WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 17, 2009

สำหรับพวกรู้ทันแกนนำ..มาเข้ามา..

ที่มา thaifreenews

โดย ลูกชาวนาไทย

กระทู้ที่มา http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic2.php?id=828022

คุณ Bor-Gor ครับ ผมอยู่ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่ชวลิต ยงใจยุทธ ชุมนุมครั้งแรกที่ ลานพระรูปวันที่ 7 เมษายน 35 หรืออะไรประมาณนี้แหละ และคืนวันที 18 พฤษภาคม ผมก็อยู่ และเดินไปที่สะพานผ่านฟ้า ตอนตีสี่ และวิ่งหลบลูกปืน

และผมก็ทันเคาะขวดพสาสติก สู้กับเสียงปืนด้วย

พฤษภาทมิฬ หากมองแบบ ตื้นๆ ก็ต้องคิดว่า ชวลิต กับจำลองหลอกคนไปนั่นแหละ ซึ่งเป็นการมองอะไรในมิติเดียว มองมิติของเกมอย่างเดียว

ปัญหานี้ "มีน้องที่เรียนปริญาโท" รุ่นเดียวกับผมขณะนั้นโทรมาคุยกับผม ก่อนพฤษภาทมิฬว่า "พวกเราโดนชวลิต กับจำลองหลอกใช้เป็นเครื่องมือหรือเปล่า"

ผมตอบเขาว่า "จุดมุ่งหมายของประชาชนอย่างผมในขณะนั้นคือ การชับไล่สุจินดา คราประยูร และกลุ่ม รสช.ออกไป" ประชาชนทั่วไปอย่างพวกผมไม่มีทางที่จะมีพลังไปรวมตัวกันข้บไล่ได้ มันต้องมีแกนนำ

แกนนำเขาอาจมีความต้องการส่วนตัว เช่น บางคนอยากเป็นนายกฯ บางคนอยากเป็นใหญ่ แต่ จุดมุ่งหมายเดียวกันกับคนที่ไปคือ "ไล่สุจินดา"

เมื่อไล่สุจินดาได้แ้ล้ว เหมือนทำสงครามชนะแล้ว ผมไม่ใช่คนใจแคบ ที่จะไม่ให้ความดีความชอบแก่แกนนำเลย ในสงครามมันต้องมีคนได้รับรางวัลอยู่แล้ว และพวกเขาจะได้ประโยชน์ ไปเป็นนายกฯ หรืออะไร ผมก็ไม่แคร์ด้วย เพราะจุดมุ่งหมายของผมคือ "ไล่สุจินดา" และบรรลุผลแล้ว

จะว่าผมหรือประชาชนที่ไปร่วมไล่สุจินดาโดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือก็ได้ หรือ อาจคิดกลับกันว่า "ประชาชนใช้ จำลองกับชวลิต" เป็นเครืองมือก็ได้

แต่ที่แน่ๆ คือ " พวกเราร่วมมือกันไล่สุจินดา"

อย่าคิดอะไรแบบชั้นเดียวครับ ไม่มีจำลองกล้าชนสุจินดา วันนั้นก็ไม่ชนะสุจินดาได้ จำลองวันนั้น กับวันนี้ ย่อมมีเป้าหมายต่อประชาชนต่างกัน

และผมก็ไม่ค่อยเชื่อว่าจำลองมีอุดมการณ์อะไรมากมายด้วย แต่วันนั้น เขาเห็นทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเมือง จึงมาร่วมกับประชาชนไล่สุจินดา ประชาชนที่ไม่ใช่สันติอโศก ก็ได้ประโยชน์ที่จะไล่สุจินดา มันจึงเป็นพันธมิตรกันได้่

วันนี้จำลองอาจเห็นประโยชน์เหมือนเดิม ที่ว่ามีคนอยากไล่ทักษิณ เขาก็เลยเข้ามาร่วม บังเอิญผลมันไม่เหมือนกับสุจินดา เพราะทักษิณไม่ได้มาจากรัฐประหาร มีประชาชนสนับสนุน จำลองกับ พธม. อาจสมประโยชน์กัน

แต่กับเสื้อแดงเขาเป็นศัตรู มิตรในวันนั้น ก็อาจเป็นศัตรูในวันนี้ได้

ไม่มีใครหลอกใคร แต่เขาร่วมมือกันในสถานการณ์ขณะนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน

เรื่องสามเกลอก็ไม่ต่างกันจากที่ผมว่ามานี้ ประชาชนจำนวนมาก เขาอยากรวมตัวกันสู้เืพื่อประชาธิปไตย สามเกลออาจมีวัตถุประสงค์ส่วนตัวอย่างอื่นด้วย แต่วันนี้เรายังร่วมมือกันได้ เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรที่เป็น โทษต่อเสื้อแดง

ดังนั้น ผมจึงร่วมมือกับเขา มันไม่จำเป็นต้องไปคิดว่า "ใครหลอกใคร"

คิดแบบนั้นมันอ่อนเยาว์เกินไปครับ

หากวันนั้น มีคนคิดว่า "อย่าไปร่วมมือกับจำลองมันอยากเป็นใหญ่" แล้วคิดเล็กคิดน้อย แบบ จขกท. ผมว่าวันนั้น สุจินดาชนะและครองอำนาจสืบมานานแน่นอน

การทำสงคราม มันมีมิติที่ใหญ่กว่านั้นเยอะ ไมมีอะไรที่แคบแบบนั้น

มัวแต่เป็น "พวกรู้ทันแกนนำ" แบบพวกรู้ทันทักษิณ ก็ไม่ต้องไปไหนกัน คนโน้นก็ไม่บริสุทธิ์ มี Agenda ส่วนตัว คนนี้ก็ไม่จริงใจ

สรุปตีกันตายก่อนไปออกรบ

แค่ถามทุกคนว่า วันนี้จะไปรบด้วยกันหรือเปล่า ก็พอแล้ว หากไปรบด้วยกัน ก็ออกไปเลย พรุ่งนี้จะไปรบด้วยหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง

อย่ารู้่ทันมากนักเลยครับ ดูเป้าหมายดูยุทธศาสตร์ เรื่องคนนั้น เพลาๆ ลงบ้าง

คิดจะทำศึกใหญ่ อย่าใจแคบ ยุทธศาสตร์สามเกลอ ไม่มีอะไรที่ทำให้เสื้อแดงเสียหายมากมายนัก นอกจากล่ารายชื่อเหนื่อย ก็แค่นั้น

แต่วันนี้มีผลได้แล้วคือ เครือข่ายเสื่อแดงที่ใหญ่โต และการมีส่วนร่วมของประชาชนหลายล้าน

คิดการใหญ่ ต้องมองข้ามหัวคนอื่นไปบ้าง มองไปที่เป้าหมายข้างหน้า การรบในสงครามใหญ่ ไม่เคยมีการรบครั้งเดียว มันมีสงครามย่อยมากมาย

อย่าฉลาดแต่คอยจับผิดคนอื่่น

คุณ pookim ผมคิดว่า พฤษภาทมิฬ ผมอยู่ใกล้เหตุการณ์มากกว่าคุณจักรภพ และเข้าใจประชาชนที่เข้าไปต่อต้านมากกว่า เพราะผมนอนที่สนามหลวง หลายคืน นอนที่หน้าร้านอาหารแดงกลางถนนราชดำเนินสองคืน ไม่ใช่อยู่ตรงส่วนที่เขาประสานงานเพื่อแก้เกมต่างๆ ซึ่งจะทำให้เรามองทุกอย่างตรงนั้นเป็๋นเกม แต่เราไม่เข้าใจมวลชน ว่าเขาต้องการอะไร เขาถึงออกมาร่วมมือกับแกนนำ จำนวนมากขนาดนั้น

ที่จริงมวลชนพฤษภาทมิฬ ส่วนที่ "ศรัทธาจำลอง" อย่างเดียวมีกลุ่มหนึ่งประมาณ 50,000 คนเท่านั้น แต่มวลชนที่เหลือ ม็อบมือถือ คนชั้นกลางต่างๆ ไม่ได้ศรัทธาจำลอง แต่เขาต้องการไล่สุจืนดา

จิตวิทยาร่วมในขณะนั้นคือ ปี 2535 เศรษฐกิจประเทศไทยกำลังเจริญเติบโตค่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และกำลังอยู่ใน "ยุครุ่งเรือง" ตลาดหุ้นกำลังโตขเกิน 1200 จุด เคยขึ้นไปถึง 1,800 จุดด้วยซ้ำ ฟองสบู่กำลังพอง ไม่ใช่กำลังจะแตก ตอนนั้นประเทศไทยกำลังกระตือรือล้นที่จะเป็นประเทศ NICs หรือ Newly industrial country ประเทศอุตสาหกรรมใหม่ หรือเสือตัวที่ 5 อยู่ๆ ก็ฟ้าผ่าเปรี้ยง สุจินดามาทำรัฐประหาร ท่่ามกลางกระแสกลัวเศรษฐกิจจะดิ่งลงเหว ส่งออกไม่ได้ ของคนชั้นกลางและคนทุกชั้น ประชาชนทั่วประเทศจึงเป็นศัตรูกับสุจินดาทันที และสุจินดา ก็เสียสัตย์จะว่าจะไม่เป็นนายกฯ ทีนี้ชวลิตก็ออกมาขับไล่ เพราะชวลิตอุส่าห์สละตำแหน่งลาออกให้สุจินดา เพื่อมาเล่นการเมือง

จำลองเข้ามาร่วมทีหลังชวลิต แต่ใจเด็ดกว่า ดันเกมไปอยู่ในจุดที่อันตรายกว่า จึงนำมวลชนได้อย่างรวดเร็ว คนอยากออกไปตีไปขับไล่สุจินดากันอยู่แ้ล้ว ไม่ใช่ว่า จำลองปราศรัยเก่ง หลอกคนไปได้หรอกครับ

ก็เหมือนเสื้อแดงวันนี้ เราอยากออกไปขับไล่อำมาตย์กันอยู่แล้ว ไม่ใช่สามเกลอเก่งอะไรหรอกครับ แต่สามเกลอเป็นแกนนำที่ "ออกไปกระโดนโลดเต้นกลางสนาม" ได้มากกว่าคนอื่น

หากสามเกลอ ไปผิดแนว มวลชนก็ไม่เอาเหมือนกัน สามเกลอฮั้วอำมาตย์ มันก็มีกลุ่มอื่นขึ้นมานำแทน คนก็ทิ้งสามเกลอไป ก็เหมือนเนวิน ที่คิดว่าไปร่วมมือกับอำมาตย์ จะชักจูงเสื้อแดงที่ตัวเองเคยทำได้ เนวินก็ทำอะไรได้ไม่มาก ทำให้เสื้อแดงโตเยอะกว่าเิดิมอีก

ไม่ใช่พวกรู้ทันบ้าบอว่าจะพามวลชนไปผิดทางหรอกครับ

มวลชนเขามี "เป้าประสงค์ที่ชัดเจนแล้ว" คือ ขับไล่อำมาตย์ออกไปจากการเมือง ใครหลุดเป้าหมายจากนี้ มวลชนเขาก็ละทิ้งไป