ที่มา Thai E-News
โดย ปาแด งา มูกอ
10 พฤษภาคม 2554
พอ นายอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ผมก็เข้ามาอ่านข่าวในเวบไทยอีนิวส์ ดูตรงโพลล์มุมขวาบน โอโฮ ปรากฎว่าคนอ่านอยากให้น้องสาวอดีตนายกฯทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีตั้ง 55%นำคนอื่นซะลิ่วเลย...
ผมงดออกเสียงครับ..!! ผมขอคัดค้านครับ..!!
นี่คือเสียงบ่นภายในใจที่เผลอไผลไปโหวตช่องลงคะแนนของ ไทยอีนิวส์เรื่อง “ท่านอยากให้ใครเป็นนายกฯ”
ที แรกก็พลอยยินดีและภูมิใจแทน คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คะแนนของเธอกำลังนำแบบทิ้งห่างคู่ต่อสู้ ก็เลยโหวตไปให้ 1 คะแนน แต่พอได้สติ อารมณ์ขุ่นมัวก็บังเกิดขึ้น นี่ผมกำลังมีส่วนร่วมในการลากหญิงสาวคนหนึ่ง ให้ลงมาตกในขุมนรกทางการเมืองโคตรบัดซบของประเทศไทย แล้วหรือนี่...!!!!
ขอ ประทานโทษ ผมเองในฐานะเป็นคนอ่านไทยอีนิวส์คนหนึ่ง และได้เขียนมาร่วมสนุกเป็นการแบ่งปันความเห็นกัน อย่าหาว่าผมไปชี้แนะชี้นำอะไรเลย ผมขออนุญาตเตือนสติ คุณยิ่งลักษณ์ฯ ในฐานะเพื่อนมนุษย์คนไทยคนหนึ่ง พร้อมกับเตือนสติพี่น้องชาวไทย,พี่น้องเสื้อแดงทุกท่าน รวมทั้ง อดีตนายกทักษิณที่เป็นพี่ชายแต๊ๆ พี่เหลิม ดาวเทียม ที่ผมรักและเคารพ ตลอดจนสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกท่าน
ผมขอวิงวอนเถอะครับ อย่างลาก อย่าจูง อย่าเชียร์ ให้คุณยิ่งลักษณ์ฯมาเล่นการเมืองเลย ผมขอร้องเถอะ
ที่สำคัญอย่าไปหลงเชื่อนิยายลมๆแล้งๆว่า คุณยิ่งลักษณ์ฯ เธอคือ “นารีขี่ม้าขาว” เป็นอันขาด เพราะนั่นคือ อุปทาน อันยิ่งใหญ่ของคนไทยบางคนที่หลงเชื่อว่าตนเองกลับชาติมาเกิดใหม่ มาเป็นอะไรไม่รู้ในชาตินี้ จนลามไปถึงคนอีกหลายคนที่พลอยบ้าตามไปด้วย ประเทศชาติมันถึงได้วุ่นวายชิบหายมาจนทุกวันนี้
ที่ผมขอวิงวอน ขอร้อง ไม่ต้องการให้คุณยิ่งลักษณ์ฯเข้าสู่เส้นทางการเมือง ก็ด้วยเหตุผลดังนี้ ครับ
แต่คุณยิ่งลักษณ์ฯเธอเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้เท่านั้น
สอง คุณยิ่งลักษณ์ฯ ไม่มีฐานหรือความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ต่อ กลเกมทาง การเมืองของประเทศไทยว่ามันโคตรบัดซบขนาดไหน (เรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์ฯอาจจะเริ่มเรียนรู้แล้วก็ได้ เพราะพี่ชายแต๊ๆของเธอได้ผ่านประสบการณ์มาแล้วอย่างอ่วมอรทัย ของการเมืองโคตรบัดซบอันนี้ )
ประเด็นปัญหาที่สำคัญที่สุด คุณยิ่งลักษณ์ฯต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบันนี้ประเทศชาติของเรา กำลังถูกรุมล้อมด้วยสารพัดปัญหา และแต่ละปัญหา มันจะไม่สามารถแก้ได้เหมือนดั่งเช่นปัญหาภาคธุรกิจที่คุณยิ่งลักษณ์ชำนาญ อยู่แล้ว แต่ปัญหาของประเทศชาติในขณะนี้ คนที่มาแก้ปัญหาจะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถของตัวเองจริงๆ จะเป็นเพียงนักบริหารกุมนโยบายอย่างนายกมาร์คไม่ได้อีกแล้ว ชาติบ้านเมืองมันจะชิบหายวายวอดหนักลงไปอีก แค่นี้ก็หายนะพอแล้ว
ขอ ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ 1 ตัวอย่าง ปัญหาไฟใต้ ผมถามคุณยิ่งลักษณ์ฯ ว่า หากคุณยิ่งลักษณ์ฯได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คุณจะมีวิธีแก้ไขปัญหาไฟใต้อย่างไร..? ลองตอบดูในใจก็ได้น่ะครับ แต่ห้ามตอบแบบรัฐบาลที่ว่าเรามาถูกทางแล้ว สถิติคนตายลดลงอย่างน่าสะพรึงกลัว
เพียงคำถามข้อนี้ข้อ เดียว คุณยิ่งลักษณ์ฯก็จะนอนไม่หลับไป 3 คืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกหนักทางภาคใต้ หากพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน นั่นหมายถึงคุณยิ่งลักษณ์ฯจะนอนไม่หลับไปตลอดจนครบเทอมของการเป็นรัฐบาล ปัญหานี้พี่ชายแต๊ๆของคุณยิ่งลักษณ์ฯเจอมาแล้ว ลองถามดูว่าพี่แม้วนอนหลับหรือไม่ช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน
แต่เพื่อไม่ให้เป็นการเสียกำลังใจ ผมขอแนะนำคุณยิ่งลักษณ์ฯ ว่า ลักษณะบุคลิกของคน ความรู้ความสามารถของคุณ เหมาะที่สุด สำหรับการเป็น แกนนำกลุ่มมวลชนในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองภาคประชาชน
ใน โลกปัจจุบันและในสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศไทยเวลานี้ ต้องยอมรับว่า สตรี คือตัวแปรที่สำคัญที่สุดในทุกๆวงการ (อันนี้ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนสมัยซูสีไทเฮาน่ะครับ)
สตรี มีดีเหนือกว่า บุรุษ หลายสิ่งหลายประการ 1.ใจเย็น 2.สุขุมรอบคอบ 3.อ่อนหวาน 4.จริงจัง 5.ไม่คดโกง (อาจมีบ้างเรื่องโควต้งโควต้าที่นายสั่งมา)
ไหนๆประชาชน,กลุ่มพลัง แดงทั้งแผ่นดิน, กำลังส่งเสียงเชียร์กันอย่างเอาจริงเอาจัง คุณยิ่งลักษณ์ฯสนองตอบทันทีได้เลยในการเป็นแกนนำกลุ่มพลังแดงทั้งแผ่นดิน หรือ RED PEACE เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองภาคประชาชน นำมวลชนคนเสื้อแดงทั้งประเทศไปสู่อีกมิติหนึ่ง
มิติของความเป็นจริง ความเท่าเทียม ความถูกต้อง ความยุติธรรม ผมให้เวลาอย่างช้าไม่เกิน 3 ปี องค์กรมวลชนคนเสื้อแดง จะทรงอิทธิพลมากที่สุดในประเทศไทย และจะนำพาประเทศไทยไปสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งความหวังร่วมกันไว้ได้อย่าง ถาวร
จะไม่มีพรรคการเมืองใดองค์กรใดๆ ตลอดจนกลุ่มคนในเครื่องแบบที่ทรงอิทธิพลมาช้านานของประเทศนี้ จะมาต่อกรได้ เชื่อผมเถอะครับ
อย่าง ไรเสียอย่าลืมโหมโรงที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก่อนน่ะครับ เป็นการประเดิมชัย เพราะสตรีมุสลิมที่นี่ ที่ทำงานเสียสละเพื่อประชาชน มีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการหาแกนนำหลักที่เพียบพร้อมในทุกๆด้านอย่างเช่นคุณ ยิ่งลักษณ์ฯนี่ล่ะครับ
ที่สำคัญอย่าลืมปรมาจารย์สามสาวนักวิชาการผู้จุดประกายแห่งการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ด้วยก็แล้วกัน สามท่านนี้ลืมไม่ได้เด็ดขาด ....
