ที่มา thaifreenews
ลูกเสือไซเบอร์ ความอำมหิต ที่ถูกปิดบัง
Pathom ขออำภัยที่นัดเย็นแล้วมาดึก ผมอยากจะพูดถึงเรื่องลูกเสือไซเบอร์ที่พูดถึงกันมานานแล้วแต่ผมเพิ่งเห็นว่ามันเป็นประเด็นร้อนแรงมาไม่กี่วันนี้ ผมไม่แปลกใจที่รัฐบาลจะจัดโครงการนี้ขึ้นมา Cyber Scout หรือ ลูกเสือไซเบอร์ จริง ๆ แล้วปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นโครงการที่ดีเพราะยุคนี้สมัยนี้มีเวบไซต์มากมายที่ไม่เหมาะสมดังนั้นการมีคนมาเฝ้ามองมันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน ซึ่งผมกำลังไม่ค่อยเข้าใจว่า ตำรวจไซเบอร์ ที่เคยมีมันไปอยู่ที่ไหน แต่ก็พอเข้าใจได้เมื่อไปอ่านถึงจุดประสงค์ของโครงการเท่าที่อ่านคือ รัฐบาลอยากให้ลูกเสือของจับตาดูเวบไซต์ที่หมิ่นสถาบันโดยเป็นหน้าที่ที่คณะลูกเสือต้องปกป้อง พอเข้าใจ...
Pathom ขออำภัยที่นัดเย็นแล้วมาดึก ผมอยากจะพูดถึงเรื่องลูกเสือไซเบอร์ที่พูดถึงกันมานานแล้วแต่ผมเพิ่งเห็นว่ามันเป็นประเด็นร้อนแรงมาไม่กี่วันนี้ ผมไม่แปลกใจที่รัฐบาลจะจัดโครงการนี้ขึ้นมา Cyber Scout หรือ ลูกเสือไซเบอร์ จริง ๆ แล้วปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นโครงการที่ดีเพราะยุคนี้สมัยนี้มีเวบไซต์มากมายที่ไม่เหมาะสมดังนั้นการมีคนมาเฝ้ามองมันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน ซึ่งผมกำลังไม่ค่อยเข้าใจว่า ตำรวจไซเบอร์ ที่เคยมีมันไปอยู่ที่ไหน แต่ก็พอเข้าใจได้เมื่อไปอ่านถึงจุดประสงค์ของโครงการเท่าที่อ่านคือ รัฐบาลอยากให้ลูกเสือของจับตาดูเวบไซต์ที่หมิ่นสถาบันโดยเป็นหน้าที่ที่คณะลูกเสือต้องปกป้อง พอเข้าใจ...
กฏหมายหมิ่นสถาบันบ้านเราทุกวันนี้ยังไม่เป็นที่ชัดเจนและเท่าที่ผมเข้าใจ
คือมันยังมีข้อที่น่าวิตกและชวนตีความอยู่มาก ผมไม่ขอพูดถึงกลุ่มคนที่ตั้งใจหมิ่นแต่ผมอยากเรียนถึงการวิเคราะห์วิจารณ์ ซึ่งผู้ใหญ่เองยังไม่มีวิจารณญาณที่ชัดพอแล้วเหตุใดถึงได้เชื่อใจปล่อยเด็กที่ยังไม่ประสีประสาให้ทำงานแบบนี้ นั่นคือประเด็นที่หนึ่ง ถ้าผมตั้งคำถามกับลูกเสือกลุ่มนั้นว่าผมไม่เชื่อว่า พระนเรศวร ฟัน พระมหาอุปราช ขาดสะพายแล่งกลางคอช้าง แบบนี้ถือว่าหมิ่นไหม (นี่คือการเปรียบเทียบ) หรือผมจะถามอีกว่า ผมไม่เชื่อว่าสมเด็จพระนารายณ์เป็นมหาราชอย่างสมบูรณ์ และผมเชื่ออีกว่าพระเพทราชากบฏต่อพระนารายณ์เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แบบนี้ถือว่าหมิ่นหรือไม่ ผมไม่นับรวมเหตุผลมากมายที่ผมมี แต่ผมแค่ถามเด็กเหล่านั้นว่าเขามีความคิดพอที่จะวิเคราะห์ความคาบเกี่ยวของหมิ่นกับการวิเคราะห์ได้หรือยัง
ดังนั้นผมจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกเล็กน้อยที่จับเด็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันทางสมองมาทำหน้าที่นี้ เราจะใช้เด็กต้องเข้าใจสภาพเด็กและสิ่งที่เขาศึกษาการให้เด็กมาจับผู้ใหญ่ในกรณีนั้นมันแปลก ๆ เด็กที่เป็นลูกเสือมันก็คือการบอกในทีว่าคนที่มาทำหน้าที่นี้อายุสูงสุดก็ไม่น่าจะเกิน 16 (สิบหกยังไม่จบ ม.สาม นี่มันเหลือกำลังรากแล้ว) ความรู้ที่เขามีนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องต่าง ๆ รอบตัวที่ผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งเขาคุยกันหรือยัง เรื่องนี้ไม่ต้องตอบเพราะข้างต้นผมบอกไว้ชัดแล้วว่า ผู้ใหญ่เองยังตัดสินไม่ได้
แต่สิ่งที่ผมนำมาเป็นประเด็นที่จะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาคือ โครงการนี้มีความอำมหิตแฝงอยู่
เราต้องเข้าใจขั้นต้นก่อนว่า ไม่มีใครเกิดมาแล้วแก่เลย ทุกคนต้องเริ่มจากเด็กเติบโตเป็นเยาวชนคนเหล่านี้โตมาจะเป็นกำลังของชาติในอนาคตต่อไป เด็กนั้นต้องหมั่นให้เขาได้เรียนรู้และวิเคราะห์มิใช่จับไปท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง ดังนั้นสิ่งที่เขาควรทำต้องให้เขาทำ ไม่ใช่ไปจับให้เขาทำในเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะเรื่องนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนที่คุณจะเปิดโครงการคุณต้องอบรมเด็กให้รู้ถึงสิ่งที่จะต้องทำ แต่สิ่งที่เราต้องถามคือคุณสอนและสั่งเขาว่าอย่างไร ให้เขาจำในสิ่งที่ผิดแบบผ่านการวิเคราะห์หรือไม่ อย่างคำถามที่ผมตั้งตัวอย่างไปว่าถามผมพูดเรื่องแบบนั้นเป็นการหมิ่นหรือไม่
มันเป็นพฤติกรรมอำมหิตของรัฐบาลที่จะหว่านพันธ์เมล็ดแห่งความเลวร้ายลงในแผ่นดินไทยเพราะผู้ใหญ่อย่างรัฐบาลเองยังแยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือหมิ่น ยังแหกปากปาว ๆ ว่าเสื้อแดงล้มสถาบันดังนั้นมันค่อนข้างแน่ชัดว่าหน่วยงานนี้ตั้งมาเพื่อบังหน้าแต่แท้จริงแล้วเป็นการฝังความชั่วร้ายใส่หัวเด็กอย่างปฏิเสธไม่ได้ ดั่งเช่นเครือข่ายเฟซบุ๊คของเสื้อหลากสีและยังแพ่ดของลูกชาย สว. อย่าง มาลีรัตน์ แก้วก่า กลุ่มเด็กตรงนั้นเติบโตกว่ากลุ่มเด็กลูกเสือแต่สิ่งที่เขาทำคือการตัดต่อภาพเพื่อใส่ร้ายคนเสื้อแดง และก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่ากลุุ่มทั้งหมดที่ผมเอ่ยมาเป็นเครือข่ายเดียวกันกับรัฐบาล เป็นเครือข่ายเดียวกันที่รัฐบาลส่งท่อน้ำเลี้ยง
น้องอาท ลูกชายคนเก่ง ของ อดีตสว.มารีรัตน์ แก้วก่า
ขณะขี้นรถไฮปาร์ค..วันพันธมิตรบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ
จุดประสงค์ของรัฐบาลจริง ๆ แล้วจะทำอะไรกันแน่ ต้องการจัดระเบียบสังคมหรือกวาดล้างคนเสื้อแดงโดยให้คนในสังคมรังเกียจกันชนิดมองหน้ากันไม่ได้อีกต่อไป
ผมเห็นเรื่องนี้ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ในช่วงนั้นญี่ปุ่นเตรียมประเทศเพื่อเข้าสู่สงครามจุดมุ่งหมายแรก ๆ ของการก่อสงครามคือการบุกยึดคาบสมุทรเกาหลี เขาเตรียมความพร้อมด้วยการบรรจุหลักสูตรลงไปในแบบเรียนเด็กญี่ปุ่นทุกคนว่าให้เห็นคนเกาหลีเป็นสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่มีค่าใด ๆ ถ้าเจอก็ให้กดขี่และฆ่ามันทิ้งได้เลย ไม่ต้องนึกถึงบาปบุญเพราะคนเกาหลีมันเกิดมาเพื่อเป็นทาส มันไม่มีชีวิตจิตใจและเมื่อประกาศสงครามกับเกาหลี เรื่องเหล่านี้ก็ได้ผลเพราะทหารญี่ปุ่นโกรธเกรี้ยวและทำร้ายคนเกาหลีอย่างที่มนุษย์ไม่ควรทำกัน เขาสอนตั้งแต่ยังเด็ก บรรจุไว้ในแบบเรียนให้สร้างความเกลียดชัง ข้อความทั้งหมดในการปลุกระดมเด็กรัฐบาลญี่ปุ่นอ้างว่ามันเป็นความต้องการของพระมหาจักรพรรดิและการกระทำแบบนั้นก็เพื่อสมเด็จพระจักรพรรดิ แต่จริง ๆ แล้วสมเด็จพระจักรพรรดิรู้หรือไม่ ผมเองก็ไม่ทราบได้ แต่เท่าที่อ่านประวัติศาสตร์ยุคนั้นมา สมเด็จพระจักรพรรดิของญี่ปุ่น ไม่มีเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น เสียงของพระจักรพรรดิบริสุทธิ์เกินกว่าจะตรัสเรื่องการเมือง ดังนั้นก็เป็นการมองได้อีกนัยยะว่าเป็นการสร้างสัญลักษณ์เพื่อระบายโทสะของผู้ดำเนินนโยบาย
มันต่างกับประเทศไทยตรงไหน
ในเยอรมัน ฮิตเลอร์ก็มีการล้างสมองเด็กให้เกลียดชาวยิวและต่อต้านคนที่เป็นอริกับฮิตเลอร์ด้วยความรุนแรง เฉียบชาด คนเหล่านั้นพร้อมทำร้ายผู้เห็นต่างและชิงชังชาวยิวแบบฝังหัว ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้รู้เลยว่ามันเป็นเรื่องริดรอนสิทธิมนุษยชนและเป็นการก่ออาชญากรรมสงครามในทางอ้อม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือสองนโยบายของฝ่ายอักษะนั้นเหมือนกันตรงที่ปลูกฝังเยาวชนด้วยความเกลียดชัง มีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อย
แต่ประเทศไทยมันล้าหลังถึงขนาดเอาวิธีการเมื่อห้าสิบปีก่อนมาใช้แล้วเหรอครับ... มันบ้านป่าเมืองเถื่อนขนาดที่ต้องทำร้ายกันด้วยวิธีเลวทรามอย่างนี้เลยเหรอ
วันนี้เมืองไทยก็ใช้วิธีสร้างสัญลักษณ์แล้วยุยงให้คนเกลียดชังกันโดยยัดข้อหาล้มล้างสถาบันให้คนอีกฝ่าย เด็กเหล่านั้นไม่สมควรถูกด่าครับเพราะเขาเป็นผู้น่าสงสาร เขากำลังถูกล้างสมองอย่างอำมหิตของผู้ใหญ่ในสังคม เราจะมีความหวังอะไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้เล่า
วันนี้สิ่งที่เรายังตอบไม่ได้คือ มาร์ค เอเอฟ ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบันแต่มีการพิสูจน์เบื้องต้นแล้วว่าภาพที่สลิ่มได้นำมาโพสต์ประจานนั้นเป็นการตัดต่อ ดังนั้นผมอยากถามว่าลูกเสือไซเบอร์แยกแยะเรื่องนี้แล้วทำงานหรือยัง เขาได้ฟ้องไปยังรัฐบาลหรือยังว่ากลุ่มคนเสื้อหลากสีตัดต่อภาพเพื่อให้คนเข้าใจว่า มาร์ค เอเอฟ หมิ่นสถาบัน นี่คือคำถามของผม
ส่วนประเด็นต่อมาคือ ลูกเสือไซเบอร์ได้ฟ้องรัฐบาลหรือยังว่าพวกสลิ่มที่เผยแพร่ภาพตัดต่อนั้นต้องมีโทษ โทษฐานเผยแพร่ข้อความถ้อยคำที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้วหรือยัง ผมถามแค่สองประเด็นนี้ ไม่ถามให้มากความ
เพราะถ้าหน่วยงานนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อสอดส่องความไม่เหมาะสมของเวบไซต์ที่หมิ่นสถาบัน เรื่องนี้เขาต้องทำและต้องรู้
แต่พนันกันไหมครับว่า เขาไม่ทำ เพราะเขาถูกสั่งสอนมาให้เกลียดคนเพียงฝั่งเดียว เรื่องนี้ผมไม่อยากโทษเด็กที่ถูกผู้ใหญ่จับล้างสมอง เพราะเด็กมันคงไม่กล้าปฏิเสธว่ามันไม่ทำ แต่ผู้ใหญ่สิครับ พวกมรึงทำแบบนี้กับเด็กอย่างอำมหิตเช่นนี้ มรึงไม่กลัวบาปกลัวกรรมกันบ้างหรืออย่างไร
สวัสดี
http://www.facebook.com/topic.php?uid=101281789920009&topic=76