ที่มา ไทยรัฐ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่รัฐบาลจะมาล้อเล่น พูดจาให้ประชาชนสับสน หรือทำตัวประมาทไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะมันเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีวัคซีนรักษาโรค ติดแล้วอาจทำให้ตายได้ทันที อย่างที่ "ลม เปลี่ยนทิศ" ได้เขียนเตือนไปเมื่อวันก่อน...
ขณะนี้เชื้อหวัด 2009 ได้ลามระบาดไปทั่วประเทศ เข้าถึงเกือบทุกชุมชน คาดว่ามีผู้ติดเชื้อแล้วนับแสนคน ไม่ใช่ 3 พันกว่าคนอย่างที่กระทรวงสาธารณสุขแถลงรายวัน
ที่น่ากลัวและเป็นข้อพิสูจน์ได้แล้วจริงๆคือ โรคนี้เป็นแล้วตาย ถ้ารู้ตัวสายเกินไป หรือรักษาโรคอย่างไม่ถูกต้อง!!
ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขหรือรัฐบาล จะมาใช้เล่ห์เหลี่ยมการเมือง เอาตัวรอดไปวันๆไม่ได้เด็ดขาด
เพราะผู้ติดเชื้อที่ล้มตายไปแต่ละวัน ไม่ใช่ เครื่องสังเวยในความประมาทของใคร
มาถึงกรณีที่ผู้คนตำหนิรัฐบาลรุนแรง เรื่องที่ไม่ยอมกระตือรือร้นในการเปิดเผยข้อมูลและการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองจากไข้หวัด 2009
ผมว่าเรื่องนี้สำควรแล้วที่จะตำหนิ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอีกคนที่ควรตำหนิมากที่สุดก็คือ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯที่กำกับดูแลสื่อของรัฐ
เพราะไม่เคยเอาเครื่องมือรัฐออกมาประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเตรียมตัวรับมือกับโรคร้ายนี้
แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เคยเห็นสปอตโฆษณาการรณรงค์แต่อย่างใด
หรือฟรีทีวีที่เอกชนบริหารก็มีหลายช่อง รัฐควรขอความร่วมมือไปยังผู้บริหารเหล่านั้น เพื่อพร้อมใจกันกระตุ้นเตือนประชาชนอย่างเต็มที่และเป็นระบบ การแพร่ระบาดก็คงไม่ลุกลามใหญ่โตระดับนี้
แต่เพราะพรรคประชาธิปัตย์ชอบบริหารงานแบบอึมครึม ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง มันถึงได้เป็นเช่นนี้
ทว่าก็ยังไม่สายเกินไปที่รัฐบาลจะกลับมาใช้สื่อในมือลุยระดมกันเต็มสูบ ยกระดับให้ ไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นวาระแห่งชาติ น่าจะกำจัดการระบาดของเชื้อโรคลงได้
ความเป็นความตายกำลังรออยู่ข้างหน้า... รัฐบาลประชาธิปัตย์อย่ามาทำปากดีไม่ได้อีกแล้ว
จิตใจผู้คนหวาดกลัว กระเจิดกระเจิงกันไป หมด ไม่รู้เชื้อร้ายมันแพร่ระบาดไปขนาดไหน
ตายทับถมรายวันขนาดนี้...หากพวกท่านยังใจเย็นกันอีก ก็ไม่ควรอยู่แล้ว??!!
"แจ๋วริมจอ"