WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, June 23, 2009

ส.ว.คว่ำ พรก.ขึ้นภาษีน้ำมัน

ที่มา เดลินิวส์

มาร์คดิ่งด่วนจากสิงคโปร์หวั่น พรก.กู้ไม่ผ่านซ้ำสอง ส.ส.เพื่อไทยขยาดย้ายค่าย

ส.ว.ออกฤทธิ์ คว่ำ พ.ร.ก.แก้กฎหมายสรรพสามิตขึ้นภาษีน้ำมันห่วงกระทบประชาชน ตกกลับรัฐบาลตั้งหลักชงใหม่ชำแหละกระจาย พ.ร.ก.กู้แหลก สับจ่ายค่าโต๊ะบุฟเฟ่ต์ต้อนรับรัฐบาลใหม่ นายกฯ รีบแจ้นไปแจงสภาสูงหลังกลับจากสิงคโปร์ กล่อม ส.ว.อุ้มให้ผ่าน “ภูมิใจไทย” ขยาด “มนต์แม้ว” ร่ายข้ามทวีป ยอมรับพ่ายกลยุทธ์หาเสียงผ่านมือถือ “จุมพฏ” เผย ส.ส.เพื่อไทยหัวคะมำ เบรกตัวโก่งย้ายซบ ภท. “เพื่อไทย” ดี๊ด๊ารักษาที่นั่งไว้ได้โวย คะแนนล่วงหน้าพิรุธ กกต.เผยรับมาแล้ว 7 เรื่องร้องเรียน “ชาติไทยพัฒนา” แหยงยี่ห้อ “เนวิน” รีบยืนยันผู้สมัครซ่อมศรีสะเกษเป็นเลือดแท้ นายกฯ แนะ ภท.ต้องทบทวนแนวทาง แจงภท.ไม่เคยร้องขอให้ ปชป.ช่วยหาเสียง โปลิศดันกฎหมายขึ้นเงินเดือนเข้า ครม. พร้อมหาช่องเจรจาธนาคารแก้หนี้บัตรเครดิตให้ตำรวจ

นายกฯแนะภท.ต้องทบทวน

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.สกลนคร ที่พรรคภูมิใจไทยแพ้พรรคเพื่อไทยแบบขาดลอยว่า เป็นเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยคงต้องทบทวนแนวทางต่าง ๆ ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการทำงานของพรรคการเมืองนั้นต้องใช้เวลาในการสร้างฐานทางการเมือง แต่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณต่อการเลือกตั้งในครั้งหน้า ซึ่งในภาพรวมตอนนี้ไม่มีอะไรหนักใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่านายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาแสดงความน้อยใจว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าไปช่วยเหลือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงถ้าเขาต้องการให้เราไปช่วยก็ยินดีอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าช่วงที่มีการหาเสียงก็ไม่มีการประสานมา ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศว่าถ้าผลการเลือกตั้งซ่อมพรรคเพื่อไทยชนะก็จะเดินทางกลับประเทศ นายกฯ กล่าวว่า ก็ดี ควรที่จะเข้ามารับผลทางด้านกฎหมาย ส่วนพรรคเพื่อไทย วางยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมานั้นก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคว่าจะชูแนวทางไหน

“ชัย”รับยี่ห้อใหม่เพิ่งขึ้นเวที

นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.สกลนคร ว่า ไม่ถือเป็นความพ่ายแพ้ เพราะเราเหมือนนักมวยใหม่ที่เป็นเด็กเพิ่งขึ้นเวที จะไปสู้นักมวยเก่าที่ซ้อมมาเป็นอย่างดีคงไม่ได้ เมื่อขึ้นไปก็ถูกน็อกเป็นเรื่องธรรมดา แม้พรรคจะมีพี่เลี้ยงดีก็ตาม แต่ก็ไม่ขึ้นชกเอง อย่างนายเนวิน ชิดชอบ แม้จะเป็นพี่เลี้ยงแต่ก็ไม่มีสิทธิอะไร เพราะถูกตัดสิทธิทางการเมือง การแพ้ในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการแพ้ที่ตัวบุคคล ตัวนโยบาย เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่เก่าของเขา

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งสัญญาณ ให้ ส.ส. ไม่กล้าย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่ห่วง เพราะ ส.ส. แต่ละคนมีอุดมการณ์เป็นของตัวเอง อยากอยู่พรรค ไหนก็อยู่ได้ อีกทั้งการย้ายพรรคก็เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. แต่ละคน ทั้งนี้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ส.ส. ที่อยู่กับพรรคภูมิใจไทยจะได้รับเลือกตั้งทุกคน อย่าไปโทษว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นเพราะกระแสความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศเพื่อมาแก้ปัญหาของตัวเอง โดยเฉพาะปัญหาคดีความต่าง ๆ ให้เรียบร้อย เมื่อพ้นตรงนั้นก็กลับมาเป็นนายกฯได้อีกครั้ง มาแข่งขันกันให้ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยจะดีกว่า การเมืองจะได้สงบ

ยก“ทักษิณ”ยังครองใจอีสาน

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช. คมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การแข่งขันในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 สกลนคร เปรียบเหมือนเกมกีฬาย่อมมีแพ้ชนะ ตอนนี้ถือว่าจบกระบวนการไปแล้ว ซึ่งพวกเรายอมรับความ พ่ายแพ้ครั้งนี้ เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน และต้องยอมรับความจริงว่า พ.ต.ท. ทักษิณยังเป็นที่รักของประชาชนในภาคอีสาน อย่างไรก็ดี เบื้องต้นเราไม่ต้องการให้มีการฟ้องร้อง แต่ขอให้เป็นเรื่องที่ กกต. ดำเนินการเอง และเมื่อการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 สกลนคร จบไปแล้วก็ให้มันจบลงไปด้วยดี

นางศุภมาส อิศรภักดี รองโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จากการประเมินผลการเลือกตั้งซ่อม ในช่วงโค้งสุดท้ายเริ่มเห็นอาการไม่ดี เพราะในการปราศรัยทุกเวทีให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินเพื่อปลุกกระแสให้ประชาชนคลั่งไคล้ อีกทั้ง พ.ต.ท. ทักษิณยังโทรฯสายตรงหากำนัน ผู้ใหญ่บ้านด้วยตัวเอง การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้พรรคสรุปได้ว่า พ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้ฟื้นแต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยตายต่างหาก และต้องยอมรับว่าเราแพ้กระแส แพ้กระสุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นเทวดาของคนอีสาน อย่างไรก็ดีคนที่ตั้งใจจะย้ายมาอยู่กับเราก็ยังยืนยันว่าจะย้ายมาไม่เปลี่ยนแปลง

เผยรู้ผลส.ส.พท.เบรกย้ายรัง

นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยนการตัดสินใจกรณีที่จะย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน แม้ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สกลนคร เขต 3 ที่ผ่านมา นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย จะได้รับชัยชนะเหนือนายพิทักษ์ จันท ศรี ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย แบบขาดลอยถึงกว่า 4 หมื่นคะแนน เพราะเหตุผลที่ตนเองตัดสินใจย้ายสังกัดเป็นเพราะถูกขัดขวางการทำงาน ไม่ได้เกี่ยวกับกระแสความแรงของพรรคภูมิใจไทย

นอกจากนี้ นายจุมพฏ ยังยอมรับว่า ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สกลนคร ที่ผ่านมา ทำให้ ส.ส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ที่แต่เดิมมีความคิดที่จะย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้เปลี่ยนใจที่จะไม่ย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยแล้ว เพราะเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า

“เพื่อไทย”ตีปีกรักษาแชมป์ได้

ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยและนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส. กรุงเทพฯ ในฐานะประธานภาคกทม.ร่วมแถลงข่าวขอบคุณประชาชนเขต 3 สกลนคร โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอนโยบาย เจตนารมณ์ของเราให้ประชาชนได้รับทราบอย่างตรงไปตรงมา และขอบคุณคนที่มาช่วยหาเสียงไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้ถือว่ารุนแรง ฝ่ายหนึ่งมีอำนาจรัฐในมือ ส่วนพรรค เพื่อไทยมีแต่หัวใจ ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นกำลังใจให้พวกเราทำงานต่อไป

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการลงคะแนน ล่วงหน้า เพราะพบว่าในจำนวน 21,060 เสียง เป็นคะแนนของพรรคภูมิใจไทย 16,952 เสียง คิดเป็น 82% ในขณะที่พรรคเพื่อไทยได้เพียง 18% หรือ 3,900 กว่าคะแนน แต่พอมาถึงการลงคะแนนวันจริงผลที่ออกมาตรงกันข้าม พรรค เพื่อไทยได้ 64% แต่พรรคภูมิใจไทยได้ 36% ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ส่งหนังสือให้ กกต. ตรวจสอบการเลือกตั้งล่วงหน้าว่าข้อเท็จจริงคืออะไรและการกำหนดวันลงคะแนนไว้ 2 วันในขณะที่วันจริงลงคะแนนเพียง 1 วัน มันเปิดช่องให้มีการทุจริตหรือไม่ ส่วนข้อร้องเรียนที่ยื่นต่อ กกต. ไป 7 ข้อนั้น แม้ว่าเราจะชนะแล้วก็อยากให้กระบวนการดำเนินการต่อไป

ชทพ.เด้งหนีกระแส“เนวิน”

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ศรีสะเกษ พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นคนของพรรคภูมิใจไทยที่มาฝากเลี้ยงไว้ในพรรคชาติไทยพัฒนาว่า ขอปฏิเสธข่าวดังกล่าวโดยสิ้นเชิง เพราะนางสกุลทิพย์เป็นคนของพรรคชาติไทยพัฒนาโดยแท้ ข่าวที่ออกมาเป็นการปล่อยข่าวจากฝ่ายตรงข้าม เพื่อสร้างกระแสให้กับพรรคตัวเอง เนื่องจากเห็นว่ากระแสของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำ แพ้การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร ตนเชื่อว่าเมื่อผลเลือกตั้งซ่อมสกลนครออกมาเช่นนี้ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยฮึกเหิม และต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยจะกดดันให้รัฐบาลเกิดการเปลี่ยนแปลงจนไปสู่การเลือกตั้งใหม่ให้ได้

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า สำหรับอาการป่วยของนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ อีกไม่นานจะสามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นปกติ ทั้งนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาและครอบครัว “ศิลปอาชา” ขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะนายกฯ และ ครม. ที่เดินทางไปเยี่ยมเยียนและแสดงความห่วงใยต่ออาการ ป่วยของนายชุมพล

มีร้องเรียนเข้ามาแล้ว7เรื่อง

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้ง เขต 3 สกลนครเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ผู้ที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งคือ นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้ 83,348 คะแนน และอันดับสอง นายพิทักษ์ จันทศรี จากพรรคภูมิใจไทย ได้ 47,235 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิ 58.06% มีบัตรดี 96.45% บัตรเสีย 1.16% และบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 2.37%

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนขณะนี้มีจำนวน 7 เรื่อง โดยในส่วนของผู้สมัครที่ได้รับการเลือกตั้งโดนกล่าวหาในกรณี การใส่ร้าย หลอกลวงให้สำคัญผิดในคะแนนนิยม โดยรวมไปถึงกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ถูกร้องในกรณีการแจกเงินและขนคนมาใช้สิทธิลงคะแนน ทั้งนี้ กกต. ต้องรอ กกต.จังหวัดพิจารณาว่าจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหรือไม่ หลังจากนั้นจึงส่งมาให้ โดย กกต. มีเวลาวินิจฉัย 30 วัน ซึ่งหากพิจารณาทัน กกต. ก็อาจจะประกาศรับรองผลหรือแจกใบเหลืองใบแดง แต่พิจารณาไม่ทัน เวลาที่กำหนดก็จะประกาศรับรองผลไปก่อน

ไม่ฟันธงเชือด“แม้ว”โฟนอิน

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีบรรทัดฐานของการโฟนอินเข้ามา ไม่สามารถเอาผิดได้เพราะไม่มีกฎหมายระบุไว้ นายประพันธ์ กล่าวว่า เราต้องดูข้อเท็จจริงเพราะแต่ละเรื่องข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ยังบอกไม่ได้ว่าผิดหรือไม่ผิด ซึ่งก็ต้องให้คณะกรรมการเขาพิจารณาก่อน ซึ่ง กกต. การพิจารณาจะต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และไม่หนักใจในการพิจารณาเพราะต้องยึดหลักกฎหมาย

นายประพันธ์ กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่ อ.เจริญศิลป์ ว่าเท่าที่ได้รับรายงานเหตุระเบิดเกิดห่างจากที่ปราศรัยหาเสียงพอสมควร แต่ยังไม่ได้ระบุว่า เกิดจากสาเหตุใด แล้วเท่าที่ได้รับรายงานมา หากมีการประสงค์จะประทุษร้ายก็ถือว่าอยู่ห่าง เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสอบสวน ไปตามระเบียบว่าในวันดังกล่าวมีใครเดินแถวนั้นหรือไม่ และยังคาดเดาไม่ได้ว่าเป็นการขอความเห็นใจหรือไม่

ส.ว.ประเดิมสับขึ้นภาษีน้ำมัน

ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานที่ประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการพิจารณา พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 8 แสนล้านบาท โดยที่ประชุมเห็นชอบการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ของวุฒิสภา จำนวน 27 คน พร้อมทั้งให้ความเห็นชอบพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ฉบับที่ 2

ต่อจากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา พ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 ฉบับที่ 5 พ.ศ. 2552 ที่ ครม. เสนอมาด้วย โดย ส.ว. ส่วนใหญ่อภิปรายแสดง ความเป็นห่วงการขึ้นภาษีน้ำมัน

โดยเห็นว่ารัฐบาลควรหารายได้จากส่วนอื่นนอกเหนือจากการขึ้นภาษีน้ำมันที่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้บริโภคต้องสูงขึ้นด้วย ซึ่ง พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา อภิปรายว่า ไม่เป็นความจริงที่บอกว่าขึ้นภาษีน้ำมันไม่กระทบประชาชน แนวคิดที่จะนำเงินจากกองทุนน้ำมันมาปิดหีบงบประมาณก็ถือเป็นแนวคิดที่ผิดอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า รัฐบาลทำสิ่ง ที่สวนทางกันคือ ออก พ.ร.ก.เพื่อกู้เงินจากต่างประเทศมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันขึ้นภาษีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มภาระให้กับประชาชนอีก

สุดท้ายโหวตคว่ำไม่ให้ผ่าน

นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ชี้แจงว่า เหตุที่รัฐบาลตัดสินใจใช้วิธีขึ้นภาษีน้ำมันและภาษีบาป เพราะต้องการให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความประหยัดในการใช้พลังงานน้ำมัน และการใช้เงินไปกับสินค้าฟุ่มเฟือยสินค้าที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของประชาชน ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่า ยอมรับว่าเป็นโชคไม่ดีทั้งที่ไทยปรับอัตราภาษี ขณะที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่จากนั้นราคาน้ำมันก็สูงขึ้นมาอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรล ตามราคาตลาดโลกที่สูงขึ้น ซึ่งยังจำเป็นต้องคงภาระของกองทุนน้ำมันไว้ในระดับนี้ก่อนเพื่อไม่ให้กองทุนน้ำมันแบกรับหนี้ไว้สูงเกินไป ตนยังมีอำนาจของกระทรวงการคลังที่จะปรับลดอัตราภาษีส่วนนี้ได้อยู่ซึ่งจะพยายามไม่ให้ซ้ำเติมประชาชน

ภายหลังการอภิปรายกว่า 1 ชั่วโมง ในที่สุดที่ประชุมวุฒิสภา ลงมติไม่ให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.ก.แก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 58 ต่อ 32 เสียงงดออกเสียง 10 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคห้าระบุว่าถ้าวุฒิสภาไม่อนุมัติและสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันการอนุมัติด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ให้ พ.ร.ก. นั้นมีผลใช้บังคับเป็น พ.ร.บ. ต่อไป

วิปรัฐบาลเผยมีช่องบังคับใช้

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐ บาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2552 ว่า มีช่องทางที่ดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว เมื่อวุฒิสภาไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว ทางประธานวุฒิสภาจะต้องแจ้งให้ ครม.และสภา รับทราบตามข้อบังคับที่ 158 ของการประชุมวุฒิสภา ซึ่งเมื่อ ครม. รับทราบแล้วถ้า ครม. ยืนยันและเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเร่งด่วน ทางรัฐบาลอาจจะขอเปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้อีก

ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าอีกว่า อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลเห็นว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ไปแล้วไม่มีผลกระทบอะไร ก็อาจรอให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติที่จะเปิดในวันที่ 1 ส.ค. แล้วค่อยนำเข้าก็ได้ นอกจากนี้ ทางรัฐบาลอาจจะดำเนินการตามมาตรา 184 วรรค 5 ของรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดว่าหากวุฒิสภาไม่เห็นชอบ ทางรัฐบาลต้องใช้เสียง ส.ส.ในสภา เพื่อยืนยันด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ที่มีอยู่ในสภาเพื่อให้ พ.ร.ก.มีผลใช้บังคับเป็น พ.ร.บ.ต่อไป

ยำพ.ร.ก.แนะลดช่วงเวลากู้เงิน

ขณะเดียวกัน การประชุมวุฒิสภาสมัย วิสามัญ พิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 โดย ส.ว. ได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ท้วงติงไม่เห็นด้วยเพราะไม่มีการตรวจสอบวงเงินจำนวนมาก ทำให้เกิดการทุจริตได้ง่าย อาทิ นายธวัช บวร วนิชยกูร ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนได้สอบถาม รมว.คลังว่า หากใช้เงินในโครงการหนึ่งไม่หมดแล้วสามารถโยกงบประมาณมาให้กับอีกโครงการหนึ่งได้หรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่าสามารถทำได้

นายธวัช อภิปรายไว้อีกว่า เงินจำนวน 8 แสนล้านบาท ถือเป็นแค่หัวเชื้อของโครงการไทยเข้มแข็ง ที่ต้องใช้เงินจำนวน 1.43 ล้านล้านบาท เมื่อเป็นเงินก้อนใหญ่ ไม่สามารถตรวจสอบได้ สุ่มเสี่ยงการทุจริตในการใช้งบประมาณ รัฐบาลอาจลดช่วงเวลากู้เงินเหลือแค่ปี 53 แล้วนำกลับมาพิจารณาด้วยวิธีงบประมาณ ทำให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ แม้จะช้าหน่อยก็ไม่เกิน 3-4 เดือน แต่ไม่ใช่การตีเช็คเปล่าอย่างนี้

ห่วงซื้อบุฟเฟ่ต์ให้รัฐบาลหน้า

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า รัฐบาลยังเห็นสภาเป็นที่ประกอบพิธี กรรม ประชุม ครม. ไม่กี่สิบนาที ก็อนุมัติวงเงินโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวง มหาดไทย เพิ่มเติมเป็นเงิน 4.9 พันล้านบาท เป็นอาการพิรุธ ที่สังคมเชื่อแบบนี้บ้างก็สงสัยว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อการโหวตให้ของ ส.ส. พรรคร่วม และข่าวลือเกี่ยวกับ ส.ส. ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้านได้มีการหารือกับนายกฯ เกี่ยวกับแบ่งงบประมาณลงพื้นที่ บางคนนินทา ไปถึงขั้นว่า ไม่ทันการหรือไม่ทันกินกันแน่

นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนายกฯ และ รมว.คลังคนนี้ไม่ได้กลับมา แล้วระเบียบการใช้เงินและการคุมเงินดังกล่าวจะยังอยู่หรือไม่ เพราะแก้ไขได้โดยมติ ครม. ซึ่งสำหรับนายกฯ คนนี้ตนมั่นใจว่าจะไม่โกง แต่ถ้าไม่ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีก จะเหมือนว่ารัฐบาลนี้เสียค่าโง่ตั้งโต๊ะให้รัฐบาลหน้ากินบุฟเฟ่ต์กันหรือไม่

คลังแจง-นายกฯแจ้นมาจ้อ

นายกรณ์ ชี้แจงว่า การกำหนดเงินไว้เกินวงเงินที่จะใช้จ่าย เพราะรัฐบาลป้องกันไว้ว่า อาจมีโครงการใดที่ประสบปัญหาอุปสรรค ไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้มีวงเงินเข้ามาใช้ทดแทน ได้ในโครงการไทยเข้มแข็ง ขอยืนยันว่ารัฐบาลพิจารณาว่า เม็ดเงิน 2 ก้อน ๆ ก้อนละ 4 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน มีวัตถุประสงค์ในการใช้ต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยส่วนหนึ่งจะใช้ปิดหีบ อีกส่วนคือโครงการไทยเข้มแข็ง ระยะแรกและระยะถัดมา

นายกรณ์ กล่าวว่า ที่ตั้งโต๊ะไว้ 1.5 ล้านล้านบาทตั้งแต่แรก เพราะต้องการส่งสัญญาณ ที่ชัดเจน ในความจำเป็นในการลงทุน จึงกำหนดเม็ดเงินให้ชัดตั้งแต่แรก และไม่แก้ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ แต่ประเด็นนี้ก็ทบทวนแล้ว หากตัดสินใจเลือกแบบนี้ การแก้ พ.ร.บ.หนี้สาธารณะ เป็นการส่งสัญญาณเชิงลบขาดวินัยการคลังของรัฐบาล และให้มีกฎหมายเพื่อเข้าถึงเงินลงทุนพิเศษ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนี้ภายหลัง นายกรณ์ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่านายอภิสิทธิ์จะรีบมาชี้แจงต่อวุฒิสภาในการพิจารณาเรื่องนี้หลังเดินทางกลับจากสิงคโปร์ทันที

เยือนสิงคโปร์ตีปี๊บ ศก.ไทย

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ และคณะ ออกเดินทางไปสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อหารือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยกับสิงคโปร์ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ในวันเดียวกันนี้ว่า นายอภิสิทธิ์ เปิด เผยกับคณะนักธุรกิจระดับสูงของสิงคโปร์ ในระหว่างการเยือนประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการและได้เข้าร่วมหารือกับนายลี เซียน ลุง นายกฯ สิงคโปร์ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงถดถอยว่า จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งในปีหน้า ซึ่งตนก็หวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะนำไปสู่การสร้างงานได้ 1.5-2 ล้านตำแหน่ง ส่วนสาเหตุที่เศรษฐกิจไทยถดถอยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และการเติบโตทางเศรษฐกิจหดตัวอย่างมากเกินที่คาดหมายไว้ 7.1% เพราะปัญหาการส่งออกและการท่องเที่ยวในประเทศที่ได้รับผลกระทบ

ตร.ขอขึ้นเงินเดือน-ปลดหนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม. วัน ที่ 23 มิ.ย.นี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเสนอร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงิน ประจำตำแหน่ง (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ให้ครม. พิจารณา โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอว่า สมควรปรับปรุงระบบเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการตำรวจให้เหมาะสมกับอำนาจหน้าที่และสภาพสังคม เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งสมควรที่จะต้องกำหนดว่าต้องสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เพียงพอแก่การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ปฏิบัติราชการได้ตามเป้าหมายและมีความต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าทาง สตช. ได้หารือกับทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) เพื่อจะดำเนินโครงการปล่อยสินเชื่อปรับ หนี้บัตรเครดิต (รีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต) ให้แก่ข้าราชการตำรวจ เพื่อเป็นการร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอัตราการเป็นหนี้สินในระดับที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงได้ในเร็ววันนี้

“น้องยิ้ม”เข้ารับทราบข้อหา

เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ หรือ “น้องยิ้ม” ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เดินทางมาพร้อมนายคารม พลทะกลาง ทนายความ เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.สุพจน์ ชายป่า พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พระราชวัง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดูหมิ่นศาล หลังจากนายเชาวนะ ไตรมาศ รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเดินทางเข้าแจ้งความไว้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเมื่อ “น้องยิ้ม” เดินทางมาถึง สน.พระราชวัง กลุ่มเสื้อแดงต่างพากันเข้ามอบดอกไม้พร้อมตะโกน “วิสาระดี สู้ สู้- น้องยิ้ม สู้ สู้” ตลอดเวลา

โดยนายคารม กล่าวว่า ครั้งนี้ น.ส.วิสา ระดี ได้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งแรก ตำรวจก็แจ้งข้อหาและให้กลับบ้านได้ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ก็จะให้การโดยละเอียดอีกครั้งไปที่อัยการ อัยการก็จะส่งศาลต่อไป

ก๊วนพรรคร่วมนัดกินข้าว

ที่ห้องอาหารจีน เดอะไชน่าเฮาส์ โรงแรมโอเรียนเต็ล เวลา 18.30 น. นายสุวัจน์ ลิปต พัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นเจ้าภาพนัดอดีตแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลรับประทาน อาหารร่วมกัน อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย นายปรีชา เลาห พงศ์ชนะ แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช. คลัง เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา โดยที่ไม่มีแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมแต่อย่างใด

ทั้งนี้นายอนุทิน เปิดเผยก่อนรับประทานอาหารว่า เป็นการรับประทานอาหารกันตามปกติ เฉพาะสมาชิกที่ตกงาน บ้านเลขที่ 111 จึงไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมานายประดิษฐ์ กล่าวหลังร่วมรับประทานอาหารนานกว่า 2 ชั่วโมงว่า ไม่มีนัยทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ไม่มาร่วมเพราะติดภารกิจที่สภาอีกทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ก็เดินทางไปสิงคโปร์กับนายกฯ.