WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, February 12, 2011

มูบารัคลาออก โดย กาหลิบ

ที่มา thaifreenews

โดย bozo

เรียบเรียงโดย Nangfa





คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง มูบารัคลาออก

โดย กาหลิบ

ขณะที่เขียนบทความอยู่นี้
ผู้ประท้วงอียิปต์เป็นแสนๆ กำลังโห่ร้องแสดงความยินดีสุดขีด เมื่อรู้ข่าวว่า
ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัค ที่ครองอำนาจมานานกว่า ๓๐ ปี
ได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว

ผู้ออกมาแถลงข่าวนี้ทางโทรทัศน์แห่งชาติของอียิปต์คือ
รองประธานาธิบดี โอมาร์ สุไลมาน ผู้เป็นเป้าหมายหนึ่งของการประท้วงต่อต้าน
โดยเฉพาะเมื่อเขากล่าวอย่างชัดเจนไปทั่วประเทศและทั่วโลกเมื่อไม่กี่วันนี้ว่า
อียิปต์และคนอียิปต์
ยังไม่พร้อมต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ถึงคำพูดสั้นๆ ว่า
“ประธานาธิบดีฮอสนี่ มูบารัคได้ตัดสินใจลาออก
จากตำแหน่งประธานาธิบดีของรัฐต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ของอียิปต์”
จะเป็นเหตุให้คนอียิปต์ส่วนใหญ่รู้สึกลิงโลดใจ
แต่ก็ยังไม่ชัดนักว่า รักษาการประธานาธิบดีอย่างนายสุไลมาน
จะอยู่ร่วมโลกกับขบวนประชาธิปไตยอียิปต์อย่างไรต่อไป
เมื่อหัวใจและอุดมการณ์แตกต่างกันถึงเพียงนั้น


ในขณะที่เสียงยินดีดังกึกก้องไปทั้งจัตุรัสตาเฮียร์กลางกรุงไคโร
และนครอเล็กซานเดีย
เราควรลองพิจารณาโดยใช้สติว่า
เกิดอะไรขึ้นแน่ในประเทศที่สำคัญในโลกอาหรับประเทศนี้

การลาออก “ต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ของอียิปต์” นั้น
เป็นวิธีสื่อสารที่ค่อนข้างชัดว่า
ผู้นำของอียิปต์คงมิได้ลาออกอย่างสมัครใจหรือด้วยตนเอง
แต่ถูกบังคับด้วยคนถืออาวุธที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของตนมากกว่า

มิหนำซ้ำยังเอ่ยถึงคำว่า “สภากลาโหม” ของประเทศ
ในฐานะผู้ “ใช้อำนาจ” แทนเสียด้วย

ครับ มูบารัคคงจะถูกรัฐประหารเงียบเข้าให้แล้ว

วันนี้คือวันศุกร์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันนัดหมายประท้วงครั้งใหญ่ในอียิปต์
จุดประสงค์อันชัดเจนและเป็นสาธารณะคือ
การกดดันเรียกร้องให้ประธานาธิบดีมูบารัคลาออกจากตำแหน่ง
ขณะที่แม่ทัพนายกองของอียิปต์ก็รีบเข้าหารือกันว่า
จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวนี้อย่างไร

เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง คำประกาศลาออกก็ปรากฏขึ้น
ภาษาที่ใช้อธิบายอย่างสั้นๆ ก็สื่อความหมายว่า
ชนชั้นปกครองในอียิปต์ได้ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่า
จะไม่ท้าทายประชาชนที่กำลังแสดงสิทธิ์ประท้วงอย่างกว้างขวาง
ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
แนวโน้มเมื่อตอนเย็นชี้ว่า
ขบวนประท้วงอาจจะเคลื่อนเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดีได้
ซึ่งหากเกิดปรากฎการณ์เช่นนั้น
โอกาสที่จะเกิดการปะทะชนิดเสียเลือดเสียเนื้อคงจะมีมาก

สุดท้ายก็ต้องถอดชนวนสถานการณ์ด้วยการบีบให้ประธานาธิบดีผู้เป็นนายพลเก่า
และเป็นรองประธานาธิบดีของอันวาร์ ซาดัตต้องลาออกไป
ทั้งที่เจ้าตัวไม่สมัครใจและประกาศแล้วว่าจะอยู่ต่อไป


คำถามคือ สิ่งที่ดีใจกันมากว่าเป็น “ชัยชนะ” ของประชาชนชาวอียิปต์ในขณะนี้ คือ
ชัยชนะเหนือตัวบุคคลผู้มีอำนาจล้นพ้นอย่างมูบารัคเพียงคนเดียว
หรือเป็นชัยชนะเหนือเหล่าผู้มีอำนาจในอียิปต์ที่ยังอยู่ในอำนาจกันอีกมากมายกันแน่?

ตัวบุคคลอย่าง โอมาร์ สุไลมาน รักษาการประธานาธิบดี
ที่ประชาชนกำลังโกรธแค้นกันมาก
ในทัศนะว่าอียิปต์ควรเป็นเผด็จการต่อไปและไม่พร้อมต่อระบอบประชาธิปไตย
คณะผู้บัญชาการทหารที่ร่วมกันกดดันอย่างหนัก
จนอาจถึงขั้นเอาปืนจ่อหัวผู้ที่เคยเป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐ
ให้ลาออกหรือไม่ก็ไม่รู้นั้น คือ
มิตรหรือศัตรูของประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย?

ประชาชนชาวอียิปต์ได้รับ “ชัยชนะ” เปลาะนี้แล้ว
ยังต้องเตรียมใจ
และเตรียมกายไว้รอสู้รบอีกรอบหนึ่งกับ โอมาร์ สุไลมาน
และคณะทหารเหล่านี้หรือไม่?

เหล่านี้ล้วนเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ
เพราะเสียงเช่นนี้ย่อมจางหายไปกับเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของคนที่คิดว่า
ตนเองได้รับชัยชนะแล้ว เช่นในอียิปต์ขณะนี้

เราควรร่วมยินดีกับเพื่อนชาวประชาธิปไตยอียิปต์ที่ออกแรงอย่างได้ผล
สามารถเปลี่ยนตัวหัวของประเทศได้ด้วยความมุ่งมั่นและกล้าหาญของตน

การไล่ประธานาธิบดีเผด็จการออกจากตำแหน่งได้หนึ่งคน
ถือเป็นความก้าวหน้าอย่างสำคัญที่มองข้ามมิได้
แต่การรุรังเผด็จการเหมือนล้มจอมปลวกลงทั้งอันนั้น
ยังเป็นภารกิจต่อเนื่องที่หัวใจอันเปี่ยมไปด้วยความปีติในค่ำคืนนี้
อาจยังไม่ได้คิดหรือไม่อยากจะคิด

อย่างไรก็ตาม เราต้องแสดงความยินดีจากหัวใจสู่พี่น้องของเราในอียิปต์
และในใจก็หวังอย่างเหลือเกินว่าชาวประชาธิปไตยไทยคงจะตามไปติดๆ ในไม่ช้า.


http://democracy100percent.blogspot.com/2011/02/blog-post_12.html