ที่มา มติชน
ที่ นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ รับมอบอำนาจจากนายบดินทร์ วัชโรบล ผู้สื่อข่าวอิสระ เป็นโจทก์
ยื่นฟ้อง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง
และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ( ศอฉ.) ,
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ,
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ,
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง.ผบ.ทบ. ,
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. ,
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ,
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ,
พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผบ.พล.ร2 รอ. ,
พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.2 รอ.) ,
พ.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ผู้บังคับการ ร.21 รอ ,
พ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิ์เดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 (ร.12 พัน 2 )และ
พ.ท.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ ผบ.ม.พัน 3 รอ.
เป็นจำเลยที่ 1-13 ในความผิดฐานพยายามฆ่า
และทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , 289
ศาลได้มีคำสั่งโดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า
จำเลยซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเป็นตัวการ
หรือให้จำเลยอื่นฆ่าหรือพยายามฆ่าผู้อื่น
ซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
วิธีพิจารณาคดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2542 มาตรา 9(1)(2) จึงไม่รับฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องระบุว่า
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 จำเลยที่ 1 และผู้ที่เกี่ยวข้อง
สั่งการให้ใช้กำลังทหารเข้าสลายชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมกันบริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ
โดยมีอาวุธปืนและกระสุนจริงในการปฏิบัติการ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ซึ่งโจทก์เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งกระสุนปืนยังฝังอยู่ในร่างกายและลำไส้เล็ก ไม่สามารถผ่าตัดนำกระสุนออกมาได้
เพื่อไทย
Saturday, July 24, 2010
ศาลอาญา"ไม่รับฟ้อง"นักข่าวอิสระฟ้องนายกฯ-บิ๊กรบ.สลายม็อบแดง
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องคดี