ที่มา ข่าวสด
พร้อมชมนิทรรศการสลายชุมนุม
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ จำนวน 23 ประเทศ
และหน่วยงานระหว่างประเทศ 3 หน่วยงาน สื่อมวลชนต่างประเทศ ร่วมรับฟังจุดยืนของพรรคเพื่อไทย
โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค คณะผู้บริหารของพรรค
พร้อมนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ต้อนรับ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังการบรรยาย ว่า
มีตัวแทนจากสถานทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทยมาเข้าร่วมรับฟังบรรยาย
เป็นเอกอัครราชทูต 4 ประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นระดับอุปทูต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง
แต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่ามีประเทศใดบ้าง
เนื่องจากตัวแทนจากสถานทูตแจ้งว่า
ไม่ต้องการให้นำไปเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง
และการมาพรรคเพื่อไทยครั้งนี้
เพื่อรับฟังข้อมูลก่อนเสนอรายงานไปให้ประเทศของตัวเองรับทราบเท่านั้น ไม่ต้องการเป็นผู้เล่นด้วย
นายคณวัฒน์ กล่าวว่า ในภาพรวมที่คณะทูตานุทูตสะท้อนมายังพรรคเพื่อไทยนั้น
ต้องการให้ประเทศไทยร่วมกันทุกสีเสื้อเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งเพื่อให้ประเทศไทยดีขึ้น
และยังสะท้อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนไม่ค่อยมั่นใจการลงทุนในไทย
ซึ่งทำให้ประเทศเสียโอกาส อย่างไรก็ตามหวังว่าจะไม่มีแรงกดดันหรือชนวนนำไปสู่การเผชิญหน้าอีก
“ตัวแทนจากสถานทูตรายหนึ่งแสดงความเห็นว่ารัฐบาลน่าจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เพราะในสายตาต่างชาติ การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินสะท้อนว่าประเทศนั้น
ยังมีปัญหาทางการเมืองอยู่ แต่ขณะนี้ประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว”นายคณวัฒน์กล่าว
คณะทูตยังเดินชมนิทรรศการ 7 วัน 7 ความเจ็บปวด ที่จัดขึ้นที่ทำการพรรคเพื่อไทย เป็นวันที่ 4 ด้วย
โดยบริเวณชั้น 2 มีการจำลองเหตุการณ์สลายการชุมนุม รวมถึงการจับกุมคนเสื้อแดง
โดยมีชายที่แต่งกายในเครื่องแบบทหารยืนถืออาวุธปืนจ่อหัวคนเสื้อแดงที่ถูกมัดมือไพล่หลังและปิดตา
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ จำนวน 23 ประเทศ
และหน่วยงานระหว่างประเทศ 3 หน่วยงาน สื่อมวลชนต่างประเทศ ร่วมรับฟังจุดยืนของพรรคเพื่อไทย
โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค คณะผู้บริหารของพรรค
พร้อมนายนพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ต้อนรับ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังการบรรยาย ว่า
มีตัวแทนจากสถานทูตประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทยมาเข้าร่วมรับฟังบรรยาย
เป็นเอกอัครราชทูต 4 ประเทศ ส่วนที่เหลือเป็นระดับอุปทูต และเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง
แต่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่ามีประเทศใดบ้าง
เนื่องจากตัวแทนจากสถานทูตแจ้งว่า
ไม่ต้องการให้นำไปเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้เป็นโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง
และการมาพรรคเพื่อไทยครั้งนี้
เพื่อรับฟังข้อมูลก่อนเสนอรายงานไปให้ประเทศของตัวเองรับทราบเท่านั้น ไม่ต้องการเป็นผู้เล่นด้วย
นายคณวัฒน์ กล่าวว่า ในภาพรวมที่คณะทูตานุทูตสะท้อนมายังพรรคเพื่อไทยนั้น
ต้องการให้ประเทศไทยร่วมกันทุกสีเสื้อเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งเพื่อให้ประเทศไทยดีขึ้น
และยังสะท้อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนไม่ค่อยมั่นใจการลงทุนในไทย
ซึ่งทำให้ประเทศเสียโอกาส อย่างไรก็ตามหวังว่าจะไม่มีแรงกดดันหรือชนวนนำไปสู่การเผชิญหน้าอีก
“ตัวแทนจากสถานทูตรายหนึ่งแสดงความเห็นว่ารัฐบาลน่าจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เพราะในสายตาต่างชาติ การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินสะท้อนว่าประเทศนั้น
ยังมีปัญหาทางการเมืองอยู่ แต่ขณะนี้ประเทศไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว”นายคณวัฒน์กล่าว
คณะทูตยังเดินชมนิทรรศการ 7 วัน 7 ความเจ็บปวด ที่จัดขึ้นที่ทำการพรรคเพื่อไทย เป็นวันที่ 4 ด้วย
โดยบริเวณชั้น 2 มีการจำลองเหตุการณ์สลายการชุมนุม รวมถึงการจับกุมคนเสื้อแดง
โดยมีชายที่แต่งกายในเครื่องแบบทหารยืนถืออาวุธปืนจ่อหัวคนเสื้อแดงที่ถูกมัดมือไพล่หลังและปิดตา