ที่มา Thai E-News
สื่อเอี้ยแค้นแน่นอก-กนก รัตน์วงศ์สถุล กับคู่หูเนชั่วธีระ ธัญวงศ์ไพบูลย์ สับแหลกที่พระดร.มหาโชว์นำคณะสงฆ์เดินนำหน้าเสื้อแดงยื่นฎีกาวานนี้ เสียดสีว่ามีพระนำเหมือนแห่ศพ และชี้นำให้คนเลิกทำบุญใส่บาตรพระ ทั้งที่มหาเถรฯชี้ชัดไม่ผิดธรรมวินัยก็ตาม ส่วนเปลว ไถเงิน ด่าพระชนิดไม่กลัวนรกกินหัวคุ้มค่าราคาโฆษณาที่มาร์คจ่ายให้ทุกสลึง
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา -The Washington Post และ ไทยโพสต์
แปลและเรียบเรียงโดย - chapter 11 เวบLiberal Thai
18 สิงหาคม 2552
ข่าวเสื้อแดงถวายฎีกาเป็นบทพิสูจน์ระหว่างสื่อมืออาชีพ กับคนมีอาชีพสื่ออีกวาระ ขณะที่สื่อต่างประเทศอย่างวอชิงตันโพสต์นำเสนออย่างรอบด้านครอบคลุม ทั้งเจาะลึกว่างานนี้ไม่ใช่แค่การออกมาช่วยทักษิณ แต่บ่งว่าฝ่ายประชาธิปไตยต้องการแสดงพลังถึงความไม่พอใจต่อการเมืองในประเทศที่ไม่เป็นธรรมด้วย แต่สื่อเลียตีนเผด็จการอย่างคู่หูนรกเนชั่นกนก-ธีระถือโอกาสสับเละพระนำหน้าเดินขบวนถวายฎีกา ทั้งที่มหาเถรสมาคมชี้ชัดไม่ผิดธรรมวินัย ยังยั่วยุให้คนเลิกทำบุญด้วย
กรุงเทพฯ - วอชิงตัน โพสต์รายงานข่าวว่า ผู้สนับสนุนทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อื้อฉาว และกำลังอยู่ระหว่างการลี้ภัยในขณะนี้ ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้นำของเขาเมื่อวันจันทร์
การยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ซึ่งฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดรวบรวมขี้น และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ที่เกรงกันว่า จะเกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และฝ่ายสนับสนุนทักษิณจำนวน ๓๐,๐๐๐ คนที่ชุมนุมกันกลางกรุงเทพ แนวร่วม นปช. กล่าวว่ามีรายชื่อที่ร่วมยื่นถวายฎีกาถึง ๖ ล้านชื่อ
การยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีนโยบายประชานิยมซึ่งถูกกองทัพทำรัฐประหารปล้นอำนาจในปี พ.ศ.๒๕๔๙ ด้วยข้ออ้างว่าฉ้อราษฎร์ หลังจากนั้่น ทักษิณได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาไม่ไปปรากฎตัวต่อศาลจากคดีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการซื้อที่ดินของอดีตภรรยา ทักษิณได้หลบออกนอกประเทศก่อนการพิจารณาคดี ผลที่ตามมา เขาถูกศาลตัดสินจำคุกสองปี ขณะนี้เขากำลังอยู่ในระหว่างการลี้ภัย ถูกยึดพาสปอร์ตไทย และทรัพย์สินที่เขาสร้างตัวมาจากธุรกิจโทรคมนาคม ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทำการอายัดทรัพย์
นายฌอน บุญประคอง โฆษกของ นปช. กล่าวว่า "เรารู้สึกได้ถึงการนำกฎหมายมาใช้โดยวิธีเลือกปฎิบัติ ขั้นตอนทางกฎหมายได้พังไปหมดแล้ว"
ทักษิณยังคงมีอิทธิพลต่อการแบ่งขั้วของการเมืองไทยและทางสังคม การต่อสู้ระหว่างฝ่ายสนับสนุนเขาซึ่งเป็นชาวชนบททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและส่วนใหญ่แล้วยังยากจน ซึ่งได้รับประโยชน์อย่างมากมายจากนโยบายประชานิยม กับฝ่ายศักดินาที่มีฐานในกรุงเทพฯ
การประกาศของฝ่ายสนันสนุนทักษิณที่ใช้เสื้อแดงเป็นสัญญลักษณ์แสดงความนิยมในตัวเขา ที่จะทำการรวมรวมรายชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ กระตุ้นให้เกิดปฎิกิริยาตอบโต้อย่างรุนแรงจากรัฐบาลและข้าราชการต่างๆ
พวกเขาออกแถลงการณ์ว่า การลงรายชื่อเพื่อยื่นถวายฎีกานี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และสนับสนุนให้ข้าราชการลงชื่อคัดค้านการยื่นถวายฎีกา พวกเขายังกล่าวหาอีกว่า ผู้ร่วมลงชื่อนั้นถูกหลอก และได้ตั้งโต๊ะตามศาลากลางจังหวัดต่างๆให้ชาวบ้านมาถอนรายชื่อ
คริสต์ เบเกอร์ นักวิเคราะห์การเมือง ซึ่งได้แต่งหนังสือเกี่ยวกับการเมืองไทยไว้หลายเล่มกล่าวว่า "
ผมไม่คิดว่า ปฎิกิริยาเช่นนี้ เพียงเพื่อตัวทักษิณและโอกาสที่จะให้ทักษิณกลับมา ผมคิดว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแสดงพลังของจำนวนคนเสื้อแดงมากกว่า"
การเคลื่อนไหวของผู้สนับสนุนทักษิณจำนวนมหาศาลนี้ แสดงให้เห็นว่าการแตกแยกซึ่งนำไปสู่ความรุนแรงเมื่อต้นปีนี้ ยังคงอยู่ ยังไม่ไปไหน และได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความพยายามของรัฐบาลที่จะทำการสมานฉันท์นั้นยังไม่เพียงพอ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ซึ่งเข้ามามีอำนาจเมื่อปลายเดือนธันวาคมที่แล้ว ได้กล่าวว่า เขาจะสร้างความปรองดองให้เกิดขี้นในประเทศ แต่ประเทศยังคงจมปลักอยู่กับการเมืองที่ไม่มีทางออก
คริสต์ เบเกอร์กล่าวว่า “"เรื่องที่น่ารำคาญจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มาจากการที่รัฐบาลยกเลิกความหวังที่จะให้เกิดความสมานฉันท์ จากความคิดที่ว่า พวกเขาสามารถสร้างระบบการเมืองขี้นมาใหม่ เพื่อให้เหมาะกับพวกเขามากขี้น"
คู่หูนรกเนชั่วเอาอีกแล้วรังควานพระที่ถวายฎีกา
ขณะที่สื่อมวลชนต่างประเทศได้รายงานข่าวอย่างรอบด้านลุ่มลึก สื่อที่เต็มไปด้วยอคติของไทยอย่างนักเล่าข่าวเครือเนชั่นก็ออกมาสับแหลกผู้ยื่นฎีกาตามเคย โดยคู่หูนรกเนชั่น กนก รัตน์วงศ์สกุล กับธีระ ธัญไพบูลย์ ใส่อารมณ์อย่างดุเดือดถึงกลุ่มพระสงฆ์ที่ร่วมลงชื่อในการถวายฎีกาจำนวน 3,429 รูป โดยมุ่งเป้าไปที่พระมหาโชว์
นายธีระกล่าวว่า พระส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมถวายฎีกาเดินทางมาจากนครราชสีมา เข้าพักที่วัดสวนแก้วของพระพยอม กัลยาโณ ที่สนับสนุนทักษิณและพวกเสื้อแดง จากนั้นมีพระดร.มหาโชว์ ทัสนีโย ผู้อำนวยการส่วนธรรมนิเทศ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ชั้นนำของประเทศ นำหน้าขบวนฎีกา ซึ่งนายกนกเสียดสีว่า"ไม่ค่อยดีน๊า มีพระนำนี่ เหมือนงานศพยังไงก็ไม่รู้" จากนั้นก็สับแหลกว่ามหาเถรสมาคมก็ทำอะไรไม่ได้ บอกว่าไม่ได้ผิดวินัย แต่ตนเห็นว่าไม่สมควร เพราะจะเกิดการต่อต้านพระดร.มหาโชว์ แล้วจะพลอยต่อต้านมหาจุฬาฯไปด้วย เดี๋ยวจะเดือดร้อนแบบเดียวกับพระพยอมที่คนไปทำบุญลดลง
เปลว ไถเงิน ไทยโพสต์ได้ยาดีด่าพระยับ
ขณะที่ไทยโพสต์ สื่อที่เต็มไปด้วยอคติ และช่วงนี้มีโฆษณาจาก"สำนักนายกรัฐมนตรี"ขึ้นปกหน้า1ตรงติดกับหัวหนังสือพิมพ์ ได้ตีพิมพ์บทความของเปลว สีเงิน บริภาษพระสงฆ์ยับเยินดังต่อไปนี้
จะมีที่ขัดหู-ขัดตาอยู่บ้างก็ตรง "หัวโล้น-ห่มเหลือง" ในคราบสงฆ์ กลุ่มหนึ่ง นอกรีต-นอกรอย ร่อนจีวรมาเอากะเขาด้วย หวังช่วยโจรทักษิณ!
เช้าออกบิณฑบาต เที่ยงมาชุมนุม บ่ายเดินขบวนยื่นฎีกา เย็นค่ำจัดวิทยุด่ารัฐบาล งานจ็อบ-รับจัดพิธีเดรัจฉานวิชา ต่อชะตา ตัดกรรมไปตามเรื่องตามราว พระคุณเจ้ายุคนี้ ดำเนินวิถีเป็นอย่างนี้ไปแล้วหรือ?
ความเป็นสงฆ์สาวก สุปฏิปันโน พระผู้ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบ หายไปทางไหนหมด จะเหลือให้เห็นก็เป็นดั่งสมณสารูปเยี่ยงนี้หรือ?
ถ้าฝ่ายฆราวาสก็ถือว่า "ธุระไม่ใช่" ฝ่ายสงฆ์ก็อุเบกขาเฉโก "ทำเป็นไม่สนใจ" ก็จงระวังเถอะครับ พุทธศาสนาที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง จะเดินสู่เส้นทางเดียวกับพุทธศาสนาในอินเดีย เมื่อปี พ.ศ.๑๗๐๐
ถูกเผาเรียบทั้งวัด ทั้งพระสงฆ์ ทั้งพระธรรมคัมภีร์ และทั้งพุทธศาสนา "สูญพันธุ์" ไปจากอินเดียนับจากวันนั้น จนถึงทุกวันนี้!
ถ้าใครบอกว่า ตำหนิพวกหัวโล้น-ห่มเหลือง ระวัง...จะตกนรก ผมก็อยากจะบอกว่า ถ้าต้องตกนรกจริงๆ จากการท้วงติงพวกจกเปรต ผมยินดีตก ดีกว่าจะปล่อยให้บ้านเมือง-พระพุทธศาสนา "รก-ไปด้วยกาฝากเหลือง"