WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, February 7, 2011

คดีทนายสมชายเลื่อนอ่านอุทธรณ์อีก เหตุจำเลยไม่มาศาล ออกหมายจับแล้ว

ที่มา ประชาไท

คดี "ทนายสมชาย" เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีก ออกหมายจับ “สารวัตรเงิน” ไม่เชื่อจำเลยหายสาบสูญ


ภาพจาก http://somchaiaward.org

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หมายเลขดำที่ ด.1952/2547 คดีอุ้ม นายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และ นางอังคณา ภรรยา รวมทั้งบุตร 4 คน ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก อายุ 49 ปี อดีต สว.กอ.รมน.ช่วยราชการกองปราบปราม, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ อายุ 42 ปี อดีตพนักงานสอบสวน กก.4 ป., จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง อายุ 40 ปี อดีต ผบ.หมู่งานสืบสวน แผนก 4 กก.2 บก.ทท., ส.ต.อ.รัน ดร สิทธิเขต อายุ 38 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการ กก.4 ป. และ พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน อายุ 45 ปี อดีต รอง ผกก.3 ป.เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย

โดยเมื่อถึงเวลานายประกันของ พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนอ่านคำพิพากษา เนื่องจากยังอยู่รอฟังคำสั่งการไต่สวนบุคคลสาบสูญของศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งญาติ พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำร้องระบุว่า พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 หายสาบสูญในเหตุการณ์คันกันน้ำถล่ม ที่เขื่อนแควน้อย จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 19 ก.ย.51

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ศาลจังหวัดปทุมธานียังไม่มีคำสั่งว่า ให้จำเลยที่ 1 เป็นบุคคลสาบสูญ ขณะที่ นายประกันมีหน้าที่ต้องนำตัวจำเลยมาส่งศาลฟังคำพิพากษา แต่ไม่ได้นำตัวมา จึงถือว่าผิดสัญญาประกัน ให้สั่งปรับนายประกันตามสัญญา (จำนวน 1.5 ล้านบาท) โดยให้ชำระเงินภายใน 15 วัน ส่วนจำเลยที่ 1 ถือว่าทราบนัดแล้วไม่มาศาล เชื่อว่าพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 1 เพื่อมาฟังคำพิพากษา และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้ง 11 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. โดยให้ปิดประกาศหน้าศาลอาญา

ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย กล่าวภายหลังศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ว่า ยังหวังว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งพิพากษาลงโทษ พ.ต.ต.เงิน เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า พ.ต.ต.เงิน กระทำความผิด และหากในวันที่ 11 มี.ค.นี้ จำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถดำเนินการจับกุมจำเลยมาตามหมายจับได้ ก็ไม่ได้แสดงว่า พ.ต.ต.เงิน เป็นบุคคลสูญหาย ตามที่ญาติของจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาล จ.ปทุมธานี เนื่องจากการหลบหนีหมายจับเป็นได้ในหลายกรณี และเชื่อว่าการไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล เป็นการหลบหนีความผิด และส่วนตัวเชื่อว่า พ.ต.ต.เงิน ยังมีชีวิตอยู่

ขณะที่ นางอังคณา ยังยอมรับว่า มีความแคลงใจจำเลยอีก 4 คน ที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากมีหลักฐานการใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ และช่วงเวลาเดียวกัน กับจำเลยที่ 1 ในขณะที่ก่อเหตุ โดยนางอังคณา ยังตั้งคำถามถึงเรื่องของช่องว่างทางกฎหมาย เกี่ยวกับกรณีที่จำเลยเป็นบุคคลสาบสูญ หรือสูญหายระหว่างการพิจารณาคดีด้วยว่า จะมีขั้นตอนการพิจารณาอย่างไร

สำหรับคดีนี้ โจทก์ยื่นฟ้องพวกจำเลย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.47 บรรยายสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.47 จำเลยทั้งห้ากับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ของนายสมชาย ผู้เสียหายซึ่งหายตัวไป และลักทรัพย์เอารถยนต์ หมายเลขทะเบียน ภง 6768-กรุงเทพฯ, นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ 1 เรือน, ปากกายี่ห้อ มองบลังค์ 1 ด้าม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รวมราคาทรัพย์ทั้งสิ้น 903,460 บาท โดยพวกจำเลยได้ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ผลัก และฉุดกระชากตัวนายสมชาย ให้เข้าไปในรถยนต์ของจำเลยทั้ง 5 แล้วจับตัวพาไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่านายสมชาย จะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ต่อมา วันที่ 16 มี.ค.47 พนักงานสอบสวนยึดรถยนต์ของนายสมชาย ผู้เสียหาย ที่ถูกจำเลยทั้ง 5 ร่วมกันปล้นทรัพย์ไปดังกล่าว เป็นของกลาง ต่อมา วันที่ 8 เม.ย.47 จำเลยที่ 1-4 เข้ามอบตัว และวันที่ 30 เม.ย.47 จำเลยที่ 5 เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 5 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมา ศาลมีพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค.49 ว่า การกระทำของ พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 เป็นความผิดตาม ม.309 วรรคแรก และ ม.391 พิพากษาให้จำคุก 3 ปี ส่วนความผิดฐานปล้นทรัพย์ แม้ข้อเท็จจริงได้ว่าจำเลยที่ 1 กับพวกขับรถนายสมชาย ไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ก็เพื่ออำพรางหลบหลีกการสืบสวนจับกุม ไม่แสดงให้เห็นเจตนาว่าพวกจำเลยประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนทรัพย์สินอื่นก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยที่ 1 กับพวกได้นำทรัพย์สินไปจริงหรือไม่ จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานปล้นทรัพย์

ส่วนจำเลยที่ 2-5 พิพากษายกฟ้อง ต่อมา อัยการโจทก์ และโจทก์ร่วมยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยด้วย

ที่มา: เว็บไซต์เดลินิวส์