ที่มา Voice TV
วันที่ 14 พฤษภาคม 2554 คณะกรรมการปฏิรูป นำโดยนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานฯ พร้อมคณะทำงานรวม 20 คน จะมีการแถลงข่าว ลาออก จากคณะกรรมการปฎิรูป พร้อมทั้งยุติการทำหน้าที่ ทั้งนี้เป็นไปตามความประสงค์ของนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการปฎิรูป ที่ยืนยันจะลาออกก่อนวันเลือกตั้ง 7 วัน เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่ได้ตัดสินใจ เมื่อรัฐบาลที่ได้แต่งตั้งกรรมการปฎิรูป ได้ประกาศยุบสภาไปแล้ว ก็ควรจะให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ตัดสินใจ
ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ กรรมการปฎิรูป ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ HotTopic วันนี้ (13 พฤษภาคม 2554) ว่า การลาออกของคณะกรรมการปฎิรูป เพราะเป็นมารยาท เพื่อให้รัฐบาลใหม่ได้ตัดสินใจได้สะดวกมากขึ้น และไม่ต้องการตกเป็นเป้าของการโจมตี หรือการวิพากษ์ วิจารณ์ในช่วงการเลือกตั้ง
“ แม้ว่า คณะกรรมการปฎิรูป จะลาออกไปแล้ว แต่การขับเคลื่อนประเทศ ตามแนวทาง และข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูปซึ่งมีมากกว่า 20 เรื่อง ก็ยังคงขับเคลื่อนต่อไป เพราะมีสมัชชาเพื่อการปฎิรูป ซึ่งมี นพ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน รวมทั้งเครือข่ายภาคประชาชน จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนข้อเสนอแนะ เพื่อปฎิรูปประเทศต่อไป” ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวว่า
ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ ว่าคณะกรรมการปฎิรูป เป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้น ดร.เพิ่มศักดิ์ บอกว่า ก็มีวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด แต่การทำงานของคณะกรรมการปฎิรูป มีความเป็นอิสระ และเป็นตัวของตัวเอง ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการปฎิรูป ที่เสนอให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ พิจารณานั้น เป็นที่น่าเสียดายว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่เป็นข้อเสนอของคณะกรรมการ ซึ่งตัวเองตั้งขึ้นมา นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียโอกาสอย่างยิ่ง
“ น่าผิดหวัง ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่มีความตั้งใจจริง หรือจริงจังกับข้อเสนอของ คณะกรรมการปฎิรูป ทั้ง ๆ ที่บางเรื่องเป๋นเรื่องที่ ตัดสินใจได้ทันที อย่างไรก็ตาม ก็ไม่คาดหวังว่า รัฐบาลใหม่ จะเอาข้อเสนอ ของ คณะกรรมการปฎิรูป ที่เสนอไปแล้ว นำไปปฎิบัติ แต่เชื่อว่า ภาคประชาชนจึงทำหน้าที่ขับเคลื่อนนี้ต่อไป” ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าว
ดร.เพิ่มศักดิ์ กล่าวด้วยว่า อยากให้สื่อมวลชน นำเอา ข้อเสนอของ คณะกรรมการปฎิรูป ที่เสนอไปแล้ว มาเป็นประเด็น ถามพรรคการเมือง และนักการเมืองที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า เห็นด้วยหรือไม่ ถ้าไม่เห็นด้วย เพราะอะไร ซึ่งจะเกิดประโยชน์ ในแนวทางปฎิรูปประเทศอย่างแท้จริงแล