ที่มา Thai E-News
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
ประชาชนอียิปต์ได้รับชัยชนะในการล้มอำมาตย์มูบารักหลังจากที่เคลื่อนไหวมา 18 วัน การปฏิวัติอียิปต์ถูกนิยามโดยผู้เข้าร่วมต่อสู้ว่าเป็น “การปฏิวัติเพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”
และบทเรียนแหลมคมสองบทที่คนเสื้อแดงจะได้จากชัยชนะของประชาชนอียิปต์คือ
1. การต่อสู้ของมวลชนเป็นเรื่องชี้ขาด
2. การนัดหยุดงานทั่วไปสามารถกดดันอำมาตย์ในด้านเศรษฐกิจและนำไปสู่ชัยชนะได้
ความสำคัญของมวลชนเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างมากในไทย หลายคนหันหลังให้มวลชน เพื่อไปพูด “เอามัน”เรื่องการจับอาวุธ หรือเพื่อด่าแกนนำว่า “พาคนไปตาย” หรือเพื่อเสนอว่า เราสู้เองไม่ได้ถ้าไม่พึ่งพิงผู้ใหญ่ ไมว่าจะเป็นนายทุน หรือทหารแตงโม การปฏิวัติอียิปต์พิสูจน์ว่าก ารหันหลังให้มวลชนเป็นทางตันที่จะพาเราไปสู่ความพ่ายแพ้และการยอมจำนน
การลุกฮือของประชาชนอียิปต์ไม่เคยง่าย อำมาตย์อียิปต์ครองอำนาจมา 30 ปี ในเวลานั้น มีการปราบ ขัง ฆ่า ทรมาณ นักเคลื่อนไหวที่ต้องการประชาธิปไตย มีการปราบปรามและกดขี่สหภาพแรงงานอย่างต่อเนื่อง มีการเซ็นเซอร์สื่ออย่างเบ็ดเสร็จ และล้างสมองประชาชนด้วยนิยายชาตินิยม และเมื่อประชาชนแสดงความกล้าหาญในการลุกสู้เมื่อเดือนมกราคม อำมาตย์อียิปต์ก็ลงมือฆ่ากว่า 300ศพ บาดเจ็บเป็นพัน
สาเหตุสำคัญที่ทหารอียิปต์ยังไม่ปราบฆ่าประชาชนก็เพราะมวลชนไปมุงล้อมคุยและกดดันทหารชั้นล่าง พวกนายพลอำมาตย์เลยไม่แน่ใจว่าจะสั่งทหารเกณฑ์ได้หรือไม่
ดังนั้นคนที่แก้ตัวว่า “อียิปต์ไม่เหมือนไทย” เป็นคนที่พยายามหาข้อแก้ตัวว่าทำไมเราสู้ไม่ได้และต้องยอมจำนนเป็นทาสตลอดกาล
แน่นอนการต่อสู้ในโลกจริงไม่เคยมีหลักประกันว่าจะชนะเสมอ คนเสื้อแดงทราบดีด้วยความเจ็บปวด แต่วิธีการต่อสู้มีความสำคัญในการช่วยให้มวลชนชนะ การปฏิวัติอียิปต์ระเบิดขึ้นเพราะมีการเคลื่อนไหวแบบ “แกนนอน” ทุกคนนำตนเอง ไม่มีใครสั่งให้เลิกหรือปรองดองได้ง่ายๆ พวกฝ่ายค้านเก่าที่อนุรักษ์นิยมและหวาดระแวง เช่นพรรค “พี่น้องมุสลิม” ไม่ได้มีส่วนในการริเริ่มการต่อสู้ และกล้าๆ กลัวๆ ในการสนับสนุนในระยะเริ่มแรก ถ้าไม่มีแกนนอน การปฏิวัติจะไม่สำเร็จหรืออาจไม่เกิดเลย
แต่การนำแบบ “แกนนอน” เริ่มมีจุดอ่อนเมื่อถึงทางแยกสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อประชาชนอียิปต์ประสบความสำเร็จในการล้มมูบารัก เพราะคำถามต่อไปมีมากมาย เช่น
· จะไว้ใจกองทัพได้หรือไม่ ในเมื่อนายพลเป็นส่วนหนึ่งของระบอบเก่า?
· จะกีดกันไม่ให้นักการเมืองฉวยโอกาสมากินกำไรฟรีๆ จากการปฏิวัติ? เช่นคนอย่าง โมฮัมมัด เอลบอรอได หรือแม้แต่พรรคพี่น้องมุสลิม
· จะผลักดันการต่อสู้ให้ไปไกลกว่านี้เพื่อล้มระบอบอำมาตย์เก่าทั้งระบอบ และเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่เป็นธรรมอย่างไร?
· จะรวมพลังขบวนการแรงงานให้เรียกร้องความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจอย่างไร ขบวนการแรงงานที่ออกมาสู้จะต้องกลับไปทำงานภายใต้เงื่อนไขและเจ้านายเดิมจริงหรือ?
· จะปฏิรูปตำรวจ ศาล และกองทัพอย่างถอนรากถอนโคนอย่างไร?
เรื่องแบบนี้ตัดสินใจแบบแกนนอนไม่ได้ ต้องอาศัยการเสนอแนวทางที่ชัดเจนบนพื้นฐานการวิเคราะห์สังคม และการเสนอแนวที่ชัดเจนแบบนั้นแปลว่า ต้องมีองค์กรทางการเมืองหรือพรรคที่รวมตัวกันภายใต้ความคิดร่วม และแน่นอนมันจะมีหลายพรรคหลายองค์กรที่แข่งแนวกันเพื่อครองใจมวลชน แต่ถ้าผู้ที่ทำการปฏิวัติไม่รวมตัวกันทางการเมืองแบบนั้น คนอื่นจะมาช่วงชิงการนำแทน และอาจพาสังคมไปสู่การปกป้องระบอบเดิม เราเห็นชัดในกรณี ๑๔ ตุลาคมที่ไทย
หลังจากที่ป่าแตกและการล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก กระแสการปฏิเสธ “ชนชั้น” และการหันหลังให้กับการทำงานในขบวนการแรงก็เกิดขึ้น การปฏิวัติที่อียิปต์พิสูจน์ว่าคนเสื้อแดงต้องขยันในการจัดตั้งทางการเมืองในขบวนการแรงงานไทย เพื่อใช้อำนาจทางเศรษฐกิจกดดันอำมาตย์ผ่านการนัดหยุดงาน
สิ่งที่ทำให้ประชาชนอียิปต์โกรธแค้นคือเรื่องการตกงาน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความเป็นเผด็จการของรัฐบาล และการที่อำมาตย์เหยี่ยบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เมื่อคืนก่อนที่มูบารักจะลาออก มูบารักออกโทรทัศน์และเรียกประชาชนอียิปต์อย่างดูถูกดูหมิ่นว่าเป็น “ลูก”
ดังนั้นถ้าเราจะล้มอำมาตย์ไทย เราต้องมีข้อเรียกร้องทางเศรษฐกิจและการเมืองพร้อมกันที่ครองใจประชาชนได้ และชี้ทางไปสู่การสร้างศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนที่ถูกสอนมาตลอดว่าเป็นแค่ฝุ่นใต้ตีน
การปฏิวัติอียิปต์จะแพร่หลายไปสู่ประเทศต่างๆ ที่ปกครองโดยทรราชในตะวันออกกลาง เช่น จอร์แดน เยเมน บาห์เรน ซาอุ อัลจีเรีย โมรอโค และจะทำให้ทรราชในไทย และทรราชในจีนหนาว
การปฏิวัติอียิปต์ ถ้าไปในทิศทางที่เสริมชัยชนะของประชาชน จะลดอิทธิพลของจักรวรรดินิยมสหรัฐ มหาอำนาจตะวันตก และอิสราเอล ในตะวันออกกลาง และจะสร้างความหวังให้ชาวปาเลสไตน์
จงร่วมกันฉลองชัยชนะของประชาชนอียิปต์ แต่ฉลองเสร็จจงลงมือทำงานการเมืองต่อไป ประชาชนจงเจริญ!! ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!!
--
ติดตามงานของใจ อึ๊งภากรณ์
http://wdpress.blog.co.uk/
http://redsiam.wordpress.com/