WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, February 10, 2011

ชาตินิยม: ชีวิตของชาวบ้านตาดำๆ กับวาระซ่อนเร้นของการเมืองภายในประเทศ

ที่มา ประชาไท

สืบเนื่องจากการปะทะกันของทหารไทยและทหารกัพูชาบริเวณพื้นที่พิพาทชายแดนเมื่อวันศุกร์ที่แล้วทั้งผู้นำไทยและผู้นำกัมพูชา ก็ต่างสาดโคลนใส่กันโดนการกล่าวหาอีกฝ่ายว่า เป็นฝ่ายรุกล้ำหรือเริ่มยิงก่อน ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโกหกเป็นแน่แท้ การปะทะดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ใช่เวลาที่คนไทยมารวมใจเป็นหนึ่งสนับสนุนผู้นำของตนในการสาดโคลนใส่อีกฝ่ายอย่างไร้การตั้งคำถามหากนี้เป็นเวลาที่ประชาชนของทั้งสองประเทศควรจะตั้งสติให้มั่นตั้งคำถามกับคำพูดและการกระทำของผู้นำของตนตรวจสอบเรื่องราวและข้อเท็จจริงของสงครามการปะทะพร้อมทั้งประณามสงครามอย่างแข็งกร้าว

การปะทะครั้งนี้ ได้ทำให้หลายชีวิตต้องไม่มีที่อยู่อาศัย บาดเจ็บและล้มตายไปเป็นจำนวนไม่น้อยแล้วและคนเหล่านี้หาใช่นักการเมืองและนักการทูตปากเก่งที่กรุงเทพฯ และพนมเปญรวมทั้งไม่ใช่กลุ่มชาตินิยมหัวรุนแรงที่ออกมาร้องหาสงครามอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแต่เป็นชาวบ้านตาดำๆ และพลทหารเล็กๆ ของทั้งสองประเทศ

นี้จึงควรเป็นเวลาที่เราได้ตระหนักเห็นถึงความเลวร้ายของลัทธิชาตินิยมซึ่งทำให้คนตาบอดต่อเหตุผล และนำไปสู่การอาฆาตเกลียดชังทำลายล้างกันของมนุษย์

ขณะที่สื่อไทยนั้นกระตือรือร้นเสียเหลือเกินในการรายงานยอดตัวเลขคนไทยที่บาดเจ็บและเสียชีวิตและยังให้น้ำหนักกับคำพูดของผู้นำฝ่ายตนอย่างไม่ตั้งคำถามสื่อกัมพูชาก็คงกำลังประพฤติมิตนไม่ต่างกัน

คนไทยคลั่งชาติจำนวนหนึ่งได้เรียกร้องให้ทำลายวัดพุทธที่สร้างขึ้นโดยชาวกัมพูชาในบริเวณพื้นที่พิพาทราวกับว่าไม่มีอะไรผิดตรงไหน ที่จะเรียกร้องแบบนั้นแม้ว่าพวกเขาเป็นชาวพุทธคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเป็นสถานการณ์กลับกันที่มีวัดพุทธสร้างโดยชาวไทยตั้งอยู่ในพื้นที่พิพาทบ้างชาวไทยพุทธจำนวนมากคงออกมาประณามชาวกัมพูชาที่เรียกร้องเช่นนั้นว่าเป็นพวก "ไอ้ชาวพุทธจอมปลอม"

ในใบปลิวหนึ่งของกลุ่มคนไทยรักชาติ ซึ่งนำโดยนายวีระ สมความคิด มีเนื้อหาที่มุ่งย้ำเตือนให้คนอ่านเห็นว่า "ดินแดนของประเทศสยาม"นั้นถูกเฉือนไปให้กับสองประเทศอาณานิคมใหญ่อย่างอังกฤษและฝรั่งเศสหลายครั้งหลายคราหากทว่าใบปลิวนี้หาได้มีการพูดถึงเมื่อครั้งประเทศสยามไปรุกรานประเทศเพื่อนบ้านจนไปยึดครองพื้นที่ของประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นของตนซึ่งหากไม่มีการรุกรานครั้งนั้นเพื่อนบ้านของไทยก็น่าจะเป็นเจ้าของแผ่นดินผืนนั้นในทุกวันนี้

ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่บริเวณอีสานตอนล่าง ซึ่งคนท้องถิ่นส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดที่เป็นชายแดนไทย-กัมพูชานั้นเป็นคนไทยที่มีเชื้อสายเขมรและคนส่วนใหญ่ในแถบนั้นก็ยังคงพูดภาษาเขมรอยู่

กลับไปที่เหล่านักการเมืองและนายพลระดับสูง แน่นอนว่าไม่ผู้นำไทยก็ผู้นำกัมพูชาต้องโกหก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝ่ายเปิดฉากการปะทะก่อน แต่คุณจะเชื่อจะเชื่ออภิสิทธิ์เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนไทยเหมือนคุณและคนกัมพูชาก็เชื่อฮุนเซ็นเพราะเป็นคนกัมพูชาเหมือนกันด้วยเหตุผลเพียงเพราะผู้นำคนนั้นเป็นคนชาติเดียวกับคุณอย่างนั้นหรือ

การเชื่อตามผู้นำง่ายๆ เช่นนี้ย่อมนำมาสู่ปัญหา แทนที่ฟังแล้วเชื่อเลยสิ่งแรกที่ต้องถามคือ ใครจะเป็นคนได้ประโยชน์หากมีการปะทะเกิดขึ้นเราควรจะถามด้วยว่า ทำไมปัญหานี้จึงแก้ด้วยสันติวิธีไม่ได้เสียที

ลองมาคิดเล่นๆ ดูว่ากองทัพไทยหรือกองทัพกัมพูชาจะได้งบประมาณจัดซื้ออาวุธเพิ่มเติมถ้าหากเกิดสงครามขึ้นหรือไม่?ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงงบประมาณดังกล่าวก็ก็แลกมาด้วยเงินภาษีของประชาชนความเดือนร้อนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ชายแดนรวมถึงชีวิตของพลทหารและชาวบ้านที่ต้องตายไป และเป็นไปได้ไหมว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะมีคนต้องการสร้างสถานการณ์ให้วุ่นวายเพื่อเป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร

เหตุการณ์ทั้งหมดดูไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างยิ่ง เริ่มตั้งแต่ที่อยู่ดีๆกลุ่มของนายวีระก็เดินทางไปที่พื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาจนเกิดการจับกุมตัวของคนไทยทั้งเจ็ดคนจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตเป็นเหตุให้กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติออกมาประท้วงพักค้างแรมหน้าทำเนียบตามด้วยการประท้วงของพันธมิตรฯซึ่งเรียกร้องให้ใช้กำลังทหารในการจัดการกับปัญหาชายแดนเกิดเป็นแรงกดดันไปที่ชายแดนมีการเสริมกำลังทหารไปตรึงที่ชายแดนทั้งสองฝ่ายและต่อมาก็เกิดการปะทะในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ผู้เขียนนั้นไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชามีวาระซ่อนเร้นหรือจะได้ประโยชน์อันใดจากการปะทะครั้งนี้หรือไม่ แต่ท้ายสุดแล้วทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาก็ควรพินิจพิจารณาคำพูดและการกระทำของผู้นำของประเทศตนอย่างรอบคอบอย่าตกเป็นเหยื่อของวาระซ่อนเร้นทางการเมืองภายในประเทศรวมทั้งอย่าได้ให้มีชีวิตไหนต้องมาและกับผลประโยชน์ของนักการเมืองและนายทหารบางคนอีกเลย

เมื่อเราเห็นความยิ่งใหญ่ของพิรามิดกิซ่าที่อียิปต์ ทัชมาฮาลที่อินเดียและนครวัดที่กัมพูชา เราไม่ควรแค่ตะลึงในความยิ่งใหญ่ของมันหากควรพึงระลึกไว้ด้วยว่ากว่าจะได้มาซึ่งความยิ่งใหญ่ของสิ่งอัศจรรย์เหล่านี้ต้องแลกมาด้วยชีวิตและหยาดเหงื่อแรงงานของทาสจำนวนนับหมื่นนับแสน

ฉันใดก็ฉันนั้น ลัทธิชาตินิยก็มีด้านที่น่ารังเกียจอยู่พอๆ กัน