WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, July 17, 2009

เศรษฐกิจไทยอยู่ในหลุมยาวนานแน่ จากหวัด 2009 และรัฐบาลเด็กชายสองคน

ที่มา thaifreenews

เขียนโดย ลูกชาวนาไทย
วันศุกร์ที่ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 00:18 น.

alt

alt

ตอนนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจไม่มีตัวไหนฟื้นสักตัวนะครับ เมื่อเดือนที่แล้วยังมีข่าวให้ดีใจเล็กน้อย ที่เศรษฐกิจประเทศจีนฟื้นแล้ว ทำให้การส่งออกในส่วนของปิโตรเคมีบางตัวกระเตื้องขึ้นบ้างเล็กน้อย

จีดีพีได้มาส 2 ที่ประมาณการณ์กันไว้คือ ประมาณลบ 4-5% แย่น้อยลงกว่าไตรมาสและที่ติดลบ 7.2% ที่แย่น้อยลงเพราะผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าเพิ่มขึ้นการจากการ Build Stock หรือผลิตเพื่อเพิ่มปริมาณสินค้าคงคลัง ของบริษัทต่างๆ ไม่ใช่มี Order แต่อย่างใด ดังนั้นการแย่น้อยลง อาจไม่ได้หมายความว่าไตรมาสอื่นจะไม่กลับไปที่ลบ 7 อีก หากการส่งออกหรือการท่องเที่ยวยังไม่ฟิ้นตัว


อ่านเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่


มีคนคาดหวังกันว่า หากนายมาร์กไปจีน ก้มกราบประธานาธิปดีจีน ขอให้เขาส่งนักท่องเที่ยวมาไทยได้สัก 1 ล้านคน เศรษฐกิจไทยอาจกระเตื้องขึ้นบ้าง

พอหวัด 2009 มาเยือน ก็บอกศาลาได้เลยครับ เพราะการท่องเที่ยวฟุปไปนานแน่ ที่หวังว่าจะฟื้นตัวปลายปี (ความหวังลมๆ แล้งๆ) ผมยังมองไม่เห็นแสงสว่างอะไรทั้งสิ้น

ตอนนี้เศรษฐกิจไทยมีขยายตัวอยู่อย่างเดียวคือ ค่าใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งเบิกจ่ายได้ช้า แต่ก็ยังเป็นตัวเดียวที่เป็นบวกอยู่ ก็แน่นอน รัฐบาลย่อมจ่ายเงินตามโครงการต่างๆ อยู่แล้ว

แต่หากการลงทุนภาคเอกชนไม่เพิ่มขึ้น ก็อย่าได้หวังเลยว่าจะเห็นทางสว่าง แบงค์ยิ่งไม่กล้าปล่อยกู้ในสถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งไม่ปล่อยกู้ ก็ไม่มีการลงทุนจากเอกชน ซึ่งจะลงทุนไปหาพระแสงอะไร ในเมื่อไม่มี order สั่งสินค้าเข้ามา ภาคท่องเที่ยว คนไม่มาเที่ยว จะลงทุนขยายงาน ไปทำไม

สรุป หวัด 2009 คือ สัญญาณดับความหวังของการฟิ้นตัวเศรษฐกิจไทย แม้จะจัดประชุมผู้นำได้ที่ภูเก็ตเพื่อแก้หน้าพัทยา แต่ต้องหนีไปถึงภูเก็ตแสดงว่ารัฐบาลคุมประเทศนี้ได้แค่ด้ามขวานเท่านั้น ที่เหลืออยู่ไม่สามารถมควบคุมได้แต่อย่างใด

ยิ่งอุ้ม คนอุ้มยิ่งโดนด่า ประณาม แม้จะทำในใจ แต่การสนทนากลุ่มย่อย ผมก็เห็นคนด่าอย่างเสียๆ หายๆ ไม่กลัวบาปเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

รัฐบาลนี้มองไม่เห็นอนาคต

ผมว่าตอนนี้ฝ่ายโน้นอยู่ในอาการงงงวย ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน จะไปส่งเสริมการส่งออก ก็ทำไม่เป็น มี รมต.ต่างประเทศที่ใครไม่อยากคุยด้วย เพราะเล่นจะเอาแต่ปัญหาการเมืองภายในประเทศตนไปรบกวนคนอื่นเขา ไม่สนใจเจรจาปัญหาเศรษฐกิจ หรือมีข้อเสนอใหม่ให้กับชาวโลก

ประเทศจีน เป็นประเทศเดียวที่เศรษฐกิจยังเป็นบวก แทนที่ไทยซึ่งเคยสนิทกับจีนมาก่อนจะได้ประโยชน์ ความอ่อนหัดทางการทูต และจีนไม่ไว้ใจรัฐบาลที่โปรสหรัฐอย่างเดียว

ส่วนสหรัฐเองก็ไม่สนใจ ไทยเหมือนกัน เพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์ทางการเมืองว่าฝ่ายใดจะชนะกันแน่ ทีมทำงานในไทยจึงแบ่งเป็นสองทีมคือ สายทหารมาคุยกับเสื้อแดง (เท่าที่ผมรู้) สายพลเรือนเข้าวังไปหาอำมาตย์ เหยียบเรือทั้งสองแคม นโยบายสหรัฐจึง wait and see อย่างเดียว ยุโรปก็เหมือนกัน

ส่วนพวก แขกที่ยังพอมีเงินอยู่ และอาจส่งออกไปได้ ก็ไม่เอารัฐบาลชุดนี้ ไปคุยกับใครด้วยไม่ได้ เพราะคอยแต่จะไปให้เขาส่งตัวทักษิณ ซึ่งทางการเมืองระหว่างประเทศเขาทำไม่ได้ มันก็เซ้าซี้อยู่นั่นแหละ

สรุปตอนนี้คือ ปล่อยไปตามบุญตามกรรม

รอมวลชนทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาปฎิวัติ