ที่มา บางกอกทูเดย์
ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการพลเรือนและข้าราชการตำรวจ ทหาร ปีนี้แม้ภาพภายนอกจะไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา จะมีออกมาเคลื่อนไหวบ้างก็เป็น “โผตำรวจ” ที่ยัง “ขบเหลี่ยม” ภายใน“รั้วปทุมวัน”จนเกิดมหกรรมแฉแต่เช้าของพลพรรคประชาธิปัตย์ ถึงการซื้อขายตำแหน่งนายพลใน สตช. จนต้องออกมาตรวจสอบที่มาที่ไปของ “ข่าวลือ”
ส่วนโผทหารมานิ่งๆ เรียบๆ แต่เมื่อเห็นโผก็ต้องร้อง โอ้โห!เพราะเหล่า “บูรพาพยัคฆ์” ขยับตัวเข้าไลน์ รองรับ “บูรพาพยัคฆ์” ผู้พี่อย่าง “บิ๊กป๊อก” ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2553แถมงานนี้ยังต้องรองรับเก้าอี้ทางการเมืองด้วยเช่นกันเพราะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คงไม่หยุดแค่ตำแหน่ง “เสนาบดี” แน่การจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารครั้งนี้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพราะ พล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้และให้อำนาจ ผบ.เหล่าทัพ จัดทำโดยให้ยึดหลักการ ขั้นตอนและความเหมาะสม โดยให้พิจารณาด้วยความเป็นธรรมรายชื่อโยกย้ายนายทหารครั้งนี้ ทาง ผบ.เหล่าทัพ ได้จัดทำเสร็จก่อนกำหนด เพราะว่าทุกเหล่าทัพไม่มีผบ.เหล่าทัพ เกษียณจึงพิจารณาได้ง่ายและรวดเร็วส่วนที่ พล.อ.ประวิตร ให้ความสนใจมากที่สุด เป็นรายชื่อในส่วนกองทัพบกที่ได้ดูเป็นพิเศษ เพราะ พล.อ.ประวิตร ต้องการให้การพิจารณาโผโยกย้ายทหารครั้งนี้ ออกมาเร็วกว่ากำหนดเนื่องจากเกรงจะมีการวิ่งเต้นขอตำแหน่งและอาจเกิดข่าว เช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายการจัดทำโผโยกย้ายต่อ ผบ.เหล่าทัพ ในที่ประชุมสภากลาโหมเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยให้ทุกเหล่าทัพจัดทำโผโยกย้ายด้วยความโปร่งใส โดยเฉพาะคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งต้องมีความถูกต้องและเป็นธรรม รวมทั้งมีความเหมาะสมทั้งความรู้ ความสามารถ และความอาวุโสโดยเฉพาะการปรับย้ายในส่วนของกองทัพบกที่มีตำแหน่งหลักว่างจำนวนมาก ประกอบกับ พล.อ.ประวิตร ให้ความมั่นใจการจัดทำโผโยกย้ายในยุคนี้ ภายใต้การกำกับดูแลของตนเองและ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เข้ามาล้วงลูกภายในกองทัพ
รายชื่อปรับย้ายนายทหารส่วนใหญ่ที่ได้รับการพิจารณาจะเป็นนายทหารที่ใกล้ชิด 3 ป. พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์และ พล.อ.ประยุทธ์ โดยในส่วน พล.อ.ประวิตร ได้ผลักดันคนในสำนักงานเข้าสู่ตำแหน่งอย่างไรก็ตาม ยังมีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนจากกระทรวงคลองหลอด ที่ทำให้เห็นบางอย่างจากการแต่งตั้ง“ปลัดกระทรวงมหาดไทย” ซึ่งมีออเดอร์จากตระกูล“ชิดชอบ” เลือกใช้บริการ “มานิต วัฒนเสน” เจ้ากรมท้องถิ่นที่ใกล้ชิดกับเสี่ยเนวินเพราะการแต่งตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มถอยหลังเข้าคลอง จากโครงการทุจริตในหลายโครงการ บวกกับแรงต้านจาก “เสื้อแดง”ทำให้อาการของรัฐนาวามาร์ค 1 เริ่มสั่นคลอน อาจไปไม่ถึงฝั่งอย่างที่ตั้งใจไว้โผแต่งตั้งโยกย้ายในปีนี้จึงเป็นจุดวัดขุมกำลังเบื้องต้นว่าศึกเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคที่จะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นพรรคการเมือง “สี” ใดแน่นอนว่าชั่วโมงนี้ “สีน้ำเงิน” กำลังมาแรง และถูกจับตาจากพรรคการเมืองทั้งเก่าและพรรคการเมืองใหม่ว่า “สีน้ำเงิน”กำลังจะยึดฐานเสียงเดิมของพรรคตนเองไปหรือไม่ยิ่งเห็นภาพการแต่งตั้ง“ปลัดกระทรวงมหาดไทย”ที่เป็นคนใกล้ชิดคนสีน้ำเงินย่อมแสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองสีน้ำเงินกำลังจะเดินเกมทางการเมืองที่เคยใช้ได้ผลเมื่ออดีต ที่รัฐบาลทักษิณเคยใช้มาแล้วโดยการยึดฐานอำนาจในระดับจังหวัดผ่านกระทรวงมหาดไทย ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งในยุครัฐบาลทักษิณมี “ผู้ว่าฯ ซีอีโอ” ที่กุมถุงเงินของพรรคการเมืองไว้ก่อนจะปล่อยให้เกิดประชานิยมในช่วงก่อนการเลือกตั้งศึกเลือกตั้งครั้งนี้จึงน่าจับตามองอย่างยิ่งว่า การจัดทัพก่อนศึกเลือกตั้งที่มีเวลาเตรียมการนานเช่นนี้ จะส่งผลให้พรรคการเมืองน้องใหม่อย่าง“ภูมิใจไทย” สร้างประวัติศาสตร์เหมือน“ไทยรักไทย” ในอดีตหรือไม่ ■