ยกให้เป็นบุคคลสำคัญจริงๆ
ถึงขนาดที่ "สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องเสนอให้ร่างเป็นนโยบายหาเสียงกับประชาชน ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาล ปฏิบัติการแรกคือการย้ายด่วนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใน 24 ชั่วโมง
กับผลงานอันหาญกล้าของอธิบดีดีเอสไอ สั่งไม่ฟ้องบริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กรณี ไซฟ่อนเงิน 263 ล้านบาท ทั้งๆที่คณะทำงานร่วมอัยการสูงสุดและนายทะเบียนพรรคการเมือง เพิ่งมีความเห็นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากปมอำพรางเงินบริจาค 258 ล้านบาท
หักลำ ทวนกระแสที่กำลังเชี่ยวกราก
แน่มากขนาดนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจ นาทีนี้ชื่อของ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ถูกขึ้นป้าย ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยเอาปูนหมายหัว
เพราะเจ้าตัวก็ทุ่มแทงหวยเต็งเหมือนกัน
ตามปรากฏการณ์ที่คนระดับ พ.ต.ท.เสกสรร ศรีตุลาการ รองอธิบดีดีเอสไอ ก็ยอมรับ ตรงๆกลางวงประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา ว่าที่ผ่านมามีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการสอบสวนของดีเอสไอ
หลัง ส.ว.หลายคนติดใจการปฏิบัติตัวของอธิบดีดีเอสไอ ที่มีฐานะเป็นกลไกทางกระบวนการยุติธรรม และเป็นลูกน้องของฝ่ายบริหาร ซึ่งจะส่งผลถึงการให้ความเป็นธรรมในคดีต่างๆกับแกนนำและผู้ชุมนุม นปช. ภายใต้การประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป็นห่วงว่า หากประชาชนเชื่อว่าดีเอสไอรับใช้ฝ่ายบริหาร จะทำให้กระบวนการยุติธรรมขาดความ น่าเชื่อถือ
และก็เป็นนายธาริตที่ออกอาการขึงขัง ตั้งโต๊ะแถลงตอบโต้ ส.ว.อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ยืนกรานเสียงแข็ง ไม่มีใบสั่งการเมืองแทรกแซงดีเอสไอแต่อย่างใด
แต่โดยฉากต่อเนื่องกับคิวออกจอรายวัน
หลังปฏิบัติการล็อกตัวนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือ"หรั่ง" ลูกน้องคนสนิทของ "เสธ.แดง" พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่นายธาริตให้ข่าวกับสื่อมวลชนเองแบบวันต่อวัน พูดแทนผู้ต้องหา
ชิงกระแส ยึดพื้นที่ข่าว จน "เข้าเนื้อ" พรรคเพื่อไทยและฝ่ายเสื้อแดง
กว่าจะตั้งหลักได้ ออกมาเบรกเกมไม่ให้กระแสไหลไปตามจังหวะของอธิบดีดีเอสไอ ที่เล่นเป็น "หัวหอก" ตัวเป้าของฝ่ายถืออำนาจรัฐ ก็โดนตีกินไปเยอะแล้ว
สรุปคดี พิพากษากันตั้งแต่คดียังไม่ขึ้นศาล
"ธาริต" ปั่นผลงานได้เข้าตากองเชียร์ฝ่ายไล่ล่าเสื้อแดง
จากคิวล็อกนายสุรชัย ต่อจิ๊กซอว์โยงภาพผู้ก่อการร้ายไอ้โม่ง ชุดดำ จนถูกตั้งแง่ในจังหวะรวบรัดฟันธงเข้าทางรัฐบาล แล้วยังทุบโต๊ะสั่งไม่ฟ้องทีพีไอฯไซฟ่อนเงิน
กระตุ้นต่อมดี๊ด๊า ทีมทนายความคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ คึกคักในบัดดล
ตามจังหวะที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา รีบตีขลุม เมื่อคดีต้นน้ำ ไม่ผิด คดีปลายน้ำคือคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของบริษัททีพีไอฯ ก็เดินยากอยู่ ซึ่งถือเป็นข้อต่อสู้หนึ่งที่สามารถใช้ต่อสู้ในศาลได้ว่า บริษัท ทีพีไอเอาเงินไปทำกิจกรรมโดยไม่ผิดกฎหมาย
ต่อให้ออกตัวปฏิเสธกันยังไง มันก็ฟังอ้อมๆแอ้มๆ น้ำเสียงอู้อี้
ในเมื่อทุกคิวของนายธาริต ล้วนเข้าทางยี่ห้อประชาธิปัตย์
ในอารมณ์ที่สะท้อนผ่านคำถามของนักข่าวที่จ่อปากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี "ขณะนี้มีการกล่าวหาดีเอสไอ รับใช้ฝ่ายการเมืองแทบทุกเรื่อง"
และก็ตอบกันตามแบบฟอร์ม นายกฯอภิสิทธิ์ ออกตัวให้เลยว่า ความจริงดีเอสไอก็ทำตามข้อเท็จจริงของแต่ละคดี ไม่มีลักษณะที่จะมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
เรื่องของเรื่อง โดยสถานะที่อยู่ภายใต้ฝ่ายบริหาร ดีเอสไอ ไม่ใช่องค์กรอิสระ
ก็ยากที่จะพูดถึงความเป็นกลาง
ที่แน่ๆด้วยเดิมพันของข้าราชการประจำ นายธาริตเลือกแทงหวยเต็งขนาดนี้ ก็ต้องอ่านเกมแล้วว่า อย่างไรเสีย พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่มีโอกาส กลับมาเป็นรัฐบาลในเร็ววัน
ยังไงก็ไม่โดนย้ายภายใน 24 ชั่วโมง
และตราบใดที่ยังเป็นฝ่ายประชาธิปัตย์ครองเมืองอยู่ โดยเส้นทาง ของนายธาริตที่อายุเพิ่งจะแค่ 52 ปี เหลืออายุราชการอีก 8 ปี
ลุ้นได้ถึงเก้าอี้ปลัดกระทรวงยุติธรรม.
ทีมข่าวการเมือง