ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
สมิงสามผลัด
ยังไม่จบลงง่ายๆ ปัญหาการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชาตามแนวชายแดน
ถึงแม้ว่าจะไม่มีการยิงถล่มกันแหลกเหมือนช่วง 2-3 วันแรกๆ
แต่ความตึงเครียดไม่ได้ลดน้อยลง
การตรึงกำลังยังมีอยู่ทั้งสองฝ่ายด้วยความหวาดระแวง
คาดเดาไม่ได้เลยว่าเมื่อไหร่เสียงปืนใหญ่ปะทุอีก
ความเดือดร้อนตกไปอยู่กับชาวภูมิซรอลหลายหมื่นคนที่ต้องอพยพทิ้งบ้านช่อง
ใช้ชีวิตรวมกันที่ศูนย์อพยพอย่างอเนจอนาถ
ชีวิตที่เคยสงบสุขอยู่กันแบบสันติไม่มีให้เห็นอีกแล้ว
ตรงนี้ต้องถือว่าการเจรจาในระดับผู้นำล้มเหลว
ไล่มาตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยันนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ
ต้องย้ำอีกทีว่านายอภิสิทธิ์โทร.ไปคุยกับเขมรหรือยัง
ถ้าโทร.ไป แล้วฮุนเซนยอมรับสายหรือเปล่า !?
เบื้องหลังลึกๆ ปัญหาความขัดแย้งของ 2 ชาติ ไม่น่าจะเป็นแค่พื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหารอย่างเดียว
ต้องมีเรื่อง "ส่วนตัว" ผสมโรงเข้าไปด้วยแน่ๆ
ความกินแหนงแคลงใจของนายกฯ มาร์ค กับ นายกฯ ฮุนเซน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ปัญหานี้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้การเจรจาแบบทวิภาคีไม่จบ
ส่อแววจะขยายวงไปในเวทีโลก ซึ่งเข้าทางความเขี้ยวลากดินของฮุนเซน
อีกปัญหาที่น่าเป็นห่วงพอๆ กัน ก็พวกม็อบคลั่งชาติกระหายสงคราม
ปลุกเร้ากันจนสถานการณ์ลุกลามใหญ่โต
วันก่อนก็ปลุกระดมกันแบบนรกแตก
ขาใหญ่ม็อบเจ้าเดิมประกาศบนเวทีต่อหน้าผู้ชุมนุมที่มีกันน้อยนิด
เรียกร้องให้กองทัพอากาศส่งฝูงบินรบบุกเข้าไปยึดให้หมดทั้งเสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ
ยึดเอาเป็นเมืองขึ้นไว้ต่อรองให้กัมพูชาคืนปราสาทพระวิหารให้ไทย
บ้าไปแล้ว คิดได้ยังไงเนี่ย
ทำให้นึกถึงลัทธิขวาตกขอบ ระบอบฟาสซิสต์ นึกถึงยุค จอมพล ป.
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ไปไล่ยึดเมืองเหล่านี้ แล้วผลออกมาเป็นยังไง
สุดท้ายไทยต้องสูญเสียอะไรต่อมิอะไรไปเยอะ
รวมถึงปราสาทพระวิหารด้วย
นี่คือผลพวงของการกระหายสงคราม
แต่ยังไม่หยุดแค่นี้สำหรับม็อบขวาตกขอบ
ทางหนึ่งโหมกระแสชาตินิยมบ้าสงคราม
อีกทางหนึ่งก็เดินเกมใต้ดิน
หวังโค่นนายกฯ รูปหล่อที่เคยอุ้มชูกันมา
เพราะไม่ตอบสนองกันเหมือนตอนเป็นรัฐบาลใหม่ๆ
เป้าหมายคือล้างไพ่รัฐบาล สกัดแผนยุบสภาเลือกตั้งใหม่
เพราะกลัวระบอบทักษิณจะคืนชีพ
วงจรอุบาทว์กำลังวนกลับมาอีกรอบ
ถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าบ้านเมืองจะเสียหายอีกเท่าไหร่