับเจ้าเก่า ที่รังสิตเสียอีก
มาถึงตรงนี้แล้ว ผมขออนุญาตสรุปสั้นๆเพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจง่ายๆถึง “หัวใจ” แห่ง “พลังศักดิ์สิทธิ์” ที่ไม่ใช่เกิดจากทางด้านวิชาการ ที่ไม่ใช่เกิดจากทางด้านยุทธวิธี แต่มันเกิดจากการปฏิบัติในเหตุการณ์การต่อสู้เรียกร้องที่แท้จริง ของจริง และเสียงจริง
ข้อที่ ๑ : หัวใจ
ข้อที่ ๒ : เด็ดเดียว
ข้อที่ ๓ : รวมพลัง
ข้อที่ ๔ : ครั้งเดียวจบ
ข้อที่ ๑ : หัวใจ
มวลชนนับหมื่นนับแสนมารวมตัวในสถานที่เดียวกัน มีจุดหมายหรือเป้าประสงค์เดียวกัน นั่นคือ หัวใจ
ข้อที่ ๒ : เด็ดเดียว
รวมตัวได้แล้ว มีจุดหมายหรือเป้าประสงค์เดียวกันแล้ว (โดยปราศจากเต๊นท์อาหาร สุขาเคลื่อนที่ ดนตรีไพเราะ นักพูดน้ำลายสอ ) ไม่ว่าร้อน ไม่ว่าหนาว ไม่ว่าฝน ไม่สนไม่สะท้านหวั่นไหว นั่นคือ เด็ดเดี่ยว
ข้อที่ ๓ : รวมพลัง
หัวใจ พร้อม เป้าหมายพร้อม ทุกคนเด็ดเดี่ยว นั่นคือ รวมพลัง
ข้อที่ ๔ : ครั้งเดียวจบ
ข้อนี้สำคัญมากๆน่ะครับ เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 / 6 ตุลา 19 การปฏิบัติการตามจุดหมายหรือเป้าประสงค์ที่วางไว้ต้องเสร็จสิ้นทันที ไม่ยืดเยื้อ ไม่อ้อยสร้อย ถึงแม้จะต้องสูญเสียชีวิต สาบสูญ หรือพิกลพิการ นี่คือ ครั้งเดียวจบ
หัวใจ และ ภารกิจ ทั้ง 4 ข้อ ดูออกจะง่ายๆของใครบางคน แต่มันก็ได้สร้างความสูญเสียต่อ “พลังศักดิ์สิทธิ์” ของผู้วายชนม์ไปอย่างมากมายเหมือนกัน นี่คือ “พลังศักดิ์สิทธิ์” ที่แตกต่างไปจาก “พลังความคิด” ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างดาษดื่นในปัจจุบันนี้
ท่านเข้าใจคำว่า “พลังศักดิ์สิทธิ์” ดีขึ้นแล้วหรือยัง
ท้ายนี้ ผมขออนุญาตแขวะ “กลุ่มพลังความคิด” ที่ต่างเป็นห่วงเป็นใยและหวังดี ต่อ “พลังศักดิ์สิทธิ์” นปช.แดงทั้งแผ่นดิน สักนิดหนึ่ง พร้อมทั้งขออนุญาตแสดงความคิดที่หากเป็นไปได้
ดีไหม...? หาก“พลังศักดิ์สิทธิ์” ของกลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดินหรือแดงทั้งทั่วโลก ต่างมาร่วมกันสร้าง “พลังศักด์สิทธิ์ตัวนี้” ให้เกิดพลังหนทางใหม่ ในลักษณะเหมือนดั่ง “กลุ่มกรีนพีซ”
เหตุผลก็คือ
ประการแรก หลีกเลี่ยงและไม่ต้องปฏิบัติตาม หัวใจ “พลังศักดิ์สิทธิ์” ในข้อที่ 4 คือครั้งเดียวจบ
ประการที่สอง ยืดเยื้อและอ้อยสร้อยได้ ตามอัธยาศัย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในแต่ละปัญหา
ประการที่สาม ปลอดภัยไร้กังวล ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับการสรรหาแกนนำ,แนวร่วม มาทำหน้าที่ควบคุม ดูแล สั่งการ ชี้นิ้วแล้วนอน
เป้าหมายหลัก (ภาคการเมืองและสังคม)
ประการแรก ไม่ขึ้น ไม่เกี่ยว ไม่แลเหลียว พรรคการเมือง,บุคคล,หรือกลุ่มบุคคลทางการเมือง
ประการที่สอง จับตา ติดตาม ตรวจสอบ ถลกหนังหัว พรรคการเมือง,นักเลือกตั้ง (ไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย) ที่กำลังจะคลอดจากครรภ์ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน (ไม่ใช่การผสมพันธุ์เทียมในกระบอกของกลุ่มเสื้อหลืองที่ให้กำเนิดพรรคประชาธิปัตย์) ในไม่ช้านี้
ประการที่สาม ต่อสู้เรียกร้อง เปิดโปงเบื้องหลัง เปิดเผยความชั่ว เด็ดหัวคนเลว ในทุกๆปัญหาที่สร้างความเดือดร้อน ความไม่เป็นธรรมแก่สังคมโดยรวม
เป็นไงครับ ท่านผู้อ่าน ท่าน นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ท่านกลุ่มพลังความคิดทั้งหลาย ท่านว่าดีมั้ย แต่ที่น่าหนักใจที่สุด ( ในโลกนี้มันไม่มีความสมบูรณ์แบบให้เลือกเลย จริงๆ) ก็คือ “ฉันใดที่มีจ่าฝูงในหมู่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ในสังคมหมู่มากของมวลมนุษย์ ก็จำเป็นต้องมีแกนนำมาดูสั่งการ ฉันนั้น” นี่แหล่ะครับ สุภาษิตกะเหรี่ยงบทนี้แหล่ะที่ทำให้ผมหนักใจ
เอาแบบนี้ดีไหมครับ ท่านผู้อ่าน โหวตกันแบบประชาธิปไตย ฉบับ นปช.แดง 2554 กันเลยว่า
ถ้าท่านเห็นด้วยที่จะเปลี่ยนแปลง “พลังศักดิ์สิทธิ์” ไปเป็นรูปแบบการเมืองภาคประชาชนในลักษณะกลุ่มกรีนพีซ ให้กดคำว่า “เห็นด้วย” เมื่อมติส่วนใหญ่เห็นด้วย ก็ให้เปลี่ยน “พลังศักดิ์สิทธิ์”ไปเป็น “RED PEACE” ได้เลย
ส่วน หัวหน้าแกนนำ และทีมงาน ในฐานะที่ผมไม่เคยเห็นหน้าค่าตาตัวจริง และไม่เคยรู้จักกับท่านมาก่อนทั้งในอดีตและปัจจุบัน ผมขอเสนอท่าน บก.ลายจุด เข้าแข่งขันชิงชัยตำแหน่งนี้ครับ รวมถึงทีมงานอย่าง ท่าน 3 อาจารย์สาว ผมคิดว่าบุคลิก การวางแผน กิจกรรม การเคลื่อนไหว ของทุกท่านในทุกๆครั้งที่ผ่านมา หลังจากแกนนำ นปช.แดง ทั้ง 7 เดินทางไปพักผ่อนในที่จำกัด ก็ได้ท่าน บก.ลายจุด และ สามอาจารย์สาว นี่แหล่ะ ที่เป็นคนจุดพลุส่องสว่างในแนวทางใหม่ ของการต่อสู้เชิง “สัญลักษณ์” ให้กับ นปช.แดง จนกลายเป็นเชื้อไวรัส+แบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ แพร่ขจรขจายไปทั่วทุกมุมโลกที่คนไทยอาศัยอยู่
เหมาะสมไหมครับ ถ้าทุกท่านเห็นว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ช่วยกันสานฝันให้ผมหน่อยเถอะครับ ผมกราบล่ะ ผมจะได้นอนตาหลับ(แต่ยังไม่ตายน่ะครับ) เหมือนกับใครบางคนที่กำลังจะตายตาหลับ หลังจากสิ่งที่เธอ มุ่งหวังและรอคอยมันมาแสนนาน
รัฐบาลชุดนี้ได้ตอบสนองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชน 2,3000 ล้านบาท...!!!!