WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, August 20, 2009

เปิดปูมฉาวนายพลตร.ห้าร้อยน้องคมช. จากสนองคุณแผ่นดินคดีเพชรซาอุฯถึงย่ำยีแดงเชียงใหม่

ที่มา Thai E-News



โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
20 สิงหาคม 2552


ผลงานน้องสมเจตน์ คมช.-ตำรวจห้าร้อยยกกำลังไปปิดล้อมสถานีวิทยุชุมชนคนรักเชียงใหม่51 เช้านี้ เป็นอีกผลงานที่พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้มีปูมอื้อฉาวพัวพันกรณีอุ้มหายทูต-นักธุรกิจซาอุฯจนได้ดิบได้ดีสนองคุณแผ่นดิน

แฉ สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ผู้นำในการดำเนินการต่างๆ กับกลุ่มคนเสื้อแดงในเชียงใหม่ และ จว.อื่นๆ อย่างแข็งขันตลอดหลายเดือนมานี้ เช่น กรณีที่เกิดขึ้นที่ สภ.ภูพิงค์ ฯลฯ ซึ่งผมประมวลมาจากคำบอกเล่าของคนในผู้อึดอัดหลายๆ นายจนออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้

1. ประวัติของแกคร่าวๆ เกิด 25 มี.ค. 2495 เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 7 คน (พี่ชายคนหนึ่งคือสมเจตน์ คมช.) นตท.12 นรต.28 ป.โท รป.ม. จุฬาฯ วปอ. รุ่นที่ 4616 เคยเป็นผู้การเชียงราย (ขึ้นสมัยชวนอยู่ถึงสมัยทักษิณตอนต้น) และเคยเป็นผู้การทางหลวง

และเมื่อรัฐบาลทักษิณต้องการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุฯ แกจึงโดนเด้งไปเป็นผู้บังคับการกองบังคับการอำนวยการ สำนักงานวิทยาการตำรวจ เพราะแกเป็นเหมือนชนวนเหตุ ในเรื่องความไม่พอใจของทางการซาอุฯ ซึ่งทางโน้นเชื่อว่าแกอาจจะมีส่วนพัวพันกับการที่นักธุรกิจซาอุฯ ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย (ศพรายที่ 4)

เพราะอดีตแกได้รับมอบหมายให้เข้าไปสืบสวนติดตามคนร้ายที่ฆ่า 3 เจ้าหน้าที่ทูตซาอุฯ ซึ่งเข้ามาติดตามเรื่องเพชรซาอุฯ ในยุคนั้น ก่อนที่จะขยับเป็น รอง ผบช. การศึกษา (ช่วงปลายรัฐบาลทักษิณ) และขื้นติดยศ พล.ต.ท. ยุค คมช. ในตำแหน่ง ผบช. ประจำ สนง. ผบ.ตร. และผงาดออกจากกรุในช่วงอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกฯ ควบคุมดินแดนผืนใหญ่ของชาวเสื้อแดง คือ 8 จว.ภ.เหนือ

*ชีวิตสมรสนั้น ในทางเปิดเผย แกสมรสกับ ทันตแพทย์นิศา มีลูก 2 คน คนแรกผู้ชายเป็นตำรวจ คนหลังกำลังเรียนหมอ

แต่ในทางลับ เป็นที่ทราบกันดีว่าแกยังมีเมียและลูกอยู่ที่เชียงใหม่อีก เมียแกคนนี้ทำงาน กกต.ลำพูน แต่ที่แน่ๆ ลูกสาวคนเล็กของแกตอนนี้โตพอสมควรแล้วเรียนชั้นประถมอยู่ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีฯ โดยใช้นามสกุลบุญถนอมอีกด้วย

2. ซึ่งการที่แกได้ขึ้นมาคุมพื้นที่ภาค 5 นั้น เป็นการทดแทนคุณของ ปชป. คงจะไม่ผิดนัก ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ ก่อนการเลือกตั้งปี 50 ช่วงปลายสุรยุทธ์ แกกับพี่ชายของแกได้ทำงานรับใช้ คมช. อย่างแข็งขัน

ผลงานที่เป็นตัวการันตี คือ การให้ทีมงานทหารติดตามบันทึกภาพ ยงยุทธ ติยะไพรัตน์ ในแทบทุกฝีก้าว แล้วยืมมือผู้สมัครที่แพ้เลือกตั้งของชาติไทยเอาหลักฐานยัดใส่มือให้เข้าร้องเรียนต่อ กกต.จว.ชร. ให้แทน ซึ่งในภายหลังเขาได้ถอนการร้องเรียน แต่ กกต.กลาง ไม่สนใจ ต่อมายงยุทธ์ก็โดนใบแดง และเป็นเหตุให้พรรคพลังประชาชนถูกยุบในท้ายที่สุด

นอกจากนี้ แกยังขนกำลังเข้าไปตั้งด่านสกัดกั้นมิให้ประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงที่ จ.เชียงราย อีกหลายครั้งจนถูกร้องเรียน แต่ต่อมา กกต.กลาง ก็ได้ยกคำร้องเรื่องนี้

3. และตลอดระยะเวลาราวๆ 6 เดือนที่แกทำงานอยู่ที่นี่ แกทำอยู่จริงๆ แค่ 2 เรื่อง โดยเรื่องสำคัญที่สุดที่แกสนใจไม่ใช่เรื่องปราบเสื้อแดงอย่างที่หลายคนเข้าใจ หากแต่เป็นเรื่องขายพระ (ดูรายละเอียด http://www.police5.go.th/site/bhuda/detail.php )

แกขอความร่วมมือให้ผู้กำกับโรงพักช่วยรับองค์ราคา 39,999.- ไปคนละองค์ แน่นอนว่าแกสั่งประชุมเรื่องนี้แทบจะวันเว้นวันเลยทีเดียว ท่ามกลางเสียงท้วงติง (อยู่ในใจ) ของผู้ใต้บังคับบัญชา เนื่องจากตอนแรกแกอ้างว่าทำเพื่อหาเงินเข้ากองทุนเรื่องสวัสดิการของตำรวจภาค 5 โดยเฉพาะชั้นผู้น้อยๆ แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นว่าจะเอาเงินไปปรับปรุงภูมิทัศน์ของสถานที่แทน ทั้งๆ ที่ ผบช. คนก่อนเพิ่งปรับปรุงไปแท้ๆ

แน่นอนว่าในความนึกฝันของแกยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก คือ 1. สร้างซุ้มพระขนาดใหญ่อลังการ ออกแบบโดย อ.เฉลิมชัย 2. ทำเสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก 33 เมตร 3. ก่อกำแพงอิฐ (ประมาณประตูท่าแพ) เป็นรั้ว (ซึ่งตอนนี้ทำเกือบเสร็จแล้ว และมีน้อยคนมากที่เห็นว่าเข้ากันสวยดี) ฯลฯ รวมแล้วประมาณว่าน่าจะหมดเงินไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ส่วนใหญ่นำเงินกำไรจากการขายพระมาใช้ แต่มีบางส่วนที่ใช้งบแผ่นดินสบทบเข้าไป

ปัจจุบันเข้าใจว่ามีคนสั่งจองพระเข้ามาจนเกือบเต็มจำนวนทุกแบบทุกขนาดแล้ว ตอนนี้ถ้าหากไปถามตำรวจภาค 5 ว่าอะไรคือผลงานของแก ตำรวจนายนั้นตอบคงตอบได้เลยทันทีโดยไม่ต้องคิดมากว่า แกขายพระเก่ง

*ผมว่าแกเป็นคนหนึ่งที่มีวิธีคิดแบบอำมาตย์จ๋ามาก คือต้องสร้างวัด สร้างพระคู่บุญให้คนได้โจษจันถึง (ฤาเสริมบารมีตัวเอง) ทั้งๆ ที่ผมว่ามันไม่เห็นเกี่ยวกับงานของตำรวจเลย ยาเสพติดก็เพิ่ม คดีฆ่ากันตาย และลักเล็กขโมยน้อยอีกมากมายกลับจับไม่ได้ สงสารคนเมืองครับที่ดันได้คนอย่างนี้มาดูแลนโยบายความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินให้แก่เขา*

ขณะอีกเรื่องที่สำคัญรองลงมาก็คือเรื่องการคอยแซะกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ให้เคลื่อนไหวได้ลำบากๆ เข้าไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งออกแนว hardcore เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ได้มารู้ตอนหลังว่าเรื่องนี้อันที่จริงแล้วแกเป็นคนขี้ขลาด ถึงขนาดแสร้งทำเป็นดีด้วยต่อหน้าเมื่อตอนเชิญแกนนำเชียงใหม่ 51 มาประชุมพูดคุยกัน และสั่งให้เลี้ยงอาหารอย่างดี

แต่ลับหลังก็อย่างที่เห็นๆ กันเหมือนเมื่อเช้านี้(20ส.ค.)อีกทั้งพอมีหนังสือสั่งการเกี่ยวกับเสื้อแดงมา แกจะโบ้ยให้รองคนอื่นๆ ที่รักษาการลงนามแทน แต่ในบางเรื่องแกกลับกัดไม่ปล่อย เช่น ให้รื้อฟื้นการดำเนินการทางวินัยกับ ตร. ชั้นประทวนที่เคยติดตามยงยุทธ์ ซึ่งปัจจุบันได้ลาออกจากราชการไปแล้วชนิดเอาจริงเอาจัง เป็นต้น

4. การประชุมเกี่ยวกับพิธีการพุทธาภิเษกพระครั้งหนึ่ง ในวาระเรื่องการจราจร ซึ่งจะต้องนำเสนอเรื่องบัตรจอดรถของเหล่า VIP ทางนายตำรวจผู้รับผิดชอบได้เลือกใช้สีแดงเป็นสีของ VIP แม้นแกจะไม่ได้ต่อว่าตำรวจนายนั้นออกมาซึ่งๆ หน้า และสีหน้าแกที่แสดงออกมาก็ไม่บ่งบอกชัดว่าแกคิดยังไง แต่คนในที่ประชุมก็พอจะคาดเดาได้ว่าแกคงไม่ชอบใจเท่าไหร่

กระทั่งล่าสุดได้ทราบมาอีกทีว่า สีบัตรจอดรถของ VIP ได้กลายเป็นสีเหลืองไปเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนสมคิดแล้ว และก็ไม่มีสีแดงอยู่ในบัตรจอดรถของแขกกลุ่มใดๆ อีกด้วย