ที่มา บางกอกทูเดย์
ทหารจะกดดัน กษิต ภิรมย์ ให้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เป็นได้มากที่สุดก็แค่ “ข่าวลือ”จึงไม่น่าแปลกใจอะไร กับการที่ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ ออกมาแสดงอาการหงุดหงิด เมื่อถูกนักข่าวถามถึงเรื่องนี้หงุดหงิดถึงขนาดหลุดปากออกมาว่า“ไม่มี!! ทางกองทัพไม่เคยกดดันในเรื่องนี้ขอให้ถามคำถามอื่นดีกว่า เพราะกองทัพไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง!”กองทัพจะไม่ยุ่ง? หรือเคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่? พูดไปก็แค่นั้น เพราะคนไทยทั่วไปต่างรู้กันเต็มอกว่า รัฐบาลคณะนี้มีที่มาอย่างไร??ใครเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดตั้งรัฐบาล ที่ทำให้ฝันของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นจริงขึ้นมาได้ปัญหาของ กษิต ภิรมย์ จึงเป็นปัญหาภายในของพรรคประชาธิปัตย์เอง เพราะทางพรรคหรือทางรัฐบาลต้องพิสูจน์ให้คนทั่วไปเห็นว่า พรรคไม่ได้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของพันธมิตรฯกษิต ภิรมย์ เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ มาก่อน และหลายครั้งโดยเฉพาะตอน ยึดสนามบินสุวรรณภูมิดังนั้น
การที่ประชาชนจะตั้งข้อกังขาว่ารัฐมนตรีกษิตมีส่วนเป็นไปตามข้อกล่าวหาของตำรวจหรือไม่?จึงเป็นเรื่องที่คุณกษิตจะต้องแจกแจงต่อสังคมให้ดีกว่านี้ประชาธิปัตย์เองก็หนักใจกับการเมินเฉยต่อการปฏิบัติตามกฎเหล็ก “ข้อที่ 9” ของ “กฎเหล็ก 9ข้อ” ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ ออกมาให้สัจวาจา และเป็นการยืนยันในการกำกับดูแล ครม.ชุดนี้ มันมีน้ำหนักพอที่จะทำให้ประชาชนมองรัฐบาลมาร์คด้วยสายตาอย่างไร??ผมจึงเชื่อว่าหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ระหว่างวันที่ 17-24กรกฎาคมนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีคงมีการดำเนินการที่จะให้ กษิต ภิรมย์ ลาออกตามหลักการหรือทฤษฎีการสละแขนขาเพื่อรักษาชีวิตอย่างที่ชอบประพฤติปฏิบัติกษิต ภิรมย์ เอง ต้องทำใจกับคำว่า “การเมือง”อำนาจวาสนาที่มากับการเมืองนั้น มันหดได้ยืดได้ภายในพริบตาภารกิจ “ไล่ล่าทักษิณ” ที่ กษิต ภิรมย์ หวังจะเป็นคุณสมบัติพิเศษในการทำหน้าที่ รมว.ของเขาก็คงจบลงด้วยเช่นกันถึงวันนั้น? กษิตคงกลายเป็นอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่นั่งบนเก้าอี้ตัวนานแค่ 6 เดือน!!ทั้งสิ้นทั้งปวงเพราะเขาเองรู้จัก “ประชาธิปัตย์”แต่เพียงผิวเผิน!! ■