ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
มี การพูดถึงผลการเลือกตั้งส.ส.ในกทม. ซึ่งพรรค ประชาธิปัตย์ยังเหนือกว่าพรรคเพื่อไทย โดยได้ส.ส. 23 เขต ในขณะที่เพื่อไทยได้ 10 เขต ว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงกระแสของชนชั้นกลาง ยังยอมรับประชาธิปัตย์มากกว่า
อาจจะจริงส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
ถามคนในฝ่ายเพื่อไทย ว่ายอมรับหรือไม่ ในประเด็นคนกรุงเทพฯยังไม่หลงรักเพื่อไทยนัก
คำตอบคือ ยังต้องขอเวลาศึกษาหาคำตอบที่แน่ชัดเสียก่อน
ประการหนึ่ง แม้ประชาธิปัตย์จะได้ส.ส.มากกว่าเพื่อไทย 13 เขต แต่ในจำนวนนี้หลายเขตคะแนนสูสีมาก
อีกประการ น่าสังเกตว่าคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ กลับห่างกันเพียงแค่ 6 หมื่นเศษเท่านั้น!?!
จะให้แปลว่าคนจำนวนมาก เลือกประชาธิปัตย์ให้เป็นส.ส.เขต แต่ลงคะแนนพรรคเลือกเพื่อไทยอย่างนั้นหรือ
เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นขั้วตรงข้ามกันอย่างแท้จริง
ข้อผิดสังเกตที่เห็นได้จากผลคะแนนดังกล่าว จึงมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ตั้งทีมขึ้นมาศึกษาหาข้อมูลอย่างจริง
เพื่ออุดช่องโหว่ของสนามเลือกตั้งเมืองหลวงให้ได้
อย่างไรก็ตาม คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ประชาธิปัตย์เหนือกว่าเพื่อไทยในกทม. 6 หมื่นเศษ
จึงทำให้ตัดสินได้ไม่แน่ชัดว่า ในความขัดแย้งนองเลือด 91 ศพนั้น คนกรุงเทพฯให้น้ำหนักอะไรมากกว่ากัน
ระหว่างการเผาบ้านเผาเมือง
กับการฆ่าประชาชน
แต่ในขอบเขตทั่วประเทศชัดเจนว่า ประชาชน 15.7 ล้านคนเทเสียงให้เพื่อไทย อีก 11.3 ล้านคนเทเสียงให้ประชาธิปัตย์
นั่นก็เป็นคำตอบได้ว่า คนส่วนใหญ่ทั้งกลาง เหนือ อีสาน ต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐบาล!
ภายใต้ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้งคือข้าวของแพง
และความดำมืดของคดี 91 ศพ
โดยเลือกให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาสะสาง 2 ปมปัญหาใหญ่นี้
ตรงกันข้าม กระแสเผาบ้านเผาเมืองที่จุดโดยประชาธิปัตย์ ไม่อาจทำให้คนในขอบเขตทั่วประเทศหวาดกลัวเสื้อแดงจนไม่เลือกเพื่อไทยได้
แถมกระแสชาตินิยม ป่าวร้องว่าขั้วตรงข้ามขายชาติ ที่จุดโดยนายสุวิทย์ คุณกิตติ ในเวทีมรดกโลก โดยประสานกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น
คนทั่วประเทศตัดสินให้แล้ว ให้กิจสังคมสูญพันธุ์!
คนทั่วประเทศตัดสินให้แล้ว ให้กิจสังคมสูญพันธุ์!