WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, December 21, 2009

3อดีตปลัดจวก"กษิต"ออกเอกสารลับ กระทบสัมพันธ์เขมร

ที่มา มติชน

ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค และนายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ อดีตปลัดแรงงาน ร่วมแถลงข่าวกรณีที่มีการระบุถึงเอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศ เสนอข้อหารือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่มีการเปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการจัดการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามหลักของชาติ

โดยนายยงยุทธ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากประสบการณ์การดำรงตำแหน่งข้าราชการระจำของพวกตน ที่ตนเคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายปลอดประสพ เคยดำรงตำแหน่งอดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และนายจารุพงษ์ เคยดำรงอดีตปลัดแรงงาน มาวิเคราะห์เอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นการทำข้อหารือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าทำขึ้นโดยถูกต้อง มีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเนื้อหาหนังสือระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นภัยหลักคุกคามชาติ และประชาชน แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ ภัยหลักที่กำลังคุกคามประชาชน คือ ความยากจน รวมทั้งปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ การออกเอกสารลับดังกล่าวขณะนี้ยังไม่พบว่า นายอภิสิทธิ์ ได้เซ็นต์ลงนาม ดังนั้นยังจะไม่มีการยื่นฟ้องดำเนินคดีใด ๆ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แต่หากภายหลังพบว่ามีการปฏิบัติตามหนังสือที่ออกโดยไม่ถูกต้อง พรรคเพื่อไทยจะดำเนินต่อไป

ขณะที่นายปลอดประสพ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย ได้วิเคราะห์รายละเอียดในหนังสือแล้ว ตั้งข้อสังเกต 5 ข้อ 1.เห็นว่าเอกสารดังกล่าว เป็นการออกคำสั่งที่ผิดกฎหมาย และขัดรัฐธรรมนูญ ผิดระเบียบบริหาราชการแผ่นดิน รวมทั้งระเบียบข้าราชการพลเรือน ( ก.พ.) เพราะเป็นคำสั่งที่ให้ข้าราชการประจำ ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีความเป็นกลาง 2.การออกคำสั่งในหนังสือสะท้อนให้เห็นว่า ขาดด้อยเรื่องคุณธรรม และจริยธรรม 3.สิ่งที่เสนอให้ปฏิบัติตามหนังสือ เป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม ปฏิเสธความปรองดองสมานฉันท์ โดยความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ไม่ได้พูดถึงฟื้นฟูสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา ไม่พูดว่าจะส่งทูต เลขานุการทูต กลับไปสร้างความสัมพันธ์อย่างไร มีแต่พูดถึงการตอบโต้ 4.นายกรัฐมนตรีไม่รู้ว่าจะสั่งการอย่างไร แต่ขอเตือนข้าราชการประจำว่าหากมีการสั่งการให้ปฏิบัติตามหนังสือ ก็ขออย่าปฏิบัติตามเพราะหนังสือดังกล่าวออกมาโดยขัดต่อรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมาย หากข้าราชการปฏิบัติก็จะมีความผิด ส่วนข้าราชการฝ่ายการเมือง ขอให้หยุดการดำเนินการที่ผิดกฎหมาย


นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย ยังมีข้อเสนอแนะ 8 ข้อต่อรัฐบาลจึงขอให้กระทรวงกลาโหม และฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ปฏิเสธว่าไม่เคยเห็นหนังสือดังกล่าว ซึ่งนายกษิต รมว.ต่างประเทศ กำลังทำให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นเหมือนกระทรวงสงครามในยุคสงครามโลก ดังนั้นพรรคเพื่อไทย เห็นว่า รัฐบาลควรพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีและทำให้ถูกต้อง

“ เนื่องในวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ ผมขอให้เรียกร้องรัฐบาล ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ และให้หยุดการทำลายล้างกันในสังคม หากจะสู้กันก็ให้สู่กันในทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่มาของเอกสารที่เราได้นั้น มาจาก 2 ฝ่าย คือจากนักการเมืองและจากข้าราชการประจำ ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ และไม่อยากจะทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงต้องเอามาเปิดเผย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลอย่าใช้มุกเดิมในการไปไล่บี้คนให้ข้อมูล แต่ขอให้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ มันไม่ใช่ว่าจะถามว่าใครเอามาเปิดเผย แต่ต้องถามว่าพวกมึงคิดอย่างนี้ได้ยังไงมากกว่า”นายปลอดประสพกล่าว

ด้านนายจารุพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การเอกสารดังกล่าว ต้องย้อนถามว่ากระทรวงการต่างประเทศ มีอำนาจจะออกหรือไม่ เพราะอำนาจกระทรวงการต่างประเทศ คือ การสร้างสัมพันธไมตรีกับนานาชาติ ขณะที่เนื้อหาในเอกสารดังกล่าวไม่น่าจะสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เคยแถลงไว้ ขณะที่กรณีดังกล่าวหากเป็นตน ถ้ามีผู้ใต้บังคับบัญชาทำเรื่องเสนอชงขึ้นมา ก็จะไม่ยอมเซ็นต์และไม่สั่งให้ปฏิบัติ เพราะเป็นเรื่องที่ฝ่าฝืนกฎหมาย รัฐธรรมนูญ โดยเรื่องนี้หากมีการออกหนังสือนั้นโดยไม่มีอำนาจ ไม่ถูกต้องและมีการปฏิบัติที่ขัดกฎหมาย ผู้ที่ออกหนังสือต้องรับผิดชอบ