ที่มา บางกอกทูเดย์ รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ยึดหลักในการบริหารประเทศด้วยการใช้”วาทกรรม” แทนหลักรัฐศาสตร์ที่ประเทศอื่นทั้งโลกเขาใช้กัน รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงมีคำแปลกๆ เพราะๆ? ออกมาปลอบใจคนไทยให้พยายามยืดลมหายใจตัวเองไว้ และอย่างพิ่งรีบตาย อย่างคำว่า...”ปรองดองแห่งชาติ” – “ปฏิรูปประเทศ” ที่ยังไม่มีใครรู้ว่า แท้จริงแล้ว จะทำกันไปทำไม?? ในเมื่อวันนี้ ประเทศไทย คนไทยมีปัญหาเดียวคือการขาดความสามัคคี!! แบ่งพวกแบ่งสีรบราฆ่าวันกันอย่างหน้ามืดและมัวเมา ถ้ารัฐบาลคิดจะปรองดองจริง มันมีวิธี!! ต้องจริงใจและทำให้ทุกฝ่ายอยู่ใน”มาตรฐานเดียวกัน”!! ต้องรณรงค์ให้คนไทยรักกัน.....งานแรกที่เรียกว่าการปรองดอง ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แถมจะมีปัญหาตามหลังอีกต่างหาก เพราะปากก็พร่ำพูด”ปรองดองๆๆๆ” แต่อีกมือก็ กอด พรก.ฉุกเฉินไว้แน่น ศอฉ.ก็ยังเป็นเสี้ยนตำใจคนไทยทั้งประเทศ ถ้าอภิสิทธิ์อยากให้ให้บ้านเมืองเข้าสู่การปรองดองก็ทำ”สิ่งตรงข้าม” กับที่กำลังทำอยู่ ทุกอย่างมันก็”จบอย่างสง่างาม” มาถึง”การรปฏิรูปประเทศ” ใครฟังแล้วก็หัวเราะไม่ออก!! ปฏิรูปตรงกับภาษาอังกฤษว่า REFORM แปลว่า การปฏิรูป- การเปลี่ยนรูป –ปรับปรุงเข้ารูปแบบใหม่ –เข้าแถวใหม่ หรือแก้ไขใหม่ ก็ไม่เลว!! ถ้านายกรัฐมนตรีที่ยังหนุ่มแน่นอย่าง อภิสิทธิ์ จะคิดปฏิรูปประเทศ แต่”เครื่องมือ”ในการปฏิรูป”ของท่านจะต้องแหลมคม และน่าจะเป็นไปได้มากกว่านี้ ประชาชนต้องยอมรับมากกว่านี้ การเอา”คนชรา”สองสามคนที่”หมดไฟแล้ว” มาเป็นหัวหอกในการนำการปฏิรูปประเทศ มันมีแต่จะทำให้ประเทศนี้ต้องล้าหลังและถอยหลังมากขึ้น คนที่ถูกขานชื่อมาในการเป็นผู้นำในการปฏิรูปประเทศ ไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ หรือน่าสรัทธามากพอในทางปฏิบัติ มันเหมือนนำของเหลือใช้สงครามมาทำการรบ!! คนไทยไม่อยากเห็น คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ เป็นเหมือนสาขาหนึ่งของ”นิคมคนชราบางแค” แต่เราต้องการ”มันสมอง” ที่ยังทันโลกทันเหตุการณ์และเฉียบคม ไม่ใช่แก่งั่ก!! ขออภัยที่ต้องพูดความจริงกัน!! ถ้าคิดจะปฏิรูปประเทศ ต้องปฏิรูปความคิดตัวเองเสียก่อน!!