ที่มา Thai E-News
สื่อ กระแสหลักของไทยคงไม่ใช่แค่แถขั้นเทพ วันที่มีการจับกุมสมยศที่ด่านตม.นั้น มีการรายงานข่าวทางสื่อกระแสหลักว่าสมยศกำลังหลบหนีเข้าไปในกัมพูชา อันเป็นข้ออ้างต่อมาไม่ให้ประกันตัว โดยอ้างว่ามีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งที่ความจริงเป็นอีกเรื่อง
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา Asia Update TV
รายการ ที่นี่ความจริง ตอนวันที่ 10 พฤษภาคม ทางโทรทัศน์ Asia Update-DNN ดำเนินรายการโดย 3 นักวิชาการสาวหัวใจประชาธิปไตย ผศ.ดร.สุดา รังกุพันธ์ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อาจารย์หวาน) ,รศ.สุดสงวน สุธีสร อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อาจารย์ตุ้ม) และ ผศ.ดร.จารุพรรณ กุลดิลก อาจารย์พิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (อาจารย์จา)
รายการที่นี่ความจริง วันจันทร์ที่ 9ที่ พฤษภาคม 2554
การที่อ.จา ได้ไปให้ความเห็นเรื่องการส่งเสริมบทบาทพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย กับช่อง Thai PBS แล้วได้เจอกับความคิดที่ไม่เชื่อถือในประชาชนและประชาธิปไตย จากผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนทั้งสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เอ็นจีโอ สว.แต่งตั้ง ซึ่งไม่เชื่อในประชาชน การเลือกตั้ง เหล่าปัญญาชนก็ไม่มีความสนใจในประชาชน
สื่อสาธารณะอย่าง Thai PBS เองก็ไม่ได้นำเสนอปัญหาของประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นปัญหาอย่างร้ายแรงของสังคมไทย ที่คนในกลุ่มต่าง ๆ ไม่เคยเห็นค่าในอำนาจของประชาชน และเมื่อมีการกล่าวว่าการเลือกตั้งเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของประชาธิปไตย แต่แค่เศษเสี้ยวนี้ชนชั้นสูงก็ไม่ยอมมอบให้ประชาชน กลับมีการฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยมจนองค์กร Human Rights Watch เรียกเป็นการฆาตกรรมอย่างเลือดเย็น และยังบอกอีกว่าฝ่ายรัฐปกปิดความจริง
ในกรณีเรื่องของ Human Rights Watch นั้น นายสุเทพได้ออกมาไล่ Human Rights Watch กลับไปสืบคดีของจอห์น เอฟ เคเนดี้ และบอกว่าคนของรัฐบาลยังสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ แต่ผู้ปฏิบัติงานในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ นั้นก็ไม่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้แทรกแซงและยับยั้งการทำงานขององค์การนิรโทษกรรมสากลในประเทศ ไทยและมาเลเซีย ไม่ให้มาสืบค้นหาข้อเท็จจริง และฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของทนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม
การปิดกั้นสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของรัฐไทยยังไม่สิ้นสุดแค่นั้น มีการจับกุมตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin และ Red Power ด้วยมาตรา 112 และมีการใส่ร้ายว่าพยายามหนีออกนอกประเทศทั้ง ๆ ที่คุณสมยศมีหน้าที่จัดทัวร์นำเที่ยวกัมพูชาอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นการขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชน