ที่มา บางกอกทูเดย์
ถ้าจะเอา “มาตรฐานนักการเมือง” เป็น“ความหวังของประเทศไทย” จริงๆ แล้วเราจะหวังอะไรได้มากน้อยแค่ไหน?นี่คือคำถามของคนในสังคมไทยที่กำลังตั้งความหวังกับการเมืองประชาธิปไตย ที่หลายคนพยายามจะช่วยกันสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นกับการเมืองประเทศเราและแน่นอนว่า...“นักการเมือง” เป็นปัจจัยสำคัญ หรือ “ตัวแปร”ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในความหวังที่ว่านี้เพราะ...เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้วรัฐบาลเป็นพรรคประชาธิปัตย์และได้ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นนายกรัฐมนตรีอันหมายความว่า วันนี้เราได้นายกรัฐมนตรีที่หลอมรูปแบบมาจากอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อชวน หลีกภัยซึ่งเป็นนักการเมืองตัวอย่างของรูปแบบที่นักการเมืองไทยอยากได้และอยากเป็นแต่การปฏิบัติและดำรงตนอย่างนั้น น้อยคนนักที่จะทำได้นั่นหมายถึง...คนไทยเริ่มมีความหวังในการเมืองประชาธิปไตยและต้องยอมรับความจริงว่า เพราะเขาหวังในมาตรฐานนักการเมืองจาก ชวน หลีกภัย ตกทอดมาถึงคนที่ถูกปั้นและถูกหลอมรวมมาจากรูปแบบ
ตัวอย่างที่ดีจนมาถึง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแต่ปัญหาความสับสนของการเมืองไทยวันนี้...มีความเข้าใจไม่ตรงกันของคนหลายฝ่ายว่า“มาตรฐานนักการเมือง” ควรจะเป็นอย่างไร ถึงจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นสอดคล้องกันจนกลายเป็น“ความหวังของประเทศไทย” ได้จึงเป็นเรื่องยากที่จะสร้าง “มาตรฐานนักการเมือง”ขึ้นมาให้แตกต่างระหว่างคนที่ประชาชนควรจะฝากความหวังทั้งปวง ไว้กับคนที่ควรคัดออกจากกลุ่มคนที่ประชาชนจะฝากความหวังและอนาคตทางประชาธิปไตยเอาไว้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันนี้ท่านคงตระหนักแล้วว่าความหวังของคนทั้งปวงในประเทศที่อยากได้จากท่านและอยากให้ท่านเป็นคืออะไร?นั่นหมายถึงว่า...คนไทยจะฝากความหวังทางการเมืองไว้กับท่านและรัฐบาลได้ท่านจะต้องสร้างตัวเองให้เป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพมาตรฐาน ต้องไม่บิดเบี้ยวและตะแบงเหมือนคนอื่นที่กำลังถูกจับตาและถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ของท่านเองคำถามจึงมีว่า...เมื่อไหร่และถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะเอา“มาตรฐานนักการเมือง” มาฝากไว้ให้เป็น“ความหวังของประเทศไทย”อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คำถามนี้ท่านต้องตอบด้วยการทำไม่ใช่การพูดครับ ■