ที่มา Thai E-News
โดย คุณ ขุนอิน
ที่มา เวบบอร์ด ประชาไท
22 สิงหาคม 2552
ไม่คุยเรื่อง การถวายฎีกาว่าเริ่มจากใคร ต้องการอะไรนะครับ
แต่เกมมันเริ่มแล้วมันเปลี่ยน ตอนแรกอาจจะต้องการอย่างหนึ่ง แต่มันเกิดได้จำนวนคนมากเกินคาด และทำให้วิเคราะห์ว่า เครือข่ายภาคประชาชนที่เกิดขึ้นมารองรับนั้น เร็วและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาการจัดตั้ง มันนำไปสู่การอยากจะใช้มวลชนนี้ในทางการเมืองบางอย่าง เลยเกิดแนวคิดว่า
ยิ่งค้าน ยิ่งต่อต้าน ยิ่งจะเพิ่มจำนวนคน..
แค่นี้ก็มองออกแล้วว่า เป็นเกมแสดงพลังมวลชน มากกว่าจะหวังผลในเนื้อหาของฎีกา
การแสดงพลังมวลชนได้อะไร? ได้ตบหน้ากระบวนการล้างสมองภาครัฐ ที่ออกผ่านนโยบายรัฐบาล ทาง กอ.รมน. ทางเครือข่ายมหาดไทย เครือข่ายทหาร สื่อหลัก และสื่อเหลือง ว่าไม่ได้ผล ไม่สามารถทำลายความนิยมในตัวท่านทักษิณได้
การตบหน้านี้ ทำให้ผู้จ่ายงบประมาณเพื่อทำลายความนิยมทักษิณ ต้องไปไล่เบี้ยความล้มเหลวกันเอง และต้องหากลยุทธใหม่ ๆ มา มันก็จะนำไปสู่ความเข้มข้นของการเมืองมากขึ้น เช่นให้ อสส.ยื่นฟ้องคดีบ้านป๋า ใช้เครือข่ายนักวิชาการ ออกมาตอบโต้ สร้างกระแสใหม่
ย้อนไปเรื่องรัฐประหาร รัฐบาลขิงแก่ขึ้นมา mission สำคัญอันดับหนึ่ง คือทำลายความนิยมของประชาชนที่มีต่อทักษิณ และเขาพลาด ที่ทำด้วยการชงคดี และการล้มโครงการดี ๆ ที่ทำให้ประชาชน เท่ากับผลักประชาชนไปเป็นศัตรู mission นี้ยังล้มเหลวมาจนทุกวันนี้
เคยใช้งบลับทางทหาร ทำโครงการต่าง ๆ ก็ล้มเหลว หนามที่ยอกอกอำมาตย์และเครือข่ายก็คือ ทำไมประชาชนยังรักทักษิณไม่คลาย
การแสดงพลังมวลชนผ่านการถวายฎีกาครั้งนี้ ถ้าทำยอดไปถึง 10 ล้านได้ ย่อมทำให้นำไปสู่การคาดการณ์ผลการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้แน่นอน การดิ้นก็คือ ไม่ให้มีการเลือกตั้ง ตราบใดที่ประชาชนยังเป็นแบบนี้
การประคองรัฐบาลให้อยู่ให้นานที่สุด จึงต้องลำบากเป็นสองเท่า เพราะในฟากรัฐบาล ก็พร้อมจะแตกกันได้ ในภาวะที่บริหารเศรษฐกิจล้มเหลว แย่งเค้กกันไม่พออิ่ม ยังมาเจอข้อเรียกร้องของสนธิ ลิ้มทองกุล ที่จะฟาดกับอำนาจเขียวบวกน้ำเงิน ผ่านนอมินี่อภิสิทธิ์
มือที่มองไม่เห็นก็ต้องสำแดงเดชอีกครั้ง เพื่อประคองความมั่นคงของรัฐบาล เลยเกิดปรากฏการณ์ประหลาด ๆ กับองค์กรตำรวจ แต่สุดท้าย คนคำนวนมิสู้ฟ้าลิขิต ถ้าประคองไม่ได้ รัฐบาลก็อาจต้องล้มไป
ก็ต้องหาวิธีการหรือสูตรประหลาด ๆ มาทำให้อำนาจยังอยู่กับฝ่ายตน จึงเป็นที่มาของข่าวลือรัฐประหารเงียบอีกครั้ง หรืออนาคต อาจมีการเซ็นรับรองการรัฐประหารด้วยเหตุผลแปลก ๆ อีกก็ได้ เพราะเขากลัวการเลือกตั้งมากกว่าการทำรัฐประหาร....
เสื้อแดง มีหน้าที่รวบรวมมวลชน หากิจกรรมแสดงพลัง ขยายฐานมวลชนไปเืรื่อย ๆ เสื้อแดงฝ่ายวิชาการก็ถือโอกาสเผยแพร่ความรู้ประชาธิปไตยไปเรื่อย ๆ อดทนให้กันและกัน มวลชนเติบโตไปเรื่อย ๆ พร้อมความรู้ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วชัยชนะจะไปไหนเสีย
ทำให้พวกเขากลัวการเลือกตั้ง จนไม่กล้าจัดการเลือกตั้ง นั่นแหละ เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เขาประเมินมวลชนต่ำไป คิดว่ามีทุกอย่างในมือ จะบิดผลการเลือกตั้งได้ แต่ก็ทำไม่สำำเร็จ คราวนี้รับรองว่า เขาไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง จนกว่าจะทำลายทักษิณได้สำเร็จ......
เกมยาวก็ต้องลากยาว พร้อมสนุกกับการดูเผด็จการศักดินาดิ้น เพื่อรักษาอำนาจ
จงจำไว้... มวลชนต้องรักษา พัฒนา ให้เติบโตอย่างช้า ๆ แต่ต่อเนื่อง ใครใจร้อน ไปหวังอะไรที่ลม ๆ แล้ง ๆ โปรดเข้าใจคนอายุต่ำกว่า 50 มักจะใจเย็น แต่คนอายุมากกว่ามักจะใจร้อน เพราะกลัวตัวเองตาย ก่อนจะได้เห็นสิ่งที่อยากเห็น ปกติใคร ๆ ก็บอกว่าคนหนุ่มสาวจะใจร้อน แต่เรื่องการเมืองตอนนี้ กลับไม่ใช่แฮะ
ขอให้เสื้อแดงจงโชคดี ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คืบ รอโอกาส สิงโตหิวหมอบรอเหยื่อทั้งวันยังรอได้ คนเสื้อแดงจงอดทนอย่างสิงโต
คนเสื้อแดงจงหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ใส่ตัว ด้วยการทำงานมวลชนไปอย่างที่ถนัด เปลี่ยนคนเสื้อสีอื่นมาเป็นแดงให้มากขึ้นเรื่อย ๆ ไปร่วมกิจกรรมแสดงพลังทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อสร้างแนวร่วมกันไว้ อย่าติกันเองเพื่อทำลาย อย่าชิงดีชิงเด่นในการนำ จงฟังเสียงติเพื่อก่อ จงติติงกันอย่างสุภาพ อย่าใช้คำด่าทอเช่น "โง่" "ไร้สมอง" "มัวเมา" ฯลฯ คำเหล่านี้สงวนให้อำมาตย์ใช้ก็พอ มันสร้างความเกลียดชังได้ดีนักแล
สนับสนุนทักษิณ ตราบใดที่ทักษิณยังไม่ทรยศมวลชน อย่าไปกังขา คิดมากกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ... ที่สำคัญที่สุด จงสร้างตนเองและครอบครัวให้แข็งแรง พร้อมรับแรงกระแทกในอนาคต เมื่อสงครามใหญ่มาถึง ไม่เป็นสงครามทางกายภาพ ก็ต้องเจอสงครามทางเศรษฐกิจแบบต่อสู้กันเอง อย่าอินกับการเมือง จนทำให้ตัวเองและครอบครัวอ่อนแอ วันแห่งชัยชนะยังอยู่อีกไกล ถ้าตายไป ติดคุก หมดไฟ หมดตัวยากจน แล้วจะเหลืออะไรให้ยินดี ?
ความเครียดเรื้อรัง นำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง นำไปสู่โรคหัวใจ โรคอัมพาต อัมพฤกษ์ แถมยังทำให้ผมหงอก แก่กว่าวัย บางคนอาจนำไปสู่โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เป็นหวัด หรือติดเชื้ออื่น ๆ ได้บ่อย มีอีกหลายโรคที่มากับความเครียด ดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิตของตนให้ดีนะครับ ทำตนให้เป็นมนุษย์ทุกวัน วันข้างหน้าจะได้สุขเหมือนขึ้นสวรรค์ เมื่อวันนั้นมาถึง ผมจะใส่แดงให้บาดตาึคนทั้งกรุงเทพเลย คอยดูสิ
ในยุคนี้ ผมไม่อยากให้เสื้อแดงเป็นรัฐบาล คิดถึงคุณสมัครสิ เป็นรัฐบาลแล้วทำแข็งได้กี่วัน สุดท้ายต้องไปโอ๋ใคร โอ๋เท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ โดนเขากระทำย่ำยีอย่างไม่ยุติธรรม ถ้าเสื้อแดงเป็นรัฐบาล ก็จะต้องเจอกับเกมหมอบราบกราบแก้ว (เขียนมันมั่ว ๆ แบบนี้แหละ) แล้วมันจะเหลืออะไร
ขอให้แมลงสาบอยู่ถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย แล้วมาคอยดูกันว่า เกมจะรุนแรงเข้มข้นขึ้นอย่างไร โดยเสื้อแดงไม่ต้องลงทุนลงแรง กลับมีมวลชนที่เติบโต และมีคุณภาพมากกว่าตอนนี้อีก ถึงเวลาพักฟื้นก็ต้องพัก ปีหน้าก็ได้รบอีกครั้งแล้ว อย่าเพิ่งรีบรบในปีนี้ ชนะเร็วในปีนี้ ก็ได้แต่ทรากปรักหักพัง และความขัดแย้งที่จะนำไปสู่การแพ้อีก
ตัวอย่างคนเสื้อแดงแท้ที่ใจร้อน ก็คือคุณจักรภพ คุณดา คุณสุชาิติ ทำให้โดนตัดออกจากเกมที่ยังเข้มข้นนี้อย่างน่าเสียดาย แต่เชื่อว่าจะกลับมาใหม่ เพราะคนหัวใจแกร่ง ย่อมไม่หมดไฟง่าย ๆ ยังรวมไปถึงคนอย่างลุงนวมทอง คุณณรงค์ศักดิ์ หมดโอกาสถาวร เพราะความไม่รู้เกม เล่นตามความรู้สึก แต่ไม่เห็นภาพรวม เรื่องใจร้อน ไม่เข้าใครออกใคร
ดูตัวอย่างคนใจเย็น คือท่านทักษิณ ซึ่งแต่ก่อนใจร้อน แต่ปรับตัวได้เป็นอย่างดี ทุกวันนี้ ตั้งหลักได้และเติบโตอีกครั้งหนึ่ง..... วันสงกรานต์เลือดก็ได้บทเรียนเรื่องใจร้อนใจเย็นกันไปพอสมควร ขอให้ทบทวนกันด้วย
สำหรับผมแล้ว แอบปลื้มณัฐวุฒิ ไปซื้อหนังสือชกข้ามรุ่นมาแล้ว ก็ยังไม่มีเวลาอ่านเลย ที่ปลื้มเพราะอายุขนาดนี้ ฝีมือขนาดนี้ อนาคตไกลแน่ ขอให้ใจเย็นและรอบคอบก็พอ เชื่อที่เสธแดงเตือนจะดีมาก.....
ตอนนี้ท่านทักษิณ กำลังจะทำทีวี 100 ช่อง ท่านจาตุรนต์กำัลังจะตั้ง working group เรื่องอินเตอร์เน็ต นั่นคือการรุกคืบ ที่ศักดินาอำมาตย์กลัวหนักหนา และจะนำไปสู่เกมรุนแรงเข้มข้นได้อีกในอนาคต .....
ขอยกตัวอย่างของคนที่อ่อนแอ ขลาดเขลา ก็เช่นคนที่ร้องไห้ ขอไม่ให้โดนยุบพรรค แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จต้องไปมอบราบคาบแก้วอีกคน คือห้อย ที่ย้ายข้าง เพราะไม่กล้าสู้กับอำนาจ และอยากได้ผลประโยชน์ที่เขามาล่อ ตอนนี้ก็เลยเป็นอะไรที่หัวเน่า รอวันโดนชำระ ช่วงนี้เลยดิ้นหนัก ด้วยการเลือกข้างให้มันสุดลิ่มทิ่มประตู เดินตามรอยสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งสักวัน จะโดนกฐินสามัคคีได้เมื่อหมดประโยชน์ใช้สอยแล้ว อนาคตห้อย ทำนายได้เลยว่า ยิ่งกว่าปีเตอร์ เพ็ตติกรู
คนจนที่เป็นเสื้อแดง ยิ่งลำบากหนัก อันที่จริงคนทุกสีเสื้อ ถ้ายากจนก็ลำบาก บ้านเมืองนี้ ผู้มีอำนาจในเมืองนี้ สนใจคนจนแค่เป็นเครื่องมือทางสังคมและการเมือง เอาไว้สร้างฐานคะแนนนิยมให้ตนเท่านั้น จะมีใครสนใจพัฒนาคนจนเท่าทักษิณและพรรคพวก?
คนจนไม่มีทางเลือก ต้องอดทนกว่าคนรวยหลายเท่า อย่างไรก็ต้องอดทน เพราะคนจนไม่สามารถนำเกมการเมืองได้ ต้องตามผู้นำทักษิณ ทำให้อำนาจรัฐต้องหันมาเอาใจคนจนมากขึ้น แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
ยกตัวอย่าง "รถเมล์ฟรี เพื่อประชาชน" ไม่กล้ายกเลิก แต่ขอเปลี่ยนเป็น "รถเมล์ฟรี จากภาษีประชาชน" เป็นต้น อีกหลายโครงการที่เขาไม่กล้ายกเลิก และหลายโครงการที่เขายกเลิก แต่กลายเป็นบ่วงมาทำร้ายคะแนนนิยมตัวเอง คิดได้เมื่อสาย เช่นหวยบนดิน หวยออนไลน์ โอทอป
รัฐบาลนี้พยายามประชานิยม แต่ไม่ได้ใจประชาชน เพราะรู้ดีว่า ไม่ได้ทำให้ด้วยใจ ทำให้เพราะหวังคะแนนเสียง ชาวบ้านรับประโยชน์ แต่ไม่ให้คะแนนเสียง นี่คือสิ่งที่ทักษิณทำไว้
ความภักดีต่อทักษิณ เกิดจากมองเห็นความจริงใจของทักษิณต่อประชาชน
สรุปแล้ว คนจนก็ต้องทำงานหนักขึ้นหลายเท่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เราต้องการรัฐบาลแบบไทยรักไทย ที่นำโดยทักษิณ ไม่ใช่พลังประชาชนที่นำโดยสมัครและสมชาย
รัฐบาลพลังประชาชน ที่หนุนด้วยคะแนนเสียงคนจน ไม่แกร่งพอจะสู้กับอำนาจมืดได้ คนจนยิ่งแย่ลงกว่าเก่าไปอีก ในตอนนี้เราต้องการรัฐบาลที่เข้มแข็ง และต่อรองได้กับทุกอำนาจนอกระบบ โดยไม่ต้องไปเกรงใจหรือง้อเขา เราต้องการรัฐบาลที่มีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ ไม่ต้องไปขออนุญาตคนอื่นก่อนจะทำโครงการอะไรที่สำคัญ ๆ เพื่อประชาชนและเพื่อชาติ
คนจนรอไม่ได้ ก็ต้องช่วยกันสร้างเครือข่ายความรู้ทางการเมือง และเครือข่ายทางเศรษฐกิจ คนจนสมัยนี้ถ้างอมืองอเท้าก็ต้องตาย เพราะถุึงยังชีพก็ไม่ค่อยจะแจกกันแล้วด้วย
กิจกรรมช่วยเหลือคนจนก็น่าจะทำ อย่างท่านทักษิณแจกทุนการศึกษา นั่นก็อย่างหนึ่ง กลุ่มเสื้อแดงกลุ่มย่อยก็ช่วยกันทำ อย่าง FARED ก็ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยคนจนที่มาร่วมชุมนุมทางการเมือง หรือกลุ่มย่อยต่าง ๆ จัดกิจกรรมจากเงินบริจาคในชนบท หรือเอาเงินเหลือจากการทำการเมือง ไปบริจาคให้ชุมชุนหรือมูลนิธิต่าง ๆ เพื่อคนจน
ในระหว่างนี้ ก็อยากให้แกนนำเสื้อแดง คิดเรื่องกิจกรรมช่วยเหลือคนจนเสื้อแดงให้มากขึ้น การสร้างมวลชนก็ต้องสร้างความผูกพันระหว่างกัน การช่วยเหลือกันเองในยามเดือดร้อน จะเป็นความผูกพันทางใจที่ยากจะลืม Give help and hope to those most in need
วันนี้ก็มีเรื่องประหลาด ๆ ในวงการตำรวจอีกแล้ว กกต.ก็แสดงผลงานพลังอุ้ม เกมนี้ยืดเยื้อครับ เห็นได้ชัดว่าเครือข่ายอำมาตย์ ยังแน่วแน่ที่การทำลายทักษิณ และความนิยมของประชาชนต่อเขา
ความรุนแรงรออยู่ข้างหน้าแน่นอน ดูแล้ว หัวใจทั้งสองฝ่ายไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมถอย และมีแต่ต้องฟาดฟันกันเท่านั้น
สิ่งที่เสื้อแดงร้องขอ ไม่ใช่ไปโค่นล้มใคร แค่ขอความเท่าเทียมในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เขาให้ไม่ได้ครับ เพราะเขาไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่ เนื่องจากตัวแทนเสียงส่วนใหญ่ ไปแก่งแย่งผลประโยชน์ของเขา
เขาไม่สนใจว่า ภาพรวมใครทำดีกับประชาชนมากกว่ากัน เขาสนใจแต่ความมั่นคงของลูกหลานของเขาเท่านั้น เห็นแบบนี้แล้ว ความรุนแรงเกิดแน่ ๆ ในประเทศนี้
เสื้อแดงทุกท่านพร้อมสู้หรือยัง กำลังกาย กำัลังใจ กำลังสติปัญญา กำลังทรัพย์ เวลา ต้องพร้อมสำหรับเวลานั้น จงเตรียมตัวให้ดี และถนอมน้ำใจกันมาก ๆ ช่วยเหลือเกื้อกูลสื่อสารกันด้วยภาษาดอกไม้
วันนี้เห็นกระทู้ทะเลาะกันเองอีก ก็เหนื่อยใจ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแดงอ่อนทะเลาะกับแดงเข้ม และเป็นที่บุคลิกของคนที่ชอบพูดก้าวร้าว ทะเลาะกันก็เครียดกันไป สุดท้ายก็ต้องเดินไปด้วยกันอยู่ดี มันเกิดประโยชน์ตรงไหน สู้พูดสิ่งที่ตัวเองอยากพูดอย่างสุภาพ ไม่ต้องวิวาทะมากความ แล้วให้คนอ่านค่อย ๆ ไปคิดไม่ดีกว่าหรือ?
พวกเขากำลังสร้างกระแสคัดค้าน ด้วยพลังมวลชนเช่นกัน นำโดยภูมิใจไทยผ่านมหาดไทย นี่เป็นการยกระดับการต่อสู้ทางการเืมืองที่อำมาตย์เขาชอบ ที่เขาชอบเพราะการใช้กลุ่มเนรคุณมาชนกับทักษิณ มันเหมือนเอาหอกของศัตรูไปทิ่มแทงศัตรู เขาไม่มีต้นทุนอะไรต้องเสีย แต่ทำให้คนชนบทระส่ำระสายในความคิดได้ระดับหนึ่ง กลุ่มเนรคุณก็คิดสั้น แทนที่จะพยายามเลี้ยงตัวเองไปแอบกินอยู่ข้างหลัง เล่นแต่เกมในสภาก็พอ (ซึ่งเป็นจุดเด่นของกลุ่มตน) กลับมาเล่นนอกสภา ให้เป็นที่จับตาของทุกฝ่าย
หอกข้างแคร่ ถ้าใช้ในสงครามแล้วหักก็ทิ้งไป แต่ถ้าไม่หักก็ต้องโดนหักทิ้งอยู่ดีเมื่อสงครามจบ อนาคตกลุ่มเนรคุณ ไม่มีอะไรดีเลย มองเห็นความพินาศชัดเจน
ภูมิใจไทย? มันน่าภูมิใจตรงไหนที่ทำตัวแบบนี้? ทุกวันนี้ ยังภูมิใจในตัวเองกันอยู่หรือเปล่า?
วัน ๆ มีแต่โดนเขาบีบใช้งานที่ตนไม่อยากทำ และต้องทำให้เขา มันเหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้ที่น่าสมเพช เหมือนแกนนำกลุ่มพันธมิตรมาก ๆ เลย ทำงานที่สร้างแต่ศัตรู แล้วสุดท้าย ก็ต้องตายตอนจบ เหมือนเบี้ยบนกระดาน ทหารเลวในสงคราม มันน่าภูมิใจไทยตรงไหน?
การทรยศหักหลังพรรคพวก แล้วไปสมประโยชน์กับศัตรู พอได้ประโยชน์แล้ว ยังไม่ทันได้กิน ศัตรูก็ชักออกจากปาก วิ่งกลับมาหาพรรคพวกเก่า ก็โกรธกัน ไม่ยอมอภัยให้ ก็เลยต้องตัดสินใจยอมสยบต่อศัตรู และบังอาจคิดมาสู้กับพรรคพวกเก่า ซึ่งถ้าคิดดี ๆ แล้วไม่มีทางชนะเลย กำลังมันต่างกัน สติปัญญาก็ต่างกัน บารมีมวลชนก็ต่างกันอย่างกับฟ้าและเหว
แต่คงเป็นทางเลือกสุดท้ายจริง ๆ ของภูมิใจไทย? น่าสมเพชนะที่จบเร็วแบบนี้ แทนที่จะเลี้ยงตัวดี ๆ รู้จักพอเพียง ดันทำให้ตัวเองต้องกลายเป็นอาวุธชั้นเลวไปเสียนี่ อาวุธชั้นเลวจะถูกใช้ก่อนในสงครามย่อย และจะพังไป หรือโดนทิ้งไปก่อน น่าภูมิใจตรงไหน?
( หมายเหตุ : บทความนี้ รวบรวมจากที่ คุณขุนอิน โพสต์ไว้ที่เวบบอร์ดประชาไท ระหว่าง 5-8 สิงหาคม 52 )