WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 1, 2009

ถึงเวลาปลดระเบิดการเมือง!

ที่มา โลกวันนี้

ต้องขอไว้อาลัยกับ “สมัคร สุนทรเวช” อดีตนายกรัฐมนตรี และนักการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน แม้ถูกมองว่าเป็น “ขวาอมตะ” หรือ “ขวาตกขอบ” แต่สิ่งที่ “สมัคร สุนทรเวช” มี นักการเมืองส่วนใหญ่ไม่มีคือ ความเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งคำพูดและการกระทำ

จึงไม่แปลกที่ “สมัคร สุนทรเวช” จะเป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมากับสื่อ แต่สื่ออีกจำนวนไม่น้อยก็พอใจกับการทำข่าว “สมัคร สุนทรเวช” ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม

ไม่เหมือนนักการเมืองส่วนใหญ่หรือพวกราชรถมาเกย เพราะแต่งตัวรอตามกลไกของอำนาจเผด็จการ และเผด็จการซ่อนรูปในลักษณะต่างๆ

ทั้งที่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาถึง 77 ปี ประชาชนจำนวนมากที่ต้องตายและบาดเจ็บเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยของประชาชน แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากอำนาจเผด็จการซ่อนรูป แม้แต่ขณะนี้ก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่าประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่เป็นของประชาชนและเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

รัฐบาลชุดนี้จะเดินสายไปชี้แจงกับนานาชาติอย่างไรก็ไม่สามารถลบภาพอำนาจใต้การค้ำจุนของกองทัพและกลุ่มอำนาจบางกลุ่มที่มีอภิสิทธิ์

ดังนั้น การทำให้ภาพลักษณ์ประชาธิปไตยของบ้านเมืองกลับมาจึงมีอยู่ทางเดียวคือ การคืนอำนาจให้กับประชาชน

เช่นเดียวกับการจะทำให้ประชาชนหันหน้าเข้าหากัน ก็ต้องเริ่มจากประชาชน ไม่ใช่นักการเมืองหรือกลุ่มอำนาจใดอำนาจหนึ่ง

ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรนั้น ทุกพรรคการเมืองต้องประกาศกับประชาชนอย่างชัดเจน หากพรรคใดได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล และมีเสียงข้างมากในสภาก็ต้องทำตามที่ให้สัญญากับประชาชน

ไม่ต้องเอารัฐธรรมนูญมาสร้างเงื่อนไขทางการเมืองอย่างทุกวันนี้

เช่นเดียวกับรัฐบาลที่รู้ดีว่ามีเสถียรภาพและประสิทธิภาพพอจะบริหารบ้านเมืองได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ การดันทุรังที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายบ้านเมืองและประชาชนนั่นเอง

วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างเอือมระอากับความแตกแยก แบ่งสี เลือกข้าง รวมทั้งพฤติกรรมของนักการเมืองที่ต่างเอาบ้านเมืองเป็นสนามรบ แม้ไม่ถึงขั้นเป็นกลียุคจนเป็นสงครามนองเลือด แต่ความบอบช้ำที่ยาวนานก็ประเมินความหายนะที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย

เมื่อวันนี้อำนาจอยู่กับฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ใต้ร่มเงาหรือการค้ำจุนของอำนาจใดก็ตาม ฝ่ายการเมืองก็ต้องเป็นผู้แก้ปัญหา คือทุกพรรคร่วมรัฐบาลต้องกล้าที่จะเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่ติดอยู่กับอำนาจและผลประโยชน์

พรรคประชาธิปัตย์จะอ้างเหตุผลอย่างไรก็ตาม หากพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันต้องแก้รัฐธรรมนูญหรือคืนอำนาจให้กับประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่ไม่ได้

ไม่ใช่เอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นเครื่องมือการต่อรองอำนาจและผลประโยชน์กันอย่างขณะนี้ จะยิ่งทำให้ประชาชนหมดศรัทธานักการเมือง

ประชาธิปไตยก็จะอัปลักษณ์และอยู่ภายใต้อำนาจของกลุ่มอำนาจไม่กี่กลุ่มเหมือนเดิม ไม่ใช่อำนาจของประชาชน

วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลผ่าทางตันวิกฤตการเมืองขณะนี้ได้ ถ้าต้องการให้หลุดพ้นจากอำนาจซ่อนเร้นต่างๆ ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์หรือนายกรัฐมนตรีคนเดียว

ไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือยุบสภาก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด เพราะวันนี้ประชาชนมีความรู้และตื่นตัวทางการเมืองอย่างมาก ไม่ใช่แค่เรื่องสิทธิเสรีภาพต่างๆเท่านั้น แต่ยังต้องการให้บ้านเมืองมีความเป็นธรรมและความยุติธรรมอย่างแท้จริงด้วย

ไม่ใช่ประชาธิปไตยจอมปลอมหรือประชาธิปไตยซ่อนรูปภายใต้กองทัพ หรือกลุ่มอำนาจใดอำนาจหนึ่งอย่างขณะนี้

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 11 ฉบับที่ 2683 ประจำวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 คอลัมน์ ถนนคนเดิน โดย สุรชัย ปากช่อง