ที่มา บางกอกทูเดย์
“คอร์รัปชั่น” กลิ่นไม่สิ้น “แผ่นดินไทย”..ยึดถือปฏิบัติกันทุกรัฐบาล จนกลายเป็นธรรมเนียม..ได้น้อย ได้มาก กูก็เอา ว่างั้นเถอะ!!“ชุมชนพอเพียง” กำลังคลุ้งเหม็นฟุ้ง!! ภาระหนักตกอยู่ที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”นายกรัฐมนตรีแบบเต็มหน้าตัก..กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ก่อนเป็นผู้นำตอกย้ำรัฐบาลต้อง“ใสสะอาด” แต่ “พลพรรค” อดใจไม่ไหว “เงินมาตาโต”ร่ายมาซะยาวเหยียด! มิได้จะบอกว่า “รัฐบาลมาร์คห่วย” เพราะยังหา ตัวเน่า ไม่พบแต่ที่หยิบยกขึ้นมา “นำเรื่อง” เพราะ บางกอกทูเดย์ ต้องการนำเสนอ “ผู้นำขี้โกง” มาให้ผู้อ่าน ร่วมกัน “จับตา” การบริหารงานของรัฐบาล เพราะหากปล่อยให้ “ลอยนวล”บริหารประเทศแบบ “ตามใจฉัน”บรรดาคณะรัฐมนตรีจะสามารถ “โกยเงิน” ไปเป็นของตัวเองมหาศาล อย่างที่ได้เรียบเรียงมาให้ติดตาม...มาวิน!! ซิวที่ 1 “ขี้โกง” ครองโลก คือ ซูฮาร์โต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เขาสร้างความร่ำรวยด้วยการคอร์รัปชั่นถึง 35,000 ล้านดอลลาร์ซูฮาร์โตใช้เวลา 32 ปี บนตำแหน่งประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ด้วยภารกิจ!! ตั้งหน้าตั้งตาสูบเลือดสูบเนื้อโกงกินและสร้างความร่ำรวยให้กับตระกูลของตนเอง ตลอดระยะเวลาทำงานแม้จะถูกต่อต้านเป็นระยะ แต่ก็ไม่มีใครสามารถเล่นงานซูฮาร์โตได้
อันดับ 2 เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เป็นประธานาธิบดีที่โกงกินประชาชนจนสิ้นเนื้อประดาตัวเขาคอร์รัปชั่นแผ่นดินเกิดของตัวเองไปมากมายถึง 10,000 ล้านดอลลาร์หรือ 400,000ล้านบาทไทยท้ายที่สุดประชาชนทนไม่ไหวและลุกฮือกัน จนกลายเป็นพลังประชาชนขนาดใหญ่ที่สามารถทำให้มาร์กอสพ้นจากการเป็นประธานาธิบดี และต้องระเห็จออกจากแผ่นดินเกิดวันที่เดินทางออกจากฟิลิปปินส์ เขาขนทองแท่งใสกระเป๋าเดินทางติดตัวไปมากถึง 24 ใบ
อันดับ 3 โมบูตู ซาซา ซาโก IMF ส่งคนเข้ามาดูแลระบบเศรษฐกิจของคองโก จึงรู้ว่าเขาปล้นชาติไป 5,000 ล้านดอลลาร์ เขาใช้เวลา 20 ปี ตั้งหน้าตั้งตาคอร์รัปชั่น คนคองโกเป็นเดือดเป็นแค้นเมื่อรู้ความจริงว่า ประเทศมีหนี้สินสูงลิ่วถึง 1,600 ล้านดอลลาร์ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจผิดพลาด และเงินมหาศาลนั้นถูกโมบูตูผู้นำที่ปกครองประเทศมากว่า 20 ปี เบียดบังเอาไปใช้ส่วนตัวถึงกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ส่วนหนึ่งจากการที่ใช้กลโกงยักยอกอัญมณีส่งไปขายตลาดยุโรป และการโกงเงินเดือนประชาชน
อันดับ 4 ซานี่ อาบาคา ผู้นำของไนจีเรียในช่วง ค.ศ.1993-1998 จำนวนเงินมหาศาลที่เขาทำการคอร์รัปชั่นโกงกินประเทศตนเองสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์เขาใช้เวลาในการบริหารประเทศในฐานะประธานาธิบดีไนจีเรียเป็นเวลาเกือบ 5 ปีใช้เวลาสั้นๆ กอบโกยปล้นชาติปล้นแผ่นดินได้ว่องไว รวดเร็ว และเป็นปริมาณมากจนน่ากลัวเมื่อเทียบกับผู้นำอันดับต่างๆซานี่นั้นยักยอกเงินจากโครงการมาร์แชลแพลน ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือจากนานาชาติเงินที่เขายักยอกเข้าบัญชีของตัวเองนั้นคาดว่าเป็นจำนวนเงินมากพอๆ กับโครงการมาร์แชลแพลน 6 โครงการรวมกันทีเดียว โดยเป็นเงินกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 5 สโลโบดัน มิโลเชวิช คนทั่วไปรู้จักเขาในนาม “นักฆ่าแห่งบอลข่าน”เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วได้ชื่อว่าเป็น “นักฆ่าจอมคอร์รัปชั่น” แห่งดินแดนยูโกสลาเวียด้วยเนื่องจากปล้นชาติโกงแผ่นดินเป็นจำนวนเงินมากมายถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ40,000 ล้านบาทไทยนอกจากความโหดเหี้ยมของการบัญชาการให้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันจนเละเทะในคาบสมุทรบอลข่านแล้ว เรื่องราวการโกงกิน การคอร์รัปชั่นของสโลโบดันก็แยบยลเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการยักย้ายถ่ายเทเงินทองและงบประมาณต่างๆ จากรัฐเข้ากระเป๋าตนเองสโลโบดันได้ทำการลักลอกขนทองคำและเงินออกนอกประเทศในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมือง บริษัทพวกพ้องน้องพี่ที่รับเละมีบริษัทเอ็มเคเอส ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นซาทิด หลังจากที่ดำเนินการตบตา-ปลอมแปลงเงินตราเพื่อประโยชน์ส่วนตนล้วนๆ ยิ่งในช่วงที่ถูกสหประชาชาติคว่ำบาตรยิ่งเป็นช่วงเวลาของการสร้างเงินให้อย่างมหาศาล
อันดับ 6 คือ ฌอง คล็อด ดูวาลเลียร์ อดีตประธานาธิบดีเพลย์บอยจากเฮติ ได้เป็นประธานาธิบดีเมื่อวัย 19 ปี เขาถอดเขี้ยวเล็บมาจากผู้เป็นบิดาเต็มที่โกยไป 80 ล้านดอลลาร์
อันดับ 7 คือ อัลเบอร์โต ฟูจิโมริ ปลาดิบในเปรูผู้ปล้นแผ่นดิน อดีตประธานาธิบดีเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นหว่านเงินไปทั่วประเทศเพื่อปูทางการเมืองของเขาให้มั่นคง เขากวาดเงินคืนพร้อมกำไรกลับมารวมทั้งสิ้น 24,000 ล้านบาทไทยอันดับที่ 8 แพฟโล ลาซาเรนโก ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของยูเครนเพียงแค่ปีเดียว(ค.ศ.1996-1997) แต่สามารถโกงชาติได้มากมายมหาศาลเป็นจำนวนเงินประมาณ 114-200 ล้านดอลลาร์หรือ 4,560-8,000 ล้านบาทไทย ปริมาณเงินที่คดโกงมากมายในเวลาสั้นๆ ทำให้เขาติด
อันดับ 8 ได้อย่างไม่ยากเย็นเงินที่โกงส่วนใหญ่มาจากการยักยอกเงินจากการดำเนินธุรกิจแก๊สธรรมชาติของรัฐ ส่วนต้นสายปลายเหตุที่ทำให้มีการสอบสวน คือ ข้อสงสัยเรื่องการส่งภาษีรายได้จากการค้าแก๊สของรัฐบาลที่ตัวเลขถูกบิดเบือนจนรับไม่ได้ เท่านั้นไม่พอเขายังเป็นคนที่จ้างวางฆ่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในการเปิดโปงความผิดอีกต่างหาก
อันดับที่ 9 นายอาร์โนลโด อาลีแมน เขาคือชายร่างอ้วนใหญ่ที่นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีของนิการากัวนับตั้งแต่ ค.ศ.1997-2002 ช่วงเวลา 6 ปีที่ครองอำนาจเขายักยอกเงินของรัฐบาลนิการากัวไปเข้าบัญชีตัวเองมากถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 4,000 ล้านบาทไทยเงินที่เขายักยอกก้อนแรกมาจากการโกงเงินช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ที่ส่งเงินมาช่วยทุกๆ ปี ปีละ 35ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 10 นายโจเซฟ เอสตราดา ประธานาธิบดีคนที่ 13 ของฟิลิปปินส์ และถือว่าเป็นประธานาธิบดียอดโกงอีกคนหนึ่งแห่งแดนตากาล็อก ที่ติดโผ 1 ใน 10แม้ว่าเอสตราดาจะติดอันดับสุดท้าย แต่เงินที่โกงก็ไม่น้อยหน้าอยู่ระหว่าง 78-80 ล้านดอลลาร์ หรือราว3,120-3,200 ล้านบาทไทยปัจจุบัน “ผู้นำขี้โกง” เหล่านี้ ตกนรกไปหมดเรียบร้อยแล้ว!! ■