WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, July 18, 2009

ตำรวจสกัดแน่นหนา “เสื้อแดงเชียงใหม่” ไม่ถึงตัว “กรณ์”

ที่มา ประชาไท

ตำรวจสกัดแน่นหนาไม่ยอมกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปยื่นหนังสือต่อ “กรณ์ จาติกวณิช” รมว.คลัง ด้าน “สมคิด บุญถนอม” ประกาศใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับคนเสื้อแดงเชียงใหม่อย่างเด็ดขาด ส่วน “สุรชัย แซ่ด่าน” ปราศรัยที่เชียงใหม่ไม่เห็นด้วยถวายฎีกาแต่ยังร่วมทางกับคนเสื้อแดง แนะให้สู้อย่างใจเย็น บุ่มบ่ามจะเสียแนวร่วม

17 ก.ค. 52 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ได้เดินทางมามอบนโนบายโครงการไทยเข้มแข็ง ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยกำลังตำรวจคอยรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมากลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้เกิดกระทบกระทั่งกับตำรวจที่หน้า สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง เชียงใหม่มาแล้ว

จากนั้น พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ประกาศใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด มีการสนธิกำลังตำรวจจาก จ.ลำปาง ลำพูน มาร่วมกับตำรวจภูธรเชียงใหม่ และตำรวจ นปพ.เกือบ 1,000 นาย ปิดกั้นทางเข้ารอบๆ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขณะที่ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ใช้วิทยุชุมชนระดมพลคนเสื้อแดง มารวมกันที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวน มีประมาณ 200 คน ใช้ รถจักรยานยนต์นำหน้าและผู้หญิงมาหยุดที่สามแยกสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ทางเลี้ยวเข้า หอประชุม มช.โดยมีกำลังตำรวจปราบจลาจลกว่า 300 นายตั้งแถวรอรับอยู่ พร้อมกับนำรถฉีดน้ำ 2 คัน เตรียมพร้อมรับมือ
ด้านกลุ่มเสื้อแดง นำโดยนายอภิชาติ ดิษฐ์สอน หรือ ดีเจอ้วน ได้ยืนบนหลังคารถตู้ พยายามจะขอให้ตำรวจปล่อยกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปยื่นหนังสือต่อ รมว.คลัง แต่ทางตำรวจไม่ยอม และให้กลุ่มเสื้อแดงกลับบ้าน เนื่องจากจุดที่กลุ่มเสื้อแดงจอดปราศรัยนั้นเป็นเส้นทางรถวิ่ง จนส่งผลทำให้การจราจรติดขัด แต่ทางกลุ่มเสื้อแดงไม่ยอมถอย พร้อมกับจะบุกเข้าไป ทางตำรวจได้ประกาศ และนับถอยหลัง พร้อมกับเคลื่อนพลตำรวจชุดปราบจลาจลเข้าประชิดกลุ่มเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มเสื้อแดง มีกลุ่มเสื้อแดงได้ขว้างระเบิดปิงปองและประทัดยักษ์ใส่ ตำรวจ 3 ลูก เสียงดังสนั่น จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากสะเก็ดประทัด 2 นาย ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดงจะยอมถอย โดยกำลังชุดปราบตำรวจจลาจล 1 กองร้อยวิ่งไล่ตามไปติดๆ จนกลุ่มเสื้อแดงต้องถอยร่น และกลับไปรวมกันกันที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ ส่วนการประชุมของ รมว.คลัง ยังคงดำเนินการไปตามปกติ
“วิทยุรักเชียงใหม่ 51” และ “ไทยอีนิวส์” อ้างมี “เสื้อน้ำเงิน” แจม
ด้วนสถานีวิทยุรักเชียงใหม่ 51 (www.fm925cm.com) และไทยอีนิวส์ (http://www.thaienews.blogspot.com/) อ้างว่า ได้รายงานว่าช่วงบ่ายวันนี้ นอกจากจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมแล้ว ยังมีกลุ่มคนสวมเสื้อสีน้ำเงินดักทำร้ายคนเสื้อแดงเป็นจุดๆ
อนึ่งวันนี้ (17 ก.ค. 52) ผู้ดำเนินรายการของสถานีวิทยุรักเชียงใหม่ 51 ได้กล่าวกับผู้ฟังวิทยุที่เล่นอินเตอร์เน็ต (นักรบไซเบอร์) ให้ระดมโพสต์เรื่องของกลุ่มเสื้อแดงถูกทำร้ายโดยตำรวจ ทหารและคนเสื้อน้ำเงินไปตามเว็บบอร์ดต่างๆ อย่างไรก็ตามเว็บข่าว สำนักข่าว หรือสื่อในประเทศอื่นๆ ไม่มีการรายงานเรื่องคนเสื้อน้ำเงิน
สุรชัย ย้ำไม่เห็นด้วยกับถวายฎีกาแต่ไม่แตกแยกกับเสื้อแดง ใส่หมวกดาวแดงเพราะกองทัพตระบัดสัตย์
วันเดียวกันนี้ (17 ก.ค. 52) เวลาประมาณ 17.00 น. นายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำคนเสื้อแดง ได้ปราศรัยที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ กล่าวว่า้เขาไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกา เป็นการแตกต่างทางความคิด แต่ไม่แตกแยกในการร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนเสื้อแดง
“การถวายฎีกาขออภัยโทษ ไม่ใช่แนวทางในการต่อสู้ ผมไม่ว่า แต่ผมไม่เอาด้วย ตอนนี้เป็นการถวายฎีการ้องทุกข์ไปแล้ว” สุรชัย กล่าว
สุรชัยกล่าวต่อว่าการร้องทุกข์ ถ้าประชาชนร้องทุกข์เป็นล้านๆ คนแล้ว แสดงว่าเป็นความทุกข์ของคนหมู่มาก คือ พวกอำมาตย์และขุนนางชั่วกดขี่ประชาชน ซึ่งการร้องทุกข์แบบนี้ในสายตาของชาวโลกจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้สถานการณ์การแตกแยกของประเทศไทยหลายปีที่ผ่านมานี้ต้นเหตุมันมาจากไหน
“มาวันนี้ผมใส่หมวกดาวแดงอีกครั้ง ไม่ใช่ใส่เท่ๆ เมื่อก่อนผมเป็นคอมมิวนิสต์ พวกเราวางอาวุธแล้วมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาประเทศไทย ตามนโยบาย66/23 ของพลเอกเปรม ที่เคยประกาศใช้ในอดีต เงื่อนไขสุดท้ายของนโยบาย 66/23 คือทำให้เกิดประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ แต่กองทัพกลับไม่ทำ กลับตระบัดสัตย์ต่อนโยบายของตนเอง และยังสนับสนุนการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 มันจึงทำให้บ้านเมืองแตกแยกมาถึงทุกวันนี้”
“ถ้าหากรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรมยังปฏิบัติ 2 มาตรฐานแบบนี้ มันก็อาจเป็นเงื่อนไขของการเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้” สุรชัย กล่าว
นอกจากนี้นายสุรชัย ยังกล่าวเตือนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่าอย่าบุ่มบ่ามรุนแรง ต้องพยายามดึงมวลชนเข้ามา เปลี่ยนเสื้อเหลืองให้เป็นเสื้อแดงให้ได้ เพราะขณะนี้ในทางการเมืองถือว่ากลุ่มเสื้อแดงได้เปรียบเพราะเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ถ้าหากดำเนินการรุนแรงจะเข้าทางกลุ่มอำมาตย์
"กรณ์"หลบแดงเดือด ควงภรรยา "ดูแพนด้า-เล่นหิมะ"ที่สวนสัตว์เชียงใหม่
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.55 น. (17 ก.ค. 52) นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมนางจามิกร จาติกวณิช ภรรยา และคณะผู้ติดตาม ประกอบด้วยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 เดินทางมายังสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อเข้าเยี่ยมชมแพนด้าช่วงช่วง รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมโดมหิมะในโครงการเชียงใหม่ซูสโนว์โดม ในสวนสัตว์เชียงใหม่
โดยมีนายธนภัทร พงษ์ภมร ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ นายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผช.ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่และนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าให้การต้อนรับ ซึ่งใช้เวลาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ประมาณครึ่งชั่วโมง
ช่วงแรกผู้บริหารสวนสัตว์ได้พานายกรณ์ พร้อมคณะเข้าไปยี่ยมชมแพนด้าแม่ลูก โดยดูผ่านกล้องวิดิโอวงจรปิดและมองผ่านช่องกระจกด้านบนคอกกักเพื่อชมความน่ารักของแพนด้าแม่ลูก ถัดมาได้เดินเข้าไปดูช่วงช่วงที่ในส่วนจัดแสดงแพนด้าฯ ซึ่งทางหัวหน้าโครงการวิจัยฯได้ให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมแอปเปิ้ลเสียบปลายไม้สำหรับให้นายกรณ์ ป้อนอาหารช่วงช่วง ซึ่งถือว่าโชคดีที่วันนี้ช่วงช่วงอารมณ์ดีและมานั่งรอรับประทานอาหารอยู่ติดกับขอบด้านหน้าใกล้กับจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้รับชมและยังยอมกินอาหารที่นายกรณ์เป็นผู้ป้อนอย่างเอร็ดอร่อยและเต็มจาก ซึ่งต่างจากหลายครั้งที่เมื่อเห็นคนนอกช่วงช่วงมักจะแสดงสีหน้าไม่พอใจหรือเดินหนีไปอยู่ไกลๆ สร้างความพอใจและเรียกรอยยิ้มจากนายกรณ์และคณะได้
จากนั้นนายกรณ์และภรรยาได้เปลี่ยนชุดกันหนาวและเปลี่ยนรองเท้าเพื่อเข้าไปในเชียงใหม่ซูสโนว์โดมเพื่อเยี่ยมชมดูโดมหิมะและได้ถือโอกาสเล่นหิมะเทียมและนั่งโดนัทสกีที่ลื่นไลลงมาอย่างเพลิดเพลิน ก่อนเดินทางกลับไปเข้าประชุมร่วมกับภาคเอกชน โดยไม่สนกลุ่มเสื้อแดงที่กำลังเร่งระดมผู้ชุมนุมเสื้อแดงเดินทางไปรอขับไล่นายกรณ์ ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อยู่แล้วประมาณ 200 คน
หลังออกจากโดม นายกรณ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนได้รับรายงานเรื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงและมีการจับกุมผู้ต้องหาที่พกพาอาวุธปืนของผู้ที่อาจไม่ประสงค์ดีแล้ว ต้องขอขอบคุณตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาและก่อนที่คณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังและตนจะเดินทางมา
นายกรณ์ กล่าวว่า จ.เชียงใหม่นั้นมีความสำคัญมากที่สุดจังหวัดหนึ่ง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคเอเชีย แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทุกภาคส่วนของ จ.เชียงใหม่ รวมทั้งจังหวัดภาคเหนือทั้งหมด รัฐบาลจึงมีความตั้งใจที่จะใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์ในการแก้ปํญหาให้กับพี่น้องประชาชนภาคเหนือ ซึ่งเรามีโครงการไทยเข้มแข็ง 18,000 ล้านบาท เพื่อนำมาเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว แก้ไขปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมในเมือง พัฒนาการศึกษา มีงบประมาณให้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาระบบขนส่ง ถนนหนทางที่ต้องพัฒนา
ดังนั้นการมีกลุ่มประชาชนบางกลุ่มไม่เห็นด้วยและไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นเรื่องปกติ แต่รัฐบาลมีความเชื่อมั่นในแนวนโยบายว่าจะสร้างประโยชน์ต่อประชาชนส่วนใหญ่ และได้รับการต้อนรับอย่างดีจากประชาชนจึงไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไรเพราะความทุกข์ของตน คือ การที่ผู้ประกอบการที่กำลังลำบากมากกว่า ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลได้เป็นอย่างดี อาจเสี่ยงภัยบ้างเล็กน้อยแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า จนถึงตอนนี้ตนยังยืนยันและตั้งใจที่จะไม่เลิกล้มการหารือกับภาคธุรกิจเพื่อรับฟังปัญหาของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งปัญหานั้นรู้มาได้ระดับหนึ่ง จึงอยากมาฟังด้วยตนเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่จะนำไปสู่การกำหนดแนว
ทางแก้ไขปัญหา จึงนำคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินมารับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเดินหน้าทำงานร่วมกันได้
“อยู่ที่เชียงใหม่ ตั้งแต่ตื่นเช้ามาพบว่าอากาศดีมาก ดีกว่ากรุงเทพฯ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนว่า ปีนี้ให้รีบวางแผนมาเที่ยวได้แล้ว เพราะอากาศเริ่มดีในช่วงหน้าฝนและกำลังจะเข้าหน้าหนาว ให้รีบมาก่อนที่ประชาชนคนอื่นจะแย่งกันมา นอกจากนี้เช้านี้ผมได้ขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพฯเพราะโครงการไทยเข็มแข็งมีงบประมาณในการบูรณะฐานพระธาตุไม่ให้ทรุดโทรมลงมา เมื่อมาถึงเชียงใหม่แล้วจะไม่ให้แวะทักทายเยี่ยมแพนด้าน้อยและเข้าชมโดมหิมะคงได้อย่างไร อยากขอบอกไปยังประชาชนว่าให้พาลูกหลานมาเที่ยวจะได้เล่นสนุกสนานกัน" นายกรณ์กล่าว
ที่มา: ว็บไซต์คมชัดลึก, เว็บไซต์ไทยรัฐ, www.thaienews.blogspot.com สถานีวิทยุรักเชียงใหม่ 51 (www.fm925cm.com)