ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
เดือนนี้มีเหตุให้ต้องนั่งแท็กซี่สองครั้ง
ตอนแรกก็เงียบๆ หยั่งท่าทีกันก่อน ผมปรารภว่า ทางด่วนมันขึ้นตั้งเกือบเท่าตัว เดือนร้อนกันถ้วนหน้า แท็กซึ่พอเห็นผมเปิดทาง ก็อัดกลับมาทันทีว่า กรณีมาบตาพุดมีคนตกงานสามหมื่นคนแน่นอน แล้วเราก็บรรเลงด่ารัฐบาลกันแบบ ขี่ม้ารอบค่ายเพราะยังไม่รู้ว่า คนที่คุยด้วย "ตาสว่างขนาดไหน" แต่พอรู้แล้วว่าเป็นเสื้อแดง พูดไปสักพัก ก็บ่นเรื่อง ความอยุติธรรมต่างๆ
สุดท้าย ผมลองถามไปว่าใครคือ "ต้นเหตุของปัญหา" แท็กซี่ชรา ก็แย้มๆ ออกมาว่า "เฒ่าขาวๆ" หรือเปล่า ผมก็ลอง เปิดลูกล่อว่า แน่ใจหรือว่าจริง
ทีนี้ก็มาเลยว่า ปรากฎว่า "ตาสว่างจ้า" แบบแทบจะแสบตา เรื่องๆ รูปๆ อะไรๆ ปลดๆ นี่แหละ และรู้ด้วยว่าเป็น...คุณก็รู้
ผลการคุยกับแท็กซี่ 2 ตัวอย่าง 100% เป็นพวกตาสว่างจ้า
คุยกันสนุกปากเลยครับ
เรื่องอะไรที่แท็กซี่คิด หรือพูด นั่นคือ เรื่องที่ "คนชั้นรากหญ้าคิด"
แต่ก่อนคนรากหญ้าคือ "ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก" ให้ กับความ "ซาบซึ้ง" วันนี้ เหตุการณ์กลับตาลปัตร พวกที่ "ปลุกระดม" ไม่ใช่พวกที่อยู่ "บนเวที " นปช. พวกนั้น พูดน้อยหรือ "ก้าวหน้าช้ากว่าประชาชน" มากด้วย
สมัยสงครามกับ พคท. นั้น เป็นสงครามทางอุดมการณ์ ที่มีคนจำนวนหนึ่ง "เพ้อฝันถึงสังคมในอุดมคติ" แล้วไปปลุกระดมให้ชาวบ้านทั่วไป ให้เข้ามาร่วมต่อสู้เพื่อสังคมในอุดมคตินั้น
สุดท้ายก็ไปไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนั้นมันเพ้อฝัน และนักฝันสมัยเดือนตุลา จำนวนมาก ก็กลายเป็นพวกอำมาตย์หรือเข้าข้างอำมาตย์ เมื่อพวกเขาเลิกฝันแล้ว
แต่วันนี้เป็นการต่อสู้ในรูปแบบ Common Right ที่คนรากหญ้าซึ่งเป็นคนพื้นฐานของสังคม เป็นพวกที่ สร้างรายได้สูงสุดให้กับรัฐ ผ่านทาง "ผลผลิต" ของสังคมในรูปผลผลิตที่แท้จริง
เมื่อพวกเขามีสัดส่วนในสังคมมากที่สุด เพราะมีจำนวนมากที่สุด ก็ควรมีสิทธิมีเสียงมากที่สุด แต่วันนี้ สิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเขาถูกปล้นไป พวกเขาจึงต่อสู้เพื่อสิทธิขั้นพื้นฐานของตนนั้น
การต่อสู้วันนี้จึงเป็น "การต่อสู้ของจริง" เป็นสงครามแห่งชนชั้นและผลประโยชน์ ที่รากหญ้าไม่ยอมให้ถูกแย่งชิงไป
แน่นอน มี "พวกสงครามทางอุดมการณ์เช่น เสื้อแดงที่เป็นคนชั้นกลางเข้าร่วมด้วย" จึงกลายเป็นพลังสองประสานที่ ขับเคลื่อนอย่างทรงพลัง
ไม่มีสงครามใดที่ "ไพร่ลุกขึ้นสู้แล้วจะแพ้" ครับ ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
สงครามครั้งนี้เป็นสงครามระหว่างไพร่กับนาย เมื่อไพร่รู้สึกว่าโดนปล้นสิทธิไป และไม่ยอมเป็นไพร่อีกต่อไป นายใด ก็อยู่ไม่ได้หรอกครับ
ผมคิดว่า ผมเป็นคนที่บอกความจริงที่สุดแล้ว แม้แสลงหู แต่มันก็ช่วยให้รอด หากรู้จักปรับตัวไม่ใช่คิดว่าจะชนะด้วยการโปรประกันดา ความซาบซึ้งมันไปไม่ได้แล้ว
ผมยังเป็นคนที่เอาระบบอยู่ แต่ผมยอมรับไม่ได้ว่า สร้างงวิกฤติขึ้นมาทำไม ทำไปเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ เป็นการรักษาจริงหรือ
จริงๆ แล้วปี 2549 ทักษิณคุกคามจริงหรือมายาภาพคิดกันไปเอง
สุดท้ายปี 2552 แม้แต่แท็กซี่ชรายังไม่เอา
นี่คือชัยชนะหรือความพ่ายแพ้
เฮ้อ ผมบ่นไปยังงั้นๆ ใกล้ปีใหม่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะไร ผมพูดเรื่องดนตรีไทย ความซาบซึ้งดนตรีไทย ที่เก่าไปแล้ว โบราณแล้ว
5555