WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, May 8, 2011

แดงประกบไอ้โม่ง

ที่มา ข่าวสด

จัดทีม-ตามจับตา แทรกแซงเลือกตั้ง


′ ณัฐวุฒิ′ ปลุกเสื้อแดงอาสาจับตาไอ้โม่งแทรกแซงเลือกตั้ง ระดมประกบทุกฝีก้าวเตรียมกระชากหน้ากากออกมาให้ชาวบ้านรู้ เผยมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษแทรกซึมไปอยู่พื้นที่บ้างแล้ว ด้าน ′จตุพร′ เผยแนวจัดงานครบ 1 ปี 19 พ.ค.เน้นทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่วีรชนที่เสียชีวิตเป็นหลัก ผบ.พล.ร.7 โต้ยันปราบเสื้อแดงเหนือไม่ใช่ภารกิจ นักวิชาการด้านนิเทศศาสตร์แฉรัฐบาลมาร์คเสรีภาพสื่อตกต่ำสุด มุ่งเดินหน้าปิดปากปิดตาจนเป็นธรรมเนียมไปแล้ว ทั้งวิทยุชุมชน ทีวีดาว เทียม รวมถึงเว็บไซต์ 4 แสนเว็บไซต์

เมื่อวันที่ 7 พ.ค. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงการเลือกตั้งว่า ตามที่ได้รับข้อมูลว่าขณะนี้มีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้ลงพื้นที่สนามเลือกตั้ง เพื่อหวังแทรกแซงการเลือกตั้ง คนเสื้อแดงจึงจะจัดชุดปฏิบัติการพิเศษเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่าทีมกระชากหน้ากากไอ้โม่ง โดยจะรับอาสาสมัครคนเสื้อแดง ให้ถอดเสื้อแดงออก แล้วตามประกบพวกเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านี้ เพราะขณะนี้เริ่มสแกนพบเจ้าหน้าที่รัฐเริ่มลงพื้นที่แล้ว บางคนปลอมตัวมาเป็นช่างไฟฟ้า มาเช่าบ้านในพื้นที่ และเมื่อเราประกบไอ้โม่งได้ก็จะเก็บข้อมูลทั้งหมดแล้วนำมาเปิดเผยให้ประชาชน ได้รับทราบ ก่อนการเลือกตั้งอาจจะจัดนิทรรศการเปิดหน้ากากไอ้โม่งเพื่อให้ประชาชนได้รับ ทราบข้อเท็จจริงจะได้ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนพรรคการ เมืองไหนกันแน่

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำนปช. กล่าวถึงการเตรียมการจัดงานรำลึกเหตุการณ์ 19 พ.ค. ว่า เข้าใจว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง รูปแบบของงานรำลึกก็จะเป็นงานบุญครั้งใหญ่ เป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่เสียชีวิต เข้าใจว่าคนจะมารวมกันที่ราชประสงค์จำนวนมาก รวมทั้งที่วัดปทุมวนาราม ส่วนเรื่องการพูดจาปราศรัย แกนนำนปช.ที่เป็นผู้สมัคร ส.ส. ก็คงต้องระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายเลือกตั้งได้

นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอถอนประกันในวันที่ 9 พ.ค.ที่จะถึงนี้ว่า ตนได้ยื่นร้องต่อศาลเพื่อขอให้จำหน่ายจำเลยคนอื่นออกไป ให้เหลือเพียงตนคนเดียว เพราะเนื้อหาสาระที่อัยการและดีเอสไอพยายามเชื่อมโยงในศาล เป็นเรื่องการปราศรัยเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเงื่อนไขการประกันตัวจนเป็นเหตุให้ถอนประกันเลยแม้แต่ นิดเดียว ซึ่งที่จริงแล้วในกรณีคำปราศรัย ก็มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ก็ควรจะใช้ช่องทางดังกล่าว ไม่ใช่นำคดีอื่นมาสอดแทรกในการถอนประกัน ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ศาลจะพิจารณาอย่างไรก็ยอมรับทั้งนั้น

วันเดียวกัน พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี รองผบ.พล.ร.7 ทำหน้าที่ผบ.พล.ร.7 ให้สัม ภาษณ์ผ่านรายการ ลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกระแสข่าวการตั้งพล.ร.7 ขึ้นมา เพื่อจัดการคนเสื้อแดงว่า พล.ร.7 จัดตั้งหน่วยแล้วเมื่อ 29 เม.ย.ที่ค่ายขุนเณร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งกองพลทหารราบที่ 4 (พล.ร.4) จะส่งมอบหน่วย คือ กรมทหารราบที่ 7 (ร.7) และกรมทหารราบที่ 17(ร.17) กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 (ป.พัน.7) และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 17 (ป.พัน.17) มาให้ขึ้นการบังคับบัญชากับพล.ร.7 ในวันที่ 10 พ.ค.นี้

พ.อ.สุทัศน์ กล่าวว่า ภารกิจของกองทัพภาคที่ 3 คือ การดูแลชายแดน การปกป้องอธิปไตย การสกัดกั้นยาเสพติด และความมั่นคง ทำให้การมีแค่ พล.ร.4 กองพลเดียวไม่เพียงพอ จึงต้องตั้ง พล.ร.7 ขึ้นมา ความจริงต้องพูดว่า ทำไมเพิ่งจะมาตั้งด้วยซ้ำ ส่วนที่ถูกจับตามองว่าภารกิจแฝงคือการดูแลคนเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือ ที่เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้น ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ในกระแสในพื้นที่แล้ว เพราะตั้งแต่ตั้งหน่วยมาเรามีมวลชนมาร่วมงาน หน่วยเราเปิดกว้างสำหรับประชาชน ไม่แบ่งแยกว่าสีอะไร พล.ร.7 เหมือนเป็นบ้านเก่าของตน และเป็นบ้านของประชาชนด้วย มีอะไรก็พูดคุยกัน เชื่อว่าในพื้นที่นี้ไม่มีปัญหาแล้ว เพราะคุยกันได้

พ.อ.สุทัศน์กล่าวว่า ส่วนที่มองพล.ร.7 ตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับคนเสื้อแดงนั้น ในพื้นที่เขาเลิกคิดแบบนี้กันแล้ว เพราะได้ทำความเข้าใจพูดคุยกับชาวบ้านจนตอนนี้ เรามาร่วมกันคิดแล้ว เราจะร่วมกันแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมืองกันอย่างไรที่ไม่สุดโต่งเกินไป เพราะเราอยากให้บ้านเมืองเรากลับมาสงบสุขโดยเร็วที่สุด เมื่อบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อยเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นมา "ไม่ต้องห่วงว่า ทหารจะไปยุ่งเกี่ยวการเมือง ในสถานการณ์เช่นนี้ ทหารก็ยังจะคงเป็นทหารอาชีพได้อยู่เพียงขอให้ยึดคำปฏิญาณตนอย่างเคร่งครัด"

ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ (มธ.) มูลนิธิโครงการตำราสังคม ศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มธ. ร่วมกับคณะศิลปศาสตร์ มธ. ร่วมกันจัดงานมุทิตาจิต "ชุมนุมปาฐกถา 70 ปี นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ"

นางอุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์ อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวในหัวข้อ "สิทธิเสรีภาพ หลังทักษิณ" ว่า สิทธิและเสรีภาพหลังยุคพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในมุมมององค์การต่างประเทศมองว่า ยุคนั้นไม่ยอมฟังคำวิจารณ์จากองค์กรต่างประเทศ หลังจากนั้นในยุคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ก็ถูกมองเช่นเดียวกัน รวมทั้งสื่อกระแสหลักของไทย ก็สยบยอมรับรัฐบาลชุดนี้มากขึ้น

นางอุบลรัตน์ กล่าวว่า การตรวจสอบขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน เน้นการสำรวจในเรื่องของการถูกคุมขัง ข่มขู่ คุก คาม เซ็นเซอร์ โดยสำรวจดัชนีเสรีภาพของสื่อมวลชนจำนวน 167 ประเทศ ก่อนปี 2549 ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 107 ซึ่งถือว่าอยู่ในลำดับที่สูงที่สุดที่ได้รับมา แต่ หลังรัฐประหาร ประเทศกลับมีลำดับที่ลดลงใน ปี 2549 อยู่ลำดับที่ 122 กระทั่งปี 2553 ไทยอยู่ในลำดับที่ 153 ซึ่งถือว่าเป็นลำดับที่ต่ำที่สุดโดยช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการปราบปรามประชาชน ที่ถ.ราชดำเนิน และสี่แยกราชประสงค์ ถือเป็นลำดับเกือบรั้งท้ายของการสำรวจ สาเหตุเกิดจากการปะทะของกลุ่มการเมือง ทำให้ต้องมีการปิดกั้นสื่อเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

นางอุบลรัตน์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประเทศไทย ตกต่ำที่สุดในการจัดลำดับด้านการมีเสรีภาพ เนื่องจากมีการเซ็นเซอร์มากขึ้นในสื่อที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เช่น เว็บไซต์ ในปี 2550-2553 มีเว็บไซต์ถูกบล็อกกว่า 74,000 เว็บ และในปี 2554 ปรากฏว่ามีเว็บไซต์ จำนวน 80,000-400,000 เว็บที่ถูกปิด เป็นผลมาจากกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้มีความเข้มข้นในการใช้อำนาจปิดกั้นสื่อและเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้ประเทศไทยเดินเข้าใกล้ประเทศพม่าเข้าไปทุกที นอกจากนี้ องค์กรฟรีดอมเฮาส์ และการวัดดัชนีของสื่อเอเชียโดยมูลนิธิฟรีดิช-อีแบร์ท (ประเทศไทย) มีผลสำรวจไปในทางเดียว กันว่า ประเทศไทยไม่มีเสรีภาพ สื่อมวลชนไม่มีความเป็นวิชาชีพ ไม่มีอิสระ และถูกนำไปเกี่ยวข้องกับการเมืองมากขึ้น

"รัฐธรรมนูญปี 2550 ให้การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพพื้นฐาน แต่ก็มีกฎหมายมาคัดง้าง เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอาญา มาตรา 112 พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็นเครื่องมือในการปิดกั้นสื่อ สร้างบรรยากาศแห่งความกลัว ซึ่งในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นจะใช้วิธีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินหลายล้าน บาท แต่ปัจจุบันใช้การฟ้องร้องทางคดีอาญา ส่งประชาชนเข้าคุกนานหลายปี รัฐบาลเดินหน้าปิดสื่อท้องถิ่น วิทยุท้องถิ่น เคเบิลทีวี ทีวีผ่านดาวเทียม เว็บ ไซต์ ถูกสั่งปิดจนเป็นธรรมเนียมของรัฐบาลไปแล้ว" นางอุบลรัตน์ กล่าว