ที่มา มติชนออนไลน์
นายกฯซัดมีคนบางกลุ่มจ้องขวางรัฐบาลทำงาน หวังการเมืองเปลี่ยนขั้ว พอใจลงพื้นที่บุรีรัมย์ ส.ส.ปชป.ยุ"มาร์ค"ลงพื้นที่สัปดาห์ต่อครั้ง ส.ส.อุบลฯ คุยได้ใจคนอีสานเพิ่ม รับส่วนหนึ่งมาจาก"เนวิน" ประธานวิป รบ. ปลุกพรรคร่วมลุยยุทธศาสตร์ "รวมกันเราอยู่" ด้านเสื้อแดงเย้ย"เล่นลิเกการเมือง" แดงนครปฐมตามป่วนนายกฯ
"อภิสิทธิ์"ซัดกลุ่มขวางรบ.ทำงาน
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและขยายฐานสมาชิกพรรค ปชป. ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ปชป. เป็นประธานเปิดงาน เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก โดยกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสบริหารประเทศมา 6 เดือนเศษ บางคนลืมไปแล้วว่าเราเริ่มต้นมาจากภาวะที่บ้านเมืองสับสนยุ่งเหยิงมาก ตอนนั้นประเทศไม่มีทางออก เกิดปัญหารุมเล้าด้านเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกติดลบ ช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2551 มีปัญหาเรื่องการเมืองเข้ามาด้วย แต่เมื่อเราเข้ามาทำหน้าที่รัฐบาล ก็พยายามทำให้ประเทศเกิดความมั่นคง มีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังไม่สำเร็จลุล่วง เพราะมีคนบางกลุ่มยืนยันเคลื่อนไหวต่อไป โดยมีเป้าหมายขัดขวางไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ โดยเฉพาะการจัดงานสำคัญ เช่น การประชุมอาเชียน ซึ่งคนกลุ่มนี้มีเป้าหมายต้องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเป้าหมายที่ตัวอดีตนายกรัฐมนตรี
"จากปัญหาดังกล่าวจึงยังไม่สามารถทำให้ประเทศเกิดความเรียบร้อยทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ได้ ทั้งที่เหตุการณ์พัทยา และเหตุการณ์ช่วงเดือนเมษายน แต่รัฐบาลพยายามใช้อำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ทำให้เกิดความเรียบร้อย โดยไม่ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งผมได้ชี้แจงกับต่างประเทศ โดยยืนยันว่ายึดนโยบายนี้ในการแก้ไขปัญหา" นายกฯกล่าว
"ดักคอ" กลัวรบ.ลงไปชี้แจงปชช.
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในวันที่ 16 กรกฎาคม คณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภาตั้งขึ้นจะรายงานให้ทราบว่าควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการหาทางออกให้ประเทศทางหนึ่ง แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังคงไม่พอใจ บางกลุ่มบอกว่ามาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่วิธีการเรียกร้องกลับไม่เป็นประชาธิปไตย เช่น การขัดขวางการลงพื้นที่ ตรงนี้ต่างประเทศเข้าใจดี แต่คนกลุ่มนี้พยายามทำให้เห็นว่าต้องการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ชี้ให้เห็นว่ากลัวรัฐบาลลงไปชี้แจงต่อประชาชน เพราะถ้าไม่กลัวจะขัดขวางทำไม
"ผมยืนยันว่าจะเดินทางไปทุกพื้นที่ จากภาคอีสาน ก็จะไปภาคเหนือ ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ที่มีประชาชนมาตอนรับนับหมื่นคน ได้มีการพูดคุยทักทาย ปราศรัยใกล้ชิดตามสมควร โดยไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ทุกอย่างเรียบร้อยดี และทุกๆ ที่ที่ผมจะลงไปก็ไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกัน" นายกฯกล่าว
เชื่อไม่ใช่จัดตั้งบุรีรัมย์ต้อนรับ
"เรื่องความสมานฉันท์ ในพรรคต้องมีความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกันก่อน ถ้าทำให้เกิดขึ้นในพรรคไม่ได้ แล้วจะไปทำให้ภาคนอกสมานฉันท์ได้อย่างไร" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การทำงานของสาขาพรรค โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ส.ก. และ ส.ข. ก็ต้องเตรียมให้พร้อม เพราะมีตารางการเลือกตั้งอยู่แล้ว ส่วน ส.ส.สาขาพรรคก็ต้องช่วยกันดูแลให้ ส.ส.ของท่านให้ลงพื้นที่ให้มากที่สุด เพราะในระบบรัฐสภาการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ จึงอยากให้สาขาพรรคศึกษากฎหมายและระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เข้าใจ บางที่อาจดูยุ่งยากบ้าง แต่ก็ต้องยอม ขอให้อย่าเบื่อและต้องมีความอดทน เพราะเรื่องของกฎหมายไม่มีทางเลี่ยงเป็นอย่างอื่น เมื่อพรรคจัดกิจกรรมก็ต้องมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายแสดงต่อ กกต.
ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ว่า โดยรวมก็พึงพอใจที่ได้ไปติดตามงานในส่วนของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ซึ่งประชาชนมีความตื่นตัวที่จะให้งานเหล่านี้เกิดขึ้น เมื่อถามว่ากระแสตอบรับเป็นกระแสจัดตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนที่ได้เดินทางไปจะเห็นเองว่าปฏิกิริยาของคนทั่วไปเป็นอย่างไร
ชี้ปัญหาแหล่งน้ำอีสานเรื่องใหญ่
นายอภิสิทธิ์กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ตอนหนึ่งถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ว่า การไปครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเหมือนที่มีการวิเคราะห์กัน เพราะบอกกับ ครม.แล้วว่า ประเทศไทยกำลังลงทุนครั้งใหญ่ จะปรับปรุงทั้งเรื่องถนน แหล่งน้ำ โรงเรียน สถานีอนามัย ฯลฯ จึงต้องการลงไปดูพื้นที่เพื่อทำสิ่งเหล่านี้ มีคนพูดว่าทำไมไม่ไปลงพื้นที่ที่เป็นพรรคร่วมบ้าง จึงเห็นว่าแนวคิดนี้ไม่เลว เมื่อเจอนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่รัฐสภา จึงบอกว่าจะไปดูโครงการไทยเข้มแข็งในพื้นที่ ซึ่งนายโสภณก็เสนอให้ไป จ.บุรีรัมย์ ความจริงตนอยากจะไปทั่วประเทศอยู่แล้ว
"ความต้องการของอีสาน เรื่องแหล่งน้ำเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด ถ้าผันน้ำมาจากเพื่อนบ้าน ทำอุโมงค์ลอดแม่น้ำโขงต้องใช้เงินเป็นแสนล้านบาท และยังไม่ทราบว่าจะมีปัญหากฎเกณฑ์ระหว่างประเทศหรือไม่ จริงๆ แล้วน้ำตามธรรมชาติในภาคอีสานก็มีไม่ใช่น้อย เพียงแต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี ขณะเดียวกัน ปัญหาเรื่องถนน สถานีอนามัย และโรงเรียนก็เหมือนกันทั่วประเทศ" นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า โครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งนั้น จะต้องแก้ปัญหาเรื่องความยากจน อาจจะมีบางมาตรการ เช่น มีเงินทุนให้กู้ยืมไปล้างหนี้ หรือเรื่องการแทรกแซงราคาพืชผล ต้องทำให้เป็นระบบมากขึ้น
ปชป.หนุนลงพื้นที่สัปดาห์ครั้ง
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และกรรมการบริหารพรรค ปชป. แถลงว่า การลงพื้นที่ของนายกฯที่ จ.บุรีรัมย์ ถือว่าประสบความสำเร็จ และพรรคเห็นว่านายกฯควรลงพื้นที่แบบนี้อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หรือถ้าอาทิตย์ละครั้งได้ก็จะยิ่งดี และสนับสนุนให้ลงพื้นที่ด้วยเกณฑ์สภาพปัญหาด้วย เช่น ที่สระบุรีที่มีทั้งคนหนุนและต้านการสร้างโรงกำจัดขยะ หรือที่มาบตาพุด มีเรื่องคุณภาพชีวิต เพื่อไปเห็นสภาพปัญหาที่แท้จริง จะได้ประโยชน์มากไปตรวจสอบว่าฝ่ายปฏิบัติทำตามนโยบายรัฐบาลได้แค่ไหน และประชาชนจะให้ข้อมูลเชิงลึกกับนายกฯได้ ไม่ใช่ได้แต่ข้อมูลปั้นแต่ง
นายสาธิตกล่าวว่า นอกจากนี้ คนที่ไม่ชอบนายกฯ อาจเกิดขึ้นเพราะได้ข้อมูลด้านเดียว การที่นายกฯลงพื้นที่จะทำให้ประชาชนได้สัมผัส ใกล้ชิด เข้าใจความจริงใจของนายกฯในการแก้ปัญหามากขึ้น สามารถลดความขัดแย้งของประชาชนได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง และชาวอีสาน ที่จะเข้าใจรัฐบาลมากขึ้นว่าทำอะไร อย่างไรบ้าง
ส.ส.อุบลฯโวนายกฯได้ใจชาวบ้าน
นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรค ปชป. กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกฯว่า ได้คุยกับเพื่อน ส.ส.อีสานของพรรค และประเมินว่าประสบความสำเร็จอย่างดี จากเดิมที่คิดว่าพื้นที่นี้เป็นของนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ซึ่งเคยอยู่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยลงพื้นที่นี้และได้รับความชื่นชอบมาก แต่เมื่อดูจากแววตาของประชาชนที่มาต้อนรับจะเห็นว่าชาวบ้านรักนายกฯจริงๆ ทำให้เชื่อว่า พื้นที่อื่นๆ ในอีสาน หากนายกฯลงพื้นที่จะได้ใจประชาชนไม่ต่างจากที่ จ.บุรีรัมย์
นายศุภชัยกล่าวว่า ต่อไป 5 ยุทธศาสตร์เรื่อง การศึกษา แหล่งน้ำ โรงพยาบาล ถนนไร้ฝุ่น และฟื้นฟูวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว จะเป็นปัจจัยสำคัญ นายกฯคงต้องลงพื้นที่ไปบอกชาวอีสานและพื้นที่อื่นๆ ว่าจะเกิดตรงไหน อย่างไรบ้าง ถ้านายกฯลงมาติดตามด้วยตัวเอง มั่นใจว่าจะได้ใจประชาชนเพิ่มขึ้นอีก
รับส่วนหนึ่งสำเร็จเพราะ"เนวิน"
"ต้องยอมรับด้วยว่าเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้นายกฯประสบความสำเร็จในการลงพื้นที่ คือนายเนวิน และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่บริหารจัดการหลายอย่างให้เรียบร้อย จุดนี้จะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้นายกฯลุยพื้นที่อีสานได้" นายศุภชัยกล่าว
เมื่อถามว่า การจัดการดังกล่าวอาจทำให้ประเมินความสำเร็จของนายกฯคลาดเคลื่อนได้ นายศุภชัยกล่าวว่า แน่นอนว่าส่วนหนึ่งที่สำเร็จเป็นเพราะการจัดการ แต่อีกส่วนจะเห็นว่ารถนายกฯวิ่งผ่านจะมีพ่อแม่ และเด็กๆ วิ่งออกมาโบกมือต้อนรับ ตรงนี้เป็นธรรมชาติ บริหารจัดการยาก เป็นความผูกพันที่ไม่ธรรมดา และ ส.ส.สัมผัสได้ ทั้งนี้ 2 กลุ่มที่พิเศษมากคือ กลุ่มนักเรียน ซึ่งนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ทำให้ได้ใจ และเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ ที่ให้ผู้สูงอายุออกมากอดต้อนรับนายกฯ
เตือนเสื้อแดงขวางระวังไม่มีที่ยืน
เมื่อถามว่า แต่ยังมีบางกลุ่มออกมาขับไล่นายกฯ นายศุภชัยกล่าวว่า ลองคิด 2 ทางว่าคนหนึ่งเอาผลงาน ความเจริญไปให้ กับอีกฝ่ายมาไล่ ก็เหมือนการขัดขวาง กระแสจะตีกลับ ทำให้พรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงไม่มีที่ยืนในภาคอีสาน และจะเจ็บเอง ขอฟันธง เพราะกลุ่มที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบมีมากกว่า
นายศุภชัยกล่าวว่า ส่วนนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรค ปชป. ที่ไม่ได้ไปลงพื้นที่ด้วยนั้น ทราบว่าไปประเทศลาวเพื่อร่วมงาน 100 ปีชาตกาล เจ้าสุภานุวงศ์ อดีตประธานประเทศลาว ซึ่งกอบกู้อิสรภาพของประเทศลาวจากประเทศฝรั่งเศสและประเทศสหรัฐอเมริกา
ปธ.วิปรบ.ปลุกรวมกันเราอยู่
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกฯว่า เป็นการเดินตามยุทธศาสตร์ในการ "รวมกันเราอยู่ กอบกู้เศรษฐกิจ ใกล้ชิดประชาชน" โดยประชาชนให้การขานรับเป็นอย่างดี รัฐบาลจึงควรเดินหน้าทำยุทธศาสตร์นี้ให้เป็นจริงในนามพรรคร่วมรัฐบาล ให้คิดว่าทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก จะทำให้ประชาชนขานรับเช่นเดียวกับที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์นี้พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องประเมินกันเป็นระยะๆ และต้องร่วมกันทำงานให้เป็นจริง จะทำให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหา ส่วนกลุ่มอื่นที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องแยกให้ชัดว่ารัฐบาลไม่ได้ทำงานการเมือง แต่ทำงานเพื่อประชาชน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะโฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรค ปชป.แถลงว่า ที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ส่งสัญญาณสนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นั้น ตนคาดหมายอยู่แล้วว่าถึงอย่างไรคนในตระกูลชินวัตรก็จะได้เป็นหัวหน้าพรรค พท. หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์มาเป็นหัวหน้าพรรค พท. ก็ขอแสดงความยินดีด้วยที่จะลงสนามการเมืองเต็มตัว อย่ามาลับๆ ล่อๆ "ณัฐวุฒิ"ซัด"มาร์ค"ลิเกการเมือง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า ที่นายอภิสิทธิ์เดินทางลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์นั้น เป็นภาพลิเกการเมือง เพื่อสมประโยชน์กันของฝ่ายการเมืองสองกลุ่ม คือพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยไม่ได้มีประโยชนกับประชาชนคนบุรีรัมย์อย่างแท้จริง จากการลงพื้นที่ดังกล่าว ทำให้เห็นภาพทางการเมืองที่ว่าสามารถลงพื้นที่ภาคอีสานได้ ขณะที่นายเนวินอยากกอบกู้ศักดิศรี ซึ่งบอบช้ำจากการพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนครและ จ.ศรีสะเกษ
"วันนี้คุณอภิสิทธิ์เล่นบทพระเอกแล้วลอยตัวจากทุกปัญหา ไม่เคยลงมารับผิดชอบปัญหาใดๆ ด้วยตัวเอง แม้แต่เรื่องเดียว ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยสัมผัสว่านายกฯลงมือทำงานเลย ที่นายกฯจะไปภาคเหนือ ภาคอีสาน แล้วต้องมีเจ้าหน้าที่ 5 พันนายอารักขา และมีงบฯมหาศาลเทลงไปเพื่อให้นายอภิสิทธิ์เล่นบทเป็นพระเอก โดยเดินทางไปกลับในวันเดียวนั้น ความจริงคนเสื้อแดงในแต่ละจังหวัดอยากจะแสดงออกว่าไม่ต้อนรับก็ทำไม่ได้ เรื่องนี้คงต้องเพิ่มความเข้มข้นในการเคลื่อนไหวให้มากขึ้น"นายณัฐวุฒิกล่าว
เสื้อแดงนครปฐมโผล่ไล่ "มาร์ค"
เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์เดินทางไปคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม เพื่อทำพิธีเปิดโรงงานต้นแบบนำร่องทดลองผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ณ อาคารปฏิบัติการควบคุมและประเมินคุณภาพทางเภสัชศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี หลังนายอภิสิทธิ์ตรวจห้องปฏิบัติการเรียบร้อยแล้ว ได้สวมหน้ากากอนามัยเดินพบกับประชาชน เพื่อเป็นตัวอย่างในการรณรงค์การสวมหน้ากากอนามัยในที่ชุมชนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ทำพิธีเปิดนั้น มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 20 คน พร้อมป้ายผ้าข้อความว่า "คนนครปฐม ไม่ต้อนรับรัฐบาลโจรก่อการร้าย" มาชุมนุมบริเวณหน้าคณะเภสัชศาสตร์ โดยมีตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยรอบบริเวณ นอกจากนี้นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน (พปช.) มาร่วมพิธีเปิดงานนี้ด้วย
จากนั้น เวลา 15.15 น. นายอภิสิทธิ์ไปร่วมพิธีปิดงาน World Saxophone Congress ครั้งที่ 15 ณ อาคารภูมิพลสังคีต วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และร่วมชมการแสดงดนตรีด้วย โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 20 คน ถือธงแดงช้างเผือก พร้อมตีนตบหน้าอาคารภูมิพลสังคีต โดยมีตำรวจดูแลความปลอดภัย ระหว่างที่นายกฯจะเดินทางกลับ กลุ่มเสื้อแดงพยายามปิดล้อมประตูทางออก ตำรวจต้องนำกำลังไปเคลียร์พื้นที่กันกลุ่มผู้ชุมนุมออกไป เพื่อเปิดทางขบวนของนายกฯ