ที่มา บางกอกทูเดย์
ลือกันหนาหูว่าโผโยกย้ายนายทหารประจำปี 2552 อาจมีชื่อของแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจรหลุดจากเก้าอี้ เพราะผลงานตลอดทั้งปียังไม่เข้าตารัฐบาลเท่าที่ควร เกิดเหตุร้ายหลายครั้ง แม้ว่ารัฐบาลจะบอกว่าเดินมาถูกทางแล้วก็ตามทำให้ในช่วงที่ผ่านมา กำลังพลในกองทัพภาคที่ 4ต่างลุ้นกันจนตัวโก่งว่า “นาย” จะโดนเด้งไปนั่งตบยุงในกองทัพหรือไม่แต่สุดท้ายเมื่อพลิกดูโผทหารปีนี้ ไม่ปรากฏชื่อ“แม่ทัพภาคที่ 4”“เป็นเรื่องดีที่ไม่มีการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4จาก พล.ท.พิเชษฐ์ เป็นคนอื่น เพราะจะได้สามารถทำงานอย่างต่อเนื่อง และ พล.ท.พิเชษฐ์ ก็เพิ่งมาทำหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ไม่ถึงปี” แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 4 กล่าวขณะเดียวกันบรรดาแคนดิเดตที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าอาจจะถูกส่งลงใต้เพื่อทำหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 4 แทนพล.ท.พิเชษฐ์ นั้น ตามบัญชีปรับย้ายดังกล่าวได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งอื่นไปหมดแล้วไม่ว่าจะเป็น พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ ขยับขึ้นเป็นรองเสนาธิการทหารบก พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาครรองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นแม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นต้นส่วน ตำแหน่งหลักๆ ในกองทัพภาคที่ 4 และที่ทำหน้าที่คุมกำลังอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่ได้มีการขยับมากนัก คาดว่าเพื่อความต่อเนื่องในการทำงานโดยในระดับผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ มีเพียงพล.ต.ศักดิ์ศิลป์ กลั่นเสนาะ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ซึ่งตำแหน่งที่ต้นสังกัดเป็นเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ขยับเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 เท่านั้นแหล่งข่าวระบุว่า ช่วงนี้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นเป็นลำดับและหน่วยกำลังสามารถคุมพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนงานด้านการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งท่านแม่ทัพดำเนินการมาตลอดนั้น ก็ประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม“ล่าสุดที่เชิญคณะเอกอัครราชทูตจากกลุ่มประเทศสมาชิกโอไอซี (องค์การการประชุมอิสลาม)ลงพื้นที่ และได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ทุกคนล้วนประทับใจและสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาของแม่ทัพภาคที่ 4”แหล่งข่าว กล่าวถือว่า “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงเปลี่ยนม้ากลางลำธาร เพราะพื้นที่ภาคใต้ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะด้านจริงถึงจะแก้ปัญหาได้ทันทีที่ทราบข่าวดี แม่ทัพภาคที่ 4 ก็เดินหน้าทำงานต่อทันที โดยการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในท้องที่อ.บันนังสตา และ อ.ยะหา จ.ยะลาก่อนหน้านี้ กองทัพภาคที่ 4 ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้ผ่อนผันหรือผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ในพื้นที่2 อำเภอเป็นการชั่วคราว เฉพาะช่วงเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิมเท่านั้น“เพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจกระทั่ง ได้มีการหารือกันอย่างละเอียดอีกครั้งจึงตัดสินใจให้ยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิวอย่างถาวรเพื่อมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชนในเดือนรอมฎอนนี้” พล.ท.พิเชษฐ์ กล่าวพ.อ.ปริญญา ฉายดิลก โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมในการจัดวางระบบรักษาความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอนหรือเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าอย่างเต็มที่แล้วโดยเฉพาะในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.บันนังสตากับ อ.ยะหา จ.ยะลา ที่เพิ่งยกเลิกการประกาศเคอร์ฟิวอย่างถาวร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนมองภาพรวมแม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเป็นลำดับแต่ก็ไม่ควรประมาท โดยเฉพาะในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับการเข้าสู่เดือนถือศีลอด ที่ยังมีโอกาสและปัจจัยเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นได้ทุกขณะ“ดังนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจึงต้องตรึงกำลังและมาตรการไว้อย่างเข้มงวด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน” พ.อ.ปริญญา กล่าว ■