ที่มา มติชนออนไลน์
โฆษกพท.ซัดนายกฯ ใช้กำลังคุ้มกันเข้มลงพื้นที่บุรีรัมย์โอเวอร์ ซ้ำมีเสื้อน้ำเงินคุ้มกันเท่ากับเป็นการประจานตัวเอง มองล้มเหลว สะท้อนความแตกแยก อัดให้ตร.-ทหารดูแลปชช.ดีกว่า "เสื้อแดง"โวยรบ. อันธพาล นักเลงโต สกัดไม่ให้เดินทางไปบุรีรัมย์
พท.ซัด"มาร์ค"คุ้มกันเข้มลงบุรีรัมย์ประจานตัวเอง เหลวแก้แตกแยก
ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ ไทย ที่ต้องใส่เสื้อเกราะอ่อน มีกำลังรักษาความปลอดภัยที่เป็นตำรวจ ทหาร และพลเรือน เสื้อน้ำเงินเสื้อขาวกว่า 5,000 คน นั่งรถกันกระสุน และที่สำคัญมีเฮลิคอปเตอร์ คอยบินคุ้มกันมีการบล็อกมวลชนเสื้อแดง ไม่ให้มาประท้วงต่อต้านรัฐบาล แม้ว่ารัฐบาลจะบอกว่าประสบความสำเร็จ แต่ประชาชน และพรรคเพื่อไทย มองว่า เป็นความล้มเหลว และการที่มีการรักษาความปลอดภัยมากขนาดนี้ถือเป็นการประจานตัวเอง เพราะการลงพื้นที่ครั้งนี้ใช้กำลังมากการคุ้มครองกว่า นายกรัฐมนตรีคนใดในประวัติศาสตร์ และใช้งบประมาณมากที่สุด ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ไขวิกฤติความแตกแยกของรัฐบาลตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้นคือความล้มเหลวอย่างมโหฬาร “พรรคเพื่อไทยขอร้องว่านายอภิสิทธิ์ว่า การลงพื้นที่ครั้งต่อไป ที่ จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.อุบลราชธานี หากใช้กำลังขนาดนี้ ควรให้ตำรวจทหารดูแลประชาชนมากกว่าจะต้องมาดูแลนายกฯ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
เสื้อแดงโวยรบ.เป็นนักเลง สกัดไม่ให้เดินทางไปบุรีรัมย์ นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำชมรมคนเสื้อแดงอยุธยา กล่าวะเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ว่า รัฐบาลกลัวเสื้อแดงเกินเหตุ และยังใช้วิธีอันธพาลนักเลงโตมาสกัดกั้นเสื้อแดงไม่ให้เดินทางไปยัง จ.บุรีรัมย์ อีก ภาพที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ เห็นชัดเจน เสื้อน้ำเงินลูกน้องเจ้าถิ่นเมืองบุรีรัมย์ นักเลงชัด ๆ มีทั้งไม้และอาวุธ มาแสดงอำนาจเหนือกฎหมายปิดถนน ที่สำคัญมากับตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ทำอย่างกับว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปร ฉันจะทำอะไรก็ได้ บ้านเมืองเป็นของฉัน ที่สำคัญตำรวจก็ ปล่อยให้คนเสื้อน้ำเงินมาปิดถนนก็ไม่ยอมทำอะไรเลย แบบนี้ก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าใครที่ทำตัวเหนือกฎหมายบ้านเมือง ทุกอย่างภาพมันฟ้องชัด ๆ สำหรับตนเองถูกตามประกบแบบกดดันหนัก คุกคาม และถูกเฝ้าถึงหน้าบ้านหลายวันก่อนที่จะมีกำหนดเดินทางไป จ.บุรีรัมย์แล้ว แต่บอกตามตรง พวกเสื้อแดงนั้นก็เป็นเพียงคนที่ต้องการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเท่านั้น ก็เหมือนสมัยที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลและมีเสื้อเหลืองมาประท้วง ช่วงนั้นเสื้อเหลืองก็ประท้วงได้เต็มที่ เพราะรัฐบาลโดยพรรคพลังประชนทำในกรอบกฎหมายเมื่อประชาชนประท้วงก็คือประท้วง แต่พอรัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล กลับปิดกั้นแนวทางการแสดงออกทางการเมืองของเสื้อแดง เท่ากับว่ารัฐบาลเป็นรัฐบาลเผด็จการ นิยมความรุนแรงในการปกครองประเทศ และหากเป็นอย่างนี้ต่อไปจะเรียกว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร หากประชาชนไม่สามารถทำกิจกรรมแสดงออกความคิดทางการเมืองได้