WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, June 24, 2009

ยุทธภูมิ "การเลือกตั้งศรีษะเกษ" ไม่ได้มีความสำคัญอะไรทางยุทธศาสตร์แล้วละครับ

ที่มา thaifreenews

เขียนโดย ลูกชาวนาไทย
วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2009 เวลา 18:56 น.

alt แม้ตอนนี้ฝ่ายเนวิน จะทุ่มอย่างไรที่ศรีษะเกษ ในทางยุทธศาสตร์มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรแล้วละครับ หากเป็นสงคราม ก็เป็นการรบย่อยอีกครั้งหนึ่ง ในอีกหลายๆ ครั้งในอนาคต

มันไม่ได้ มีความสำคัญเท่ากับ "ยุทธภูมิการเลือกตั้งสกลนคร" แล้วละครับ เพราะสกลนคร เป็นสงครามที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่บอกว่า พรรคภูมิใจไทย จะสามารถถล่มพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่

อ่านเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่



เนวินสามารถวัดรอยเท้าของทักษิณได้หรือไม่
นายกฯทักษิณ ยังมีความสำคัญและเป็นที่นิยมของชาวบ้านหรือไม่

การชนะเลือกตั้งที่สกลนคร บอกหลายอย่างเช่น

- นายกฯทักษิณ ได้เห็นช่องทางแล้วว่า แม้ว่าตัวเองอยู่ห่างไกลจากประเทศไทยนับหมื่นไมล์ แต่ก็สามารถช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ อิทธิพลและแนวทางต่อสู้ยังสามารถทำได้ ไม่มีอะไรแตกต่างกับการอยู่ในประเทศไทย การควบคุมพรรคจากระยะไกลสามารถทำได้อย่างเต็มที่

- เป็นการวัด ความสามัคคีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเราจะเห็นได้จาก ระดับต่างๆ ในพรรค ทั้งคนบ้านเลขที่ 111 ส.ส. ของพรรคปัจจุบัน คุณเฉลิม อยู่บำรุง รวมทั้งคนในครอบครัวชินวัตรหลายคน ลงไปช่วยกันอย่างเต็มที่ เป็นการส่งสัญญาณออกไปว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้กำลังล่มสลาย แต่ได้มีการจัดกำลังและพร้อมต่อสู้แล้ว

- เป็นการวัดบารมีของทักษิณว่ายังขายได้หรือไม่
- วัดได้ว่า "เงินอย่างเดียว" ไม่อาจซื้อชาวบ้านได้อีกต่อไปแล้ว "คุณต้องมีอย่างอื่นด้วย" และ "อย่างอื่น" เช่น นโยบาย ความน่าเชื่อถือ มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าเงิน

- บ่งบอกชัดเจนว่า "อำนาจรัฐ" แม้ว่าจะคุมกระทรวงมหาดไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จ ก็ไม่ทำให้ชนะเลือกตั้งได้แต่อย่างใด และ "ย้ำให้รู้ว่า " รัฐราชการนั้น" ได้ล่มสลายไปแล้ว ข้าราชการแม้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งได้บ้าง แต่ไม่ได้ทำให้ชนะ และไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสุดยอดแต่อย่างใด


แต่การเลือกตั้ง ศรีษะเกษ นั้น ไม่ได้มีสัญลักษณ์อะไรแบบนั้น เป็นแค่การเลือกตั้งซ่อมครั้งหนึ่งเหมือนครั้งต่อไปเท่านั้น

แต่ ก็ยังมีความสำคัญอยู่บ้างนะครับ คือ ชนะได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีครับ

ดัง นั้น สส.เพื่อไทย และผู้นำพรรคระดับต่างๆ ตอนนี้ยังไม่มีภารกิจต้องบริหารประเทศชาติ ก็ออกไปซ่อมหาเสียง ลงพื้นที่ วางยุทธศาสตร์เพื่อให้พร้อมรบเมื่อการเลือกตั้งใหญ่มาถึง

ผมว่า กระสุน เสบียง พรรคเพื่อไทย ไม่ได้แพ้รัฐบาล "ถังแตก" ของนายมาร์กแต่อย่างใด

อำนาจ "ยิ่งใหญ่" เสื่อมมนต์ขลังลงไปมากแล้ว ยิ่งใหญ่ยิ่งหมดแรง คนแก่ ไม่อาจ สู้ศึกหนักนานได้ ยิ่งรบยืดเยื้ออำมาตย์ยิ่งอ่อนกำลัง เมื่อเผด็จศึกไม่ได้ ก็ไม่มีโอกาสเผด็จศึกอีกแล้ว

ผมว่า "หมดหวังสำหรับอำมาตย์ไปแล้ว "ที่จะเผด็จศึก หากจะรบต่ออีก ก็ต้องใช้กำลังมากกว่า ช่วงที่ผ่านมา

ได้อำนาจรัฐก็ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนนิยมเลย กลับอุ้มมาร์คหนักกว่าเดิม ประชาชนสาปแช่ง ว่าส่งอะไรมาให้พวกเขาก็ไม่ทราบ

สรุปคือ สงครามยังคงดำเนินต่อไป โอกาสที่ "ศักดินา" จะเห็นศึกสงบก่อนตาย ไม่มีอีกแล้ว

และ "โรคร้ายต่างๆ ก็รุมเร้า" ทั้งใหญ่ทั้งเล็ก สู้กับ "มนต์ขลังที่เสื่อม" และโรครุมเร้า ผมว่า เราใจเย็นได้สบาย

ยิ่งสู้ประชาชนยิ่งฮึกเหิม

ไม่เคยมีครั้งใดในประวัติศาสตร์ของไทยที่ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของประชาชน จะขยายตัว ทั้งในระดับปริมาณและคุณภาพเท่ากับวิกฤติการณ์ทางการเมือง 2549-5... นี้ ผมเห็นทั้งคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลือง ได้ออกมาต่อสู้ตามความคิดความเชื่อของตน ไม่มีครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่ประชาชนจะ "โดนกระตุ้นอย่างรุนแรง" เหมือนครั้งนี้

เมื่อ ยักษ์โดนปลุกออกจากตะเกียง ก็ยากที่จะทำให้มันกลับเข้าไปในตะเกียงได้อีก

ใน พ.ศ.2552 นี้ การเมืองไม่ใช่เรื่องการต่อสู้ของ "นักการเมือง" แต่ฝายเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการต่อสู้ของประชาชนกลุ่มต่างๆ นักการเมืองได้แต่เคลื่อนไหวตาม ทิศทางการเคลื่อนไหวของประชาชนเท่านั้น

นี่เป็นการสอนบทเรียนประชาธิปไตย ภาคปฎิบัติในขอบเขตทั่วประเทศ

ประชาธิปไตย ไม่เคยได้มาจากการพระราชทานของพระมหากษัตริย์ หรือผู้ใด แต่ต้องมาจากการต่อสู้เรียกร้องของประชาชนเอง

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 24 มิถุนายน 2009 เวลา 18:59 น.