ที่มา มติชน
โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข
ถ้าดูจากหุ้นที่พุ่งรับ ท่าทีของต่างประเทศ บรรยากาศทั่วๆ ไป ต้องถือว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ผ่านไปอย่างเรียบร้อย
ความเรียบร้อยมาจาก 1.พรรคเพื่อไทยได้ 265 เสียง เกินครึ่งจาก 500 เสียงของสภา 2.ประชาธิปัตย์เหลือ 159 นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยอมรับผลการเลือกตั้ง
เป็นผลที่ปิดปากฝ่ายที่เตรียมจะลุกขึ้นมาป่วน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลายเป็นว่าที่นายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทยไป
ผ่านไป 1 คืน วันถัดมารัฐบาล 5 พรรค 299 เสียงก็เกิดขึ้น ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก
ขั้นตอนต่อไปนี้ คือเรื่องของ "ตำแหน่ง" ต่างๆ
เพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ หลายกลุ่มหลายมุ้ง ผสมกับพรรคเล็กอีก 4 พรรค การบริหารจัดการให้ลงตัวไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
คนอยากเป็นมีมากกว่าเก้าอี้ ก็อย่างที่พูดกันตอนนี้ว่า ยอดจองทะลุเกินจำนวนเก้าอี้ที่มีอยู่ 35 ที่
บางตำแหน่ง มีเกียรติยศยิ่งใหญ่ อย่างประธานสภาผู้แทนฯ ที่ต้องเป็นประธานรัฐสภาด้วย โดยทฤษฎีเทียบเท่านายกรัฐมนตรี และประธานศาลฎีกา
แต่ตำแหน่งนี้ ไม่ค่อยอยากรับกัน ขอไปเป็นรัฐมนตรีมากกว่า ขี้เกียจนั่งบัลลังก์ต่อปากต่อคำกับฝ่ายค้าน ซึ่งเที่ยวนี้มาแบบชุดใหญ่
ชื่อของตัวเต็งในตำแหน่งนี้ อย่าง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ขุนค้อนเมืองขอนแก่น กับ วิทยา บุรณศิริ จากอยุธยา ก็เลยยังสรุปไม่ได้
สเปกของรัฐมนตรี ก็เป็นอีกเรื่องที่สังคมคาดหวังว่า พรรคเพื่อไทยควรจะคัดเลือกคนเก่งคนดีเข้ามาทำหน้าที่
ในงานบางด้านอย่างเศรษฐกิจ ก็มีเสียงจากนักธุรกิจบอกว่า อยากได้คนมีฝีมือ ที่เข้าใจถึงการแข่งขันระหว่างประเทศ
ต้องมองไกลไปถึงเศรษฐกิจระดับโลก ถึงจะเชื่อมต่อได้เป็นอย่างดีกับภาคเอกชนที่ล่วงหน้าไปไกลมากแล้ว
อีกสองตำแหน่งที่สังคมจับตา ได้แก่ รัฐมนตรีการต่างประเทศ และรัฐมนตรีกลาโหม
รัฐมนตรี การต่างประเทศ มีปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ที่จะต้องมาฟื้นฟูจัดระเบียบการอยู่ร่วมกันใหม่ เก็บกู้ระเบิดกรรมการมรดกโลกที่ยูเนสโก และบอมบ์ 4.6 ตร.กม. ข้างเขาพระวิหาร ที่ศาลโลกกำลังจะมีคำสั่งแรก หลังจากเขมรยื่นตีความคำพิพากษา
ก็ยังโชคดีที่กัมพูชาแสดงท่าทีต้อนรับรัฐบาลใหม่ อาจทำให้หารัฐมนตรีได้ง่ายขึ้น
ส่วน รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความละเอียดอ่อน รัฐบาลบางยุคให้นายกฯควบเก้าอี้ เพื่อให้เกียรติกับกองทัพและหน่วยงานทหาร
เที่ยวนี้ ใช้วิธี "ปรองดอง" โดยสอบถามจากผู้เกี่ยวข้องของฝ่ายทหาร เพื่อให้ได้ตัวบุคคลที่ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย
ขั้นตอนที่ยังต้องรอคอย ได้แก่การรับรอง ส.ส.โดย กกต. และการจัดทำโผเก้าอี้รัฐมนตรี
นายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทยจะไปได้หรือไม่ รายชื่อคณะรัฐมนตรีที่จะออกมา จะเป็นตัวตัดสินในเบื้องต้น
ประชาชนลงทุนเลือกเข้าไปเกินครึ่งของสภา ถือเป็นความได้เปรียบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองไหน
แต่ถ้าบริหารความได้เปรียบนี้ ให้สนองความคาดหวังของประชาชนไม่ได้
ฝ่ายค้านผสมยี่ห้อ ปชป.กับชูวิทย์ "จัดหนัก" แน่