อัยการ ยันคดีไซฟ่อนเงิน หากมีมูลต้องฟ้อง ยอมรับไม่รู้สึกหนักใจ เพราะต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ลั่นพร้อมรับพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของคู่ความ...
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสั่งไม่ฟ้องบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ไซฟ่อนเงินจำนวน 263 ล้านบาท ให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ ผ่านบริษัทเมซไซอะฯ ไปให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 พิจารณาแล้ว ว่าสำนวนมีความสมบูรณ์พอที่อัยการจะสั่งฟ้องหรือไม่ หากปรากฏหลักฐานว่ามีการกระทำผิดในคดีนี้ ถือว่าอัยการมีความเห็นแย้ง สามารถยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาเป็นจำเลยต่อศาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งความเห็นแย้งของอัยการดังกล่าวให้ดีเอสไอทราบ แต่หากเห็นว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ อัยการต้องมีคำสั่งให้ดีเอสไอไปสวนสวนเพิ่มเติม สุดท้ายหากอัยการเห็นว่า ไม่มีการทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา อัยการอาจมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นอัยการต้องส่งความเห็นไปให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาอีกครั้ง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายธนพิชญ์ ยืนยันว่าไม่รู้สึกหนักใจ หรือมีความยุ่งยากในการพิจารณาแต่อย่างใด เพราะคดียุบพรรคก็เป็นคดียุบพรรค อัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีใด ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน และอัยการพร้อมจะรับพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมของคู่ความเช่นกัน.
เพื่อไทย
Tuesday, July 20, 2010
อัยการยันคดีทีพีไอฯไซฟ่อนเงิน หากมีมูลต้องฟ้อง
ที่มา ไทยรัฐ