ที่มา ประชาไท
นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความผู้ได้รับการว่าจ้างจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ให้ดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาลไทย และวานนี้ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงเดือนพฤษภาคม ส่งสาสน์ถึงผู้อ่านรายงานฉบับดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ระบุยังมีฉบับแปลอีกหลายภาษา ยินดีรับผิดชอบแต่ผู้เดียว
นายอัมสเตอร์ดัมแสดงความรับรู้กรณีถูกพันธมิตรโจมตีประเด็นส่วนตัว พร้อมทั้งระบุว่าการที่รัฐบาลไทยไม่อนุญาตให้เขาเดินทางเข้าประเทศเป็นการตัดสิทธิของเขาในการแก้ต่างให้กับลูกความและเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลโจมตีเขาเพียงฝ่ายเดียว
สำหรับรายงานชิ้นดังกล่าวเป็นการพยายามรวบรวมเหตุการณ์ความรุนแรงและการวิเคราะห์เบื้องหลังของการใช้กำลังทหารออกมาสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ซึ่งรายงานฉบับนี้ระบุว่าเป็นขบวนการประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ไทยเคยมีมาอย่างน้อยในรอบ 35 ปี
000
สารจาก “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ถึงผู้อ่านสมุดปกขาวทุกท่าน
ถึง ผู้อ่านทุกท่าน
“ผมรับทราบเป็นอย่างดีถึงการถกเถียงอภิปรายเกี่ยวกับสมุดปกขาวที่กำลัง เกิดในประเทศไทยขณะนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เอกสารชิ้นนี้ได้รับความสนใจ ผมประสงค์ที่จะชี้แจงว่าสมุดปกขาวถูกร่างขึ้นด้วยความร่วมมือของผู้เขียน หลายท่าน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองชาวไทยจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ผมขอเป็นผู้รับผิดชอบต่อการจัดทำสุดปกขาวเล่มนี้เพียงผู้เดียว เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยปกครองภายใต้ พรก. ฉุกเฉิน และไม่มีความเป็นประชาธิปไตย
ปัจจุบันเป็นที่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่ารัฐบาลไทยมีความผิดฐานใช้อธิพลทางการเมืองถ่วงเวลาการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของประชาชนจากการล้อมปราบ ผมไม่เคยพบผู้นำประเทศใดที่เชื่อว่าการประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉินในสถานการณ์ปัจจุบันในประเทศไทยเป็นเรื่องที่ชอบธรรมตามกฎหมาย การคงพรก.ฉุกเฉินแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของรัฐบาลอภิสิทธิ์
ผมทราบว่ากลุ่มพันธมิตรได้โจมตีผมในเรื่องประเด็นส่วนตัว แสดงให้เห็นว่าพวกเขากลัวที่จะรับรู้”ความจริง”อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ ผมยังถูกรัฐบาลไทยสั่งห้ามเข้าประเทศ เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้พวกเขาโจมตีผมได้โดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆทั้ง สิ้น
ซ้ำการสั่งห้ามผมไม่ให้เข้าประเทศยังเป็นการทำลายสิทธิของผมที่จะแก้ต่างให้คนเสื้อแดงที่เป็นลูกความผมอีกด้วย
นอกจากกรณีของผมแล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาชญากรรมสงความของผม ดร. คานูปส์ ยังถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งดร. คานูปส์และผมได้ตัดสินใจที่จะใช้วิธีเจรจาทางการฑูตเพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่ง ดังกล่าว
ผมตระหนักเป็นอย่างดีว่ารัฐบาลทหารนี้พยายามที่จะใช้ระบบกฎหมายและสื่อ เป็นเครื่องมือที่จะลดทอนความสำคัญของสมุดปกขาว และยิ่งไปกว่านั้นคือบั่นทอนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง
ผมขอย้ำไว้ ณ ที่นี้ว่า สมุดปกขาวเล่มนี้จะได้รับการแปลเป็นหลายภาษาและแจกจ่ายไปทั่วโลก
ท้ายนี้ ผมยินดีที่จะอภิปรายเรื่องสมุดปกกับตัวแทนของรัฐบาลทุกที่ทุกเวลาบนพื้นฐาน ของกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี ผมยังตระหนักว่ามีบุคคลหลายท่านที่สามารถอภิปรายและชี้แจงเรื่องนี้ได้ดี กว่าผม แต่พวกเขาเหล่านั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและถูกจองจำในค่ายทหาร”
ที่มา: http://robertamsterdam.com/thai/?p=128