ที่มา โลกวันนี้
คอลัมน์ |
คิดเหนือข่าว |
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ |
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2686 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 3 ธันวาคม 2009 |
โดย เรืองยศ จันทรคีรี |
รัฐบาลนั้นมีสิทธิ อำนาจ ที่เป็นไปตามกฎหมายเพื่อบริหารบ้านเมืองในภารกิจต่างๆ แต่เป็นเรื่องต้องชอบธรรมนะครับ เกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้แม้เป็นรัฐบาลเองยังต้องรอบคอบรัดกุม แล้วเน้นถูกต้อง ไม่ใช่เป็นการกระทำอะไรไปตามใจชอบ หรือถือกฎหมายเอาไว้ในมือเพื่อข่มเหงคุกคามประชาชน กลายเป็นใช้กฎหมายเพื่อเลือกปฏิบัติ ซึ่งข้อนี้ก็เป็นความจริงที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมาโดยตลอด ...ต่อความรู้สึกส่วนตัว ผมเองก็ไม่ได้หูหนวกตาบอดอะไร? เห็นอยู่โทนโท่มาตั้ง 4 ปีกว่าเข้าไปแล้ว เห็นว่าประเทศของเราอยู่ในระบอบอะไร? มาตรฐานความเป็นธรรมเป็นอย่างไรบ้าง? แล้วรัฐบาลนี้มีพฤติกรรมของวิถีอำนาจเป็นไปในแนวทางไหน?
กระนั้นเถอะผมยังพอทำใจยอมรับได้ แม้รัฐบาลจะเลือกปฏิบัติด้วยความไม่เสมอภาค เอาผิดเฉพาะบางคนบางฝ่าย แต่ถ้าการเลือกที่จะปฏิบัตินั้นยังอิงหลักฐาน กฎหมาย เป็นไปตามกระบวนการหรือช่องทาง อ้างอิงได้ มีที่มาที่ไป พูดง่ายๆคือ ลูกตำรวจขับรถฝ่าไฟแดงแล้วไม่จับแต่ลูกชาวบ้านจับ นี่ก็เป็นการเลือกปฏิบัติที่ผมยังฝืนยืนทำใจพอจำรับสภาพในแง่หนึ่ง หมายถึงว่าลูกชาวบ้านได้ขับรถฝ่าไฟแดงไปจริงๆ เราผิดเราไม่ว่าถ้าคุณจะจับกุม ส่วนลูกตำรวจนั้นก็คงต้องแสร้งชายตามองข้ามไปเสีย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้?
การอาศัยอยู่ในสังคมไทยต้องทำใจให้ได้กันระดับนี้ครับ ...เป็นอะไรสุดๆที่ไม่เหมือนในโลก ...เลือกปฏิบัติยังกัดฟันรับสภาพ สองมาตรฐานก็กล้ำกลืนฝืนทนน้ำตาตกใน แต่ไอ้ไร้มาตรฐานนี่สิสุดจะทนทานรับไหว? มันหมายถึงอะไรหรือ? ไร้มาตรฐานคงต้องแปลว่าไม่มีกรอบใดๆใช้อ้างอิงเอาไว้เลย ไม่มีแม้การตีความบิดเบือน อาจหักดิบเอาดื้อๆ และหน้าด้านๆ ไม่ผิดก็ตู่ว่าผิดได้ ไม่มีกฎหมายยังโมเมมั่วด้นไปแบบน้ำขุ่นๆ
สองมาตรฐานเป็น “ตอแหล” แต่ไร้มาตรฐานนอกจากต้องตอแหลแล้ว ยังจำเป็นในการอาศัยความกล้า บ้า และหน้าด้าน บ่อยครั้งต้องรวมบื้อกับตื้นเข้าไปอีกต่างหาก เรายกกรณีของความพยายามจากฝ่ายตำรวจในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนำโดย พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เราไม่ต้องอ่านรอยสักนี้บนหน้าผากของท่านก็พอรู้ว่าเป็นพวกไหนและคิดอย่างไร? มีการพยายามดิ้นรนให้ศาลออกหมายจับตั้งหลายครั้งเพื่อจับกุมตัวแกนนำเสื้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่ข้อหาขู่ฆ่าอภิสิทธิ์ออกอากาศทางวิทยุชุมชน ...ผมว่าดีนะครับที่ศาลท่านไม่บ้าจี้ตามไปด้วย แล้วอีกประการนั้นหลักฐานของฝ่ายตำรวจไม่พอ น่าจะเป็นเพียงสำเนาเทปออกอากาศทางวิทยุ ซึ่งความจริงเป็นแค่คำพูดที่ฟังแล้วคลุมเครือ ตีความออกไปได้หลายมุม ...สำหรับผมไม่มีโอกาสฟังเทปที่ว่ากันว่าขู่ฆ่านายกรัฐมนตรี เพียงได้อ่านผ่านการถ่ายทอดเฉพาะบางท่อนบางประโยคจากหนังสือพิมพ์ สรุปในความเข้าใจส่วนตัว มันไม่ใช่ลักษณะขู่ฆ่า ออกจะเป็นการบอกกล่าวเตือนให้ระมัดระวังตัวด้วยซ้ำไป?
อีกอย่างนั้นผมไม่เคยเห็นใครขู่ฆ่าคนออกรายการวิทยุเลยครับ ดูท่าทางรายการนี้จะเป็นครั้งแรกสำหรับการขู่ฆ่าคนออกวิทยุ มันจะบ้องตื้นเกินไปหรือเปล่าที่มีการขู่ฆ่านายกรัฐมนตรีออกวิทยุชุมชน ผมว่าไม่รู้ใครบ้ากันแน่? หากเข้าใจไปว่ามีการสื่อสารหรือยุยงส่งเสริมให้เกิดการทำร้ายนายกรัฐมนตรี ฟังแบบนี้แล้วออกจะฟังได้บ้างครับ?
ผมว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยสมเหตุสมผล หรือฝ่ายตำรวจออกจะร้อนรนเสียจนเกินงามเลยเกิดอาการมั่ว แต่ศาลไม่ยอมมั่วตามตำรวจไปด้วย ทำให้หมายจับออกไม่ได้ ลงเอยอย่างนี้ต้องตีความไปอย่างไรหรือ? บอกว่าเป็นการกล่าวหาจะได้ไหม? ตำรวจขวัญอ่อนไปนิด? นายกรัฐมนตรีกับคนข้างๆกายเป็นจำพวกกระต่ายตื่นตูม รับทอดสร้างข่าวสัมภาษณ์ขานรับกันเป็นระยะๆ ชี้ให้เห็นถึงชีวิตของนายกรัฐมนตรีกำลังอยู่ในห้วงอันตราย ข้อนี้ผมไม่รู้เป็นอันตรายจริงหรือปลอม?
เรื่องที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ไม่ยอมออกหมายจับแกนนำคนเสื้อแดงในข้อหาขู่ฆ่าหรืออะไรทำนองนั้น ผมไม่ได้เย้ยหยันหรือเสียดสีหรอกนะครับ เป็นหน้าที่ของท่านที่ต้องหาหลักฐานกันต่อไปให้สมเหตุสมผล ให้มีมาตรฐาน อย่าตาลีตาเหลือกเอาใจนายมากเกินไป คล้ายกับคดีอ้างพวกฮาร์ดคอร์คนเสื้อแดง ตำรวจกับสื่อกระแสหลักดูขับขานส่งเสริมกันดี แรกๆช่างน่าตื่นเต้นใจหายวาบ... แถลงข่าวพร้อมตีข่าวใหญ่โตจับระเบิดปิงปองนับเป็นพันๆลูก ลงท้ายกลายเป็นประทัดไล่นก หาซื้อได้ 300 ลูกราคา 500 บาท หากจะจับอย่างนี้แถวภูเขาทองมีร้านเยอะแยะครับ ...ทั้งหมดสองรายการถือเป็นกรณีตัวอย่างของการทำงานแบบไร้มาตรฐาน มั่วโมเม อาจบอกให้เป็นทั้งบื้อและตื๊อ ประจบไม่ดูตาม้าตาเรือ ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครคิดฆ่าคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยประทัดไล่นกนะครับ ไม่เชื่อจริงๆ!?