ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
เป็นเรื่องดี ที่รู้จักถอยเสียบ้าง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็ไม่ต้องใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ตามไปขยายผลประกาศพื้นที่ความมั่นคงถึงเมืองเชียงใหม่
เพียงเพื่อจะตอบสนองความอยากเอาชนะคะคานกัน
ที่ผ่านมาก็จะเห็นได้ว่าการลงพื้นที่ที่เป็นปัญหาของนายกฯ แต่ละครั้ง ใช้งบประมาณขนาดไหน ระดมกำลังทหารตำรวจมากมายเพียงใด
รัฐบาลบริหารประเทศมาเกือบครบปี แม้จะได้รับความร่วมมือร่วมใจอย่างดีจากกองทัพ ข้าราชการ และชนชั้นกลาง
แต่ในต่างจังหวัดยังมีแรงต้าน แรงคัดค้านอย่างรุนแรงอยู่ ก็ยิ่งแสดงว่ารัฐบาลมีปัญหาเรื่องการยอมรับจากประชาชนอีกส่วน
ก่อนหน้านี้ มีการปล่อยข่าวจากคนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะมีการลอบสังหาร ประทุษร้ายนายกรัฐมนตรี
จนนายอภิสิทธิ์ต้องสวมใส่เสื้อเกราะอ่อน ออกงานตามคำแนะนำของฝ่ายความมั่นคง
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค ออกมายอมรับว่าเสื้อเกราะใครๆ ก็ใส่กันได้
แต่นายอภิสิทธิ์กลับเห็นว่าข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องตลก ยืนยันว่าไม่ได้สวมใส่เสื้อเกราะ แค่ใส่เสื้อยืดตัวเดียว
พร้อมกับบอกว่าถ้ามาถามตั้งแต่วันนั้นจะถอดเสื้อให้ดู
วันก่อน นายกฯ ไปเป็นประธานเปิดสมาคมวิชาการนิเทศศาสตร์และการสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย พร้อมแสดงปาฐกถา ตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนแบบเบาะๆ ว่า
สื่อมีหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสาร โดยเน้นความถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ แต่จากการสัมผัสกับสื่อมา 20 ปี นึกไม่ออกว่าในช่วงที่มีการแข่งขันกัน กดดันอย่างรุนแรง ผู้สื่อข่าวจะมีเวลาที่ไหนไปเพิ่มพูนความรู้
เทคนิคการสื่อสารมีผลกับการรับรู้และสร้างทัศนคติกับผู้รับสื่อ การใช้ภาษาที่มีบทบาทในการชี้นำ เช่น บางฉบับพาดหัวว่านายกฯ ผวาไม่ไปเชียงใหม่ แต่อีกฉบับพาดหัวว่านายกฯ ดับไฟไม่ไปเชียงใหม่
สื่อมีหน้าที่สะท้อนหรือชี้นำสังคม นายกฯ แสดงความสงสัยว่าระหว่างน้ำหนักการสะท้อนสั
งคมกับการชี้นำสังคมเป็นเรื่องน่าคิด พร้อมกับเรียกร้องให้มีความรับผิดชอบด้วย
นายอภิสิทธิ์ยกตัวอย่างกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยกรณีอยู่ในรถเบนซ์จริงหรือไม่ ระหว่างเหตุการณ์ที่ถูกม็อบทุบที่กระทรวงมหาดไทย ทั้งๆ ที่มีความพยายามจะฆ่าตน
อีกกรณีหนึ่ง กรณีคลิปเสียง นายอภิสิทธิ์ระบุว่ายังเป็นประเด็นความขัดแย้งที่นานมาก ทั้งๆที่สามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ไม่ยาก
ข้อสังเกตของนายอภิสิทธิ์ถ้าหากยังเป็นฝ่ายค้านอยู่อาจไม่เป็นอย่างที่ว่ามาก็ได้