WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, December 5, 2009

10 ธันวาคมไม่ใช่วันรัฐประหาร

ที่มา โลกวันนี้

คอลัมน์
ยิ่งเกายิ่งคัน
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2687 ประจำวัน ศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม 2009
โดย ด๊อกเตอร์ทอง

การเปิดโอกาสให้ “คนเสื้อแดง” จัดการชุมนุมได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา อาจมองได้ว่ารัฐบาลนั้นใจกว้าง และคงมั่นใจอย่างหนักแน่นว่าคนเสื้อแดงไม่น่าจะมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำอะไรให้รัฐบาลต้องหัวหมุน อย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันสงกรานต์ต้นปี

ถึงกระนั้นบนความแน่นอนคือ “ความไม่แน่นอน” ฉันใด สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการนั้นย่อมไม่ใช่เป็นไปด้วยความประมาท เพราะสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้หวงแหนและห่วงใยไม่น้อยไปกว่าการผลักดันโครงการยักษ์ใหญ่ ใช้เงินนับหมื่นนับแสนล้านก็คือ การได้อยู่ในอำนาจรัฐให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทำให้เชื่อได้ว่า “รัฐบาลมิได้นิ่งเฉยดูดาย หรือชะล่าใจต่อความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง” เพราะแผนของฝ่ายความมั่นคงทั้งทางลับและที่ล่วงรู้กันอย่างแผนยอดนิยม “กรกฎ 52” ที่อาศัยการสนธิกำลังของทหารตำรวจเพื่อเข้ามารับมือการควบคุมฝูงชนก็ยังมิได้ยกเลิกไป และยังอาจนำแผนอื่นๆที่เคยประกาศใช้หรือมีอยู่ในความดูแลมาใช้ได้ทุกเมื่อ

สาเหตุที่เชื่อเช่นนี้ก็เพราะได้ทราบจากแหล่งข่าวที่คลุกคลีกับคนในฝ่ายความมั่นคงยืนยันตรงกันว่า “มือที่สาม” ที่ประสงค์จะดำเนินการในทางมิดีมิร้ายต่อ “ระบอบประชาธิปไตย” ยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้ สังเกตได้ทั้งกระแสข่าวความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลและคนในพรรคการเมืองใหญ่เองที่ออกมาต่อว่าต่อขาน เรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีกันอย่างสอดประสานกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นการยืนยันว่า เมื่อใดที่ผลประโยชน์ทางการเมืองขัดกัน เมื่อนั้นไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้แก่ใคร ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องด้วยกล หรือด้วยมนต์คาถา สุดแต่จะสรรหาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการ นี่คือสัจธรรมทางการเมืองทุกยุคที่เป็นอยู่ และคงเป็นเช่นนี้ต่อไป

อย่างไรก็ดี สำหรับภาคประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล ผมมีความเชื่ออยู่ลึกๆว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่มีความคิดสติปัญญามากพอคงไม่มีใครเห็นพ้องหรือคล้อยตามที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนอกรูปแบบเช่นนี้ แม้อาจจะเห็นผลได้ชัดเจน รวดเร็ว เป็นรูปธรรมมากที่สุด แต่มันคือยาแรงที่ได้ผลในเวลาประเดี๋ยวประด๋าว เพราะผลระยะยาวคงจำกันได้ดีว่า ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 สร้างบทเรียนทางประวัติศาสตร์หลายอย่างให้คนไทยได้เรียนรู้และน่าจดจำไว้เป็นบทเรียนหลายประการ ซึ่งไม่ควรลืมเลือนไป

ทำให้วันที่ 10 ธันวาคมที่จะมีการชุมนุมของคนเสื้อแดงก็ถือเป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถรวมตัวแสดงความคิดเห็นกันได้ ขอเพียง “อย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด” ที่จะชักนำจูงใจให้เห็นผิดเป็นชอบ ก่อการจลาจลสร้างความวุ่นวายให้เป็นเงื่อนไขของฝ่ายที่กระหายอำนาจ ต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยมิชอบ