ที่มา Thai E-News
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา เวบผู้จัดการ
23 มิถุนายน 2552
“ช่วงนี้ก็ไปปล่อยข่าวลือว่า ผมถูกสั่งยิงโดยฟ้า แล้วเขาก็ไม่รู้ว่า ทางข้างบนก็รู้ว่านี่คือข่าวลือที่ปล่อยออกมา ใครปล่อยเขาก็รู้ เขาบอกว่าปล่อยผ่านพระองค์หนึ่งแถวยานนาวา พระองค์นั้นท่านก็ฉุนว่าเอาท่านไปเกี่ยวข้องอะไร ท่านก็โทร.ไปรายงานฟ้าเหมือนกันว่าท่านไม่เกี่ยวข้อง แล้วบอกด้วยว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ นี่คือความทุกข์ มันปิดไม่มิดหรอก เอามือปิดฟ้าได้ยังไง”นายสนธิกล่าว(คลิ้กชมสนธิพูดที่นี่)
เวบไซต์ผู้จัดการASTVรายงานข่าวว่า รายการ “แอน จินดารัตน์” ดำเนินรายการโดยนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ออกอากาศทางเอเอสทีวี ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันจันทร์ที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ เพื่อให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ทั้งช่วงก่อนและหลังจากถูกลอบสังหารด้วยอาวุธสงคราม เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนายสนธิบอกว่าแผลที่ถูกยิงที่ศีรษะหายแล้วประมาณ 70% ซึ่งบางครั้งยังมีอาการเวียนหัวอยู่ เนื่องจากน้ำในหูไม่เท่ากัน เลือดที่ส่งไปเลี้ยงสมองยังทำงานไม่เต็มที่ ที่สำคัญเวลาผ่าตัดฤทธิ์ยาสลบที่ใช้ในการผ่าตัดยังคงอยู่ในร่างกายอีก 50 % จะทำให้เหนื่อยง่าย ง่วงเร็ว ตรงนี้ต้องใช้เวลาในการขับฤทธิ์ยาออกไป และครั้งนี้เป็นครั้งแรงในชีวิตที่หนักที่สุดสำหรับการผ่าตัดและวางยาสลบ แต่แปลกหลังจากฟื้นรู้สึกตัวเร็วมากไม่มีอาการเมายาสลบเลย สามารถทักทายกับคนทั่วไปได้
เมื่อถามว่าทำไมยังเอาเสื้อ กางเกงที่เปื้อนเลือดมาแขวนไว้ในห้องทำงาน นายสนธิ กล่าวว่าต้องการเอาไว้เตือนใจให้รู้ว่า เลือดที่หลั่งลงสู่ดินนี้เป็นเลือดคนบริสุทธิ์ คนที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อ และโดนคนซึ่งโดยหน้าที่ควรจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองเหมือนกับตน แต่ต้องมาแปลงร่างเป็นอสูรกายมายิงตน งานนี้เป็นคนมีสียิงแน่นอน อย่างไรก็ดีตนเชื่อในเรื่องของเวรกรรม และอโหสิกรรมให้ ทุกวันนี้ได้แต่สวดแผ่เมตตาให้ผู้กระทำ ไม่โกรธ ไม่แค้น ไม่เคืองเขา ให้กฎแห่งกรรมเป็นตัวเร่งให้เขารับกรรมไม่ว่าเขาจะใหญ่แค่ไหน จะมียศเป็นพลเอกก็ตาม
นายสนธิ กล่าวต่อว่า คนที่สั่งฆ่านั้นเป็นพวกที่มีอวิชชา คิดว่าตนเป็นคนอันตราย พูดไม่รู้เรื่อง ต้องฆ่า เหมือนสมัยรุ่น 5 ยึดอำนาจก็ส่งคนมายิง เพราะนายสนธิ ซื้อไม่ขาย ขอไม่ให้ ต้องยิงมัน ทั้งนี้ ผู้มีอำนาจมีอิทธิพลจะกลัวคนที่มีจุดยืน ส่วนคนเสื้อแดงนั้นไม่น่ากลัว เพราะไม่มีอุดมการณ์พวกเขาอยู่ได้ด้วยท่อน้ำเลี้ยง ด้วยเงิน แต่เขากลัวพันธมิตรฯ ที่มีจิตวิญญาณ ซื่อสัตย์ จิตบริสุทธิ์ รักชาติบ้านเมือง และมีอำนาจแห่งปัญญาที่วิเคราะห์ได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด มีหิริโอตปะ มีจริยธรรม เชื่อว่าพี่น้องพันธมิตรฯ หลายคนเคียดแค้นว่าทำไมตนต้องถูกยิง แล้วถ้าวันข้างหน้ามีการจับคนร้ายได้ แล้วชี้ไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง เชื่อว่าพันธมิตรฯ มีอิทธิพลในการสร้างความกดดัน ให้คนที่สั่งการอยู่เบื้องหลังการสั่งยิงมีชีวิตอยู่อย่างไม่เป็นสุข ชนิดถ้ามีชีวิตอยู่ สู้ตายดีกว่า เขาจะมองหน้าคนไม่ได้ เพราะคนที่เคียดแค้นแทนมีอยู่ทุกวงการ พันธมิตรฯ คงไม่ทำอะไรเขา แต่สายตาที่มองอย่างดูถูกเขาจะทนไม่ได้
“ช่วงนี้ก็ไปปล่อยข่าวลือว่า ผมถูกสั่งยิงโดยฟ้า แล้วเขาก็ไม่รู้ว่า ทางข้างบนก็รู้ว่านี่คือข่าวลือที่ปล่อยออกมา ใครปล่อยเขาก็รู้ เขาบอกว่าปล่อยผ่านพระองค์หนึ่งแถวยานนาวา พระองค์นั้นท่านก็ฉุนว่าเอาท่านไปเกี่ยวข้องอะไร ท่านก็โทร.ไปรายงานฟ้าเหมือนกันว่าท่านไม่เกี่ยวข้อง แล้วบอกด้วยว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ นี่คือความทุกข์ มันปิดไม่มิดหรอก เอามือปิดฟ้าได้ยังไง”นายสนธิกล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ชีวิตความเป็นอยู่หลังโดนลอบยิง ยอมรับว่าลำบากขึ้น การที่มีคนเดินล้อมหน้าลอมหลังตนนั้น เป็นเพราะมีเพื่อนที่เป็นตำรวจที่เกษียรแล้วเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยจัดกำลังมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้ ลำพังตนไม่ได้ประมาท แต่มีความเชื่อมันในเรื่องกฎแห่งกรรม ถึงแม้จะมีคนล้อมหน้าล้อมหลังมากน้อยแค่ไหน เมื่อมันจะตายอย่างไรมันก็ตาย แต่ถ้าไม่ตายก็ไม่ตาย ขนาดโดยยิงกว่าร้อยนัดยังไม่ตายเลย ตอนนี้ชีวิตไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากอยากให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น อยากให้ชาติบ้านเมืองรู้จักถูกผิด มีที่ยืน ไม่ใช่ว่าอยู่ๆวันดีคืนดีมีคนเอาปืนมายิง ซึ่งคนพวกนี้ต้องได้รับกฎแห่งกรรม หรือกรณีที่ คุณธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เพิ่งให้สัมภาษณ์บอกว่าเจอตอ เมื่อเจอตอแล้วหาคนร้ายไม่ได้ อย่างนี้ประเทศไม่มีที่ยืนแล้ว หวังไม่ได้แล้ว ทุกคนมีสิทธิตายได้ ถ้าคนมีอำนาจแล้วสั่งฆ่าใครก็ได้
ธานี” รับคดียิง “สนธิ” เจอตอ! ตร.ขวัญกำลังใจกระเจิง!
ผู้จัดการASTVรายงานข่าวในหัวข้อข่าว “ธานี” รับคดียิง “สนธิ” เจอตอ! ตร.ขวัญกำลังใจกระเจิง! โดยข่าวระบุว่า เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกประชุมหนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตยและผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งมีการประชุมในทุกสัปดาห์ เพื่อประมวลความคืบหน้าของคดี โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า การทำคดีมีความคืบหน้าไปมาก ส่วนการจะจับกุมคนร้ายขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งก็มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน คาดว่าจะสามารถสรุปคดีได้อีกไม่นาน
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และผมจะทำคดีให้เสร็จก่อนเกษียณอายุราชการ” พล.ต.อ.ธานี กล่าวยืนยันเมื่อถูกถามว่าคดีนี้แสดงว่าทราบตัวคนร้ายแล้ว
พล.ต.อ.ธานี กล่าวยอมรับถึงอุปสรรคที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทั้งที่เวลาผ่านมานานแล้วว่า การทำงานไม่ค่อยราบรื่น แต่ก็พยายามทำ ถ้าไม่มีอะไรก็น่าจะได้ผลเร็วกว่านี้ แต่ปัญหาที่พบก็ทำให้การทำงานช้า ทำให้คนที่ทำงานกลัว แต่ยังไม่มีใครมาข่มขู่ตน ได้แต่สงสารคนทำงานที่จะไม่มีขวัญกำลังใจ ถ้าไม่มีปัญหาจะไปได้ไกลกว่านี้
เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นได้รายงานให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีทราบหรือไม่ พล.ต.อ.ธานี ถึงกับนึ่งเงียบไปพักใหญ่ ก่อนตอบว่านายกรัฐมนตรีก็ทราบและได้ให้กำลังใจ ให้ทำงานต่อ ดังนั้นจะไม่ทำได้อย่างไร ในเมื่อกฎหมายบ้านเมืองก็มีขื่อมีแป หากมีคดีฆ่ากันแล้วตำรวจไม่ทำจะอยู่ได้อย่างไร