WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, June 24, 2009

หลอมใจสู่จุดเริ่มของชัยชนะการปฏิวัติประชาชน

ที่มา thaifreenews

เขียนโดย ปูนนก
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2009 เวลา 01:27 น.

alt

ประชาชนไทยผู้รักประชาธิปไตยทั้งประเทศล้วนแต่ก็เป็นคนที่รักสงบ และมีความซื่อสัตย์จงรักภักดี มีความอดทนอดกลั้นต่อความ อยุติธรรมสูง ระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาหลังการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 ประเทศไทยพังทลายลงในทุก ๆ ภาคส่วน ทั้งในด้านสังคม, เศรษฐกิจ, และการเมือง คงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงในรายละเอียดว่าการพังทลายของสิ่งดังกล่าวนั้นมีอะไรบ้าง

อ่านเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่


เมื่อการต่อสู้ระหว่างประชาชนผู้รักประชาธิปไตยกับอำนาจฝ่ายเผด็จการอมาตย์เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง โดยในเบื้องต้นนั้นประชาชนก็ตกเป็นฝ่ายรับ, ถอยร่น และถูกโจมตีใส่ร้ายตลอดมา ฝ่ายประชาชนที่นำการต่อสู้นั้นก็มักจะ่ได้รับคำปลอบใจโดยคำพูดเสมอว่า “ไม่ต้องกังวลเพราะในที่สุดแล้วประชาธิปไตยจะต้องชนะเผด็จการอย่างแน่นอน” แต่ทว่าคำถามหนึ่งที่ “คาใจ” และเป็นคำถามที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกคนต้องการคำตอบก็คือ “เวลานั้นจะมาถึงเมื่อไร” และจะมีสิ่งใดเป็นสิ่งบอกเหตุว่าเผด็จการกำลัง “ล่มสลาย” และประชา่ชนกำลังจะเป็นฝ่ายชนะ

ชัยชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนครเป็น “จุดเริ่มของชัยชนะโดยการปฏิวัติประชาชนอย่างแท้จริง” เป็นสงครามตัวแทนที่มีความสำคัุญยิ่งทั้งในเชิงยุทธวิธี และในเิชิงยุทธศาสตร์ การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่มีผลในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแม้แต่น้อย เพราะถึงอย่างไรรัฐบาลก็ยังคงเป็นของ ปชป. แต่สิ่งที่ปรากฏกลับกลายเป็นว่าผลการเลือกตั้งที่พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่หลอมรวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติที่คอย “เงี่ยหูฟัง” และติดตามอย่างใจจดจ่อ ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยเพียงที่นั่งเดียวนี้มีผลทางการเมืองและยุทธศาสตร์การต่อสู้อย่างมหาศาล เพราะเป็นการแสดงผลการต่อสู้ในลักษณะสงครามตัวแทนที่ประจักษ์ชัดแล้ว

เสียงชัยโยโห่้ร้องแสดงความยินดีอย่างออกนอกหน้าของประชาชนไทยในแทบจะทุกจังหวัดของประเทศนี้ เมื่อได้ทราบผลการเลือกตั้งว่าพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะนั้นเป็นสิ่งบอกเหตุที่สำแดงให้เห็นชัดแล้วว่า “พลังอำนาจของประชาชน” นั้นกำลังยิ่งใหญ่และเติบโตจนหลอมรวมความคิดของคนไทยผู้รักประชาธิปไตยทุก ๆ คนจนกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์แล้ว.....

คนภาคใต้โห่ร้องยินดีเมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร....คนภาคเหนือโห่ร้ิองยินดีเมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร....คนภาคกลางโห่ร้ิองยินดีเมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร....และผู้รักประชาธิปไตยในทุก ๆ จังหวัดต่างก็โห่ร้ิองยินดีเมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร.... ทั้ง ๆ ที่ำพวกเขาเหล่านั้นต่างก็ไม่เคยรู้จักหน้าค่าตากันมาก่อน ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ทุก ๆ คนก็มีความรู้สึกร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร้องไห้ด้วยกัน ชื่นชมยินดีด้วยกัน นี่แหละคือพลังอันแท้จริงของประชาธิปไตย

กิโลเมตรแรกของจุดเริ่มต้นการ “ล่มสลาย” ของเผด็จการอมาตย์ได้เริ่มขึ้นแล้วที่ จังหวัดสกลนคร ประชาชนชาวรากหญ้าและผู้ที่เป็นฐานรากของประเทศไทยต่างก็ได้เรียนรู้แล้วว่า อำนาจอันแท้จริงของประชาชนอยู่ที่ใด และจะนำมาใช้ให้ได้ผลอย่างไร แน่นอนว่าเผด็จการอมาตย์ก็คงจะไม่ยอมแพ้ง่่าย ๆ ให้แก่อำนาจของประชาชน เพราะโครงสร้างอำนาจที่พวกเขายึดครองเอาไว้นั้น ยังคงแข็งแกร่งและมั่นคงเกินกว่าที่พวกเขาจะยอมรับความพ่ายแพ้ได้ ด้วยเหตุนี้สงครามตัวแทนที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร จึงเป็นสิ่งที่จะกำหนดยุทธศาสตร์การต่อสู้ของ “อำนาจเผด็จการอมาตย์และอำนาจของประชาชน” เพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ จะยังคงเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในทุก ๆ ภาคส่วนของประเทศนี้

เมื่อประชาชนผู้อยู่ภายใต้การปกครองไม่ยอมรับอำนาจการปกครองนั้ัน สิ่งที่เกิดขึ้นติดตามมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็คือการเปลี่ยนแปลง หรือ People Revolution จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ก็ได้แต่หวังว่าการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ของประเทศนี้ในครั้งนี้ คงจะไม่ทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทยต้องสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อเพิ่มขึ้นอีก เพราะที่ผ่านมาหลายสิบปีประเทศนี้ได้สูญเสียชีวิตเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนไทยผู้เรียกร้องประชาธิปไตยไปแล้วมากมาย ด้วยบุคลิกพื้นฐานของประชาชนไทยที่เป็นคนมีความประนีประนอมสูง “ถ้า” ผู้ถืออำนาจของประเทศนี้ต้องการให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างสงบ และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสิ่งเหล่านี้คงจะเกิดขึ้นได้ไม่ยากนัก

แต่ตรงกันข้ามถ้าอำมาตย์ผู้ถือครองอำนาจในประเทศนี้ไม่ต้องการเห็นการเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างสงบ แต่กลับใช้อำนาจที่ตนเองถือครองอยู่กดขี่ข่มเหงและบีบบังคับประชาชนมากขึ้นโดยถือว่าตนเองมีอำนาจและบารมีนั้น การเปลี่ยนผ่านก็คงจะไม่เป็นไปอย่างสงบอย่างแน่นอน และถ้าอมาตย์เลือกอย่างนั้นการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปกครองที่เป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ในครั้งนี้คงจะต้องนองเลือดกันอีกครั้งและครั้งนี้คงจะลุกลามไปทั่วทั้่งประเทศ ซึ่งในที่สุดแล้วดาบ, หอก, กระบอกปืน ก็คงจะหันกลับไปจ่อคอหอยฝ่ายอมาตย์เอง ถึงเวลานั้นพึงระลึกเอาไว้เถิดว่า “แม้แผ่นดินของประเทศนี้ก็อาจจะไม่มีกลบหน้าสำหรับผู้ที่ยอมตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาชน”

และสำหรับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุก ๆ ท่านขอแสดงความชื่นชมยินดี และมอบความรู้สึกดี ๆ ที่จะเดินไปด้วยกันจนกว่าจะถึงวันที่เราได้รับประชาธิปไตยอย่างแท้จริงมาเป็นของประเทศนี้เพื่อลูกหลานและคนรุ่นต่อ ๆ ไป

***
มองแววตาทุกคนเปี่ยมสุขล้นระคนสุขสันต์..ยิ้มแย้มเข้าใจกันตาสบประสานไมตรีฉายมา
ดวงฤทัยทุกดวงถ่วงด้วยรักและแรงศรัทธา...ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน
ความคลางแคลงหายไปโลกสดใสคืนมาอีกครา......ฟ้าหลังฝนงามตาความมืดโรยรามลายหายพลัน
มีแต่ความเข้าใจอุ่นไอรักไมตรีต่อกัน.....ผ่านมานั้นลืมมันลบไป

**ร้องเถิดร้องเพลงกันประสานรอยรักในใจ....รบรอยร้าวภายในอุรา
ร้องเถิดร้องเพลงกันจับมือกันไว้ดีกว่า.....หันหน้ามาเข้าใจกัน

อันคนเราทุกคนต่างเกิดมาควรพาพึ่งกัน....มีไมตรีสัมพันธ์โลกนั้นสดใส
จงมารวมพลังร่วมสร้างสรรค์จรรโลงฤทัย....จับมือกันเดินก้าวไปมุ่งสู่จุดหมายอนาคตเรา
**

ขอให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุก ๆ ท่านจับมือกัน เราจะเดินไปด้วยกันสู่จุดหมายประชาธิปไตยเพื่อลูกหลานของเราครับ

ปูนนก