ที่มา ข่าวสด
รายงานพิเศษ
การเมืองเข้าสู่โหมดเลือกตั้งทันที เมื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯพ.ร.ฎ.ยุบสภา เรียบร้อย
ใน ส่วนของคนเสื้อแดง เมื่อแกนนำจำนวนหนึ่งตัดสินใจเปลี่ยน บทบาทมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว สลัดภาพนักเคลื่อนไหวนอกสภามาสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนน ชาวบ้าน
แกนนำเหล่านี้จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางของตัวเองอย่างไร รวมถึงทัพนปช. จะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวเช่นไรในช่วงเลือกตั้ง
ธิดา โตจิราการ
รักษาการประธานนปช.
การเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง เวทีคนเสื้อแดงกับเวทีพรรคเพื่อไทยจะแยกออกจากกันชัดเจน แกนนำของเราที่ไปสมัคร ส.ส.จะขึ้นเวทีพรรคการเมืองอย่างเดียว ต้องเว้นวรรคหน้าที่ของ แกนนำนปช.ไว้ก่อน
ทำเช่นนี้เพื่อกันไว้ ไม่ให้ผิดระเบียบ หลีกเลี่ยงการถูกพาด พิง เพราะฝ่ายตรงข้ามพยายามจับผิดเรื่องนี้มาโดยตลอด
เมื่อ มีการเลือกตั้ง ประชาชนคนเสื้อแดงมีสิทธิ์ที่จะสนับสนุน หรือไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งก็ได้ แต่ พรรคที่จะเลือกต้องมีอุดมการณ์เดียวกัน เป็นพรรคประชาธิป ไตย ไม่ตกอยู่ภายใต้ระบอบอำมาตยาธิปไตย
เรายอมรับตรงๆ ว่า สนับสนุนพรรคเพื่อไทย
พร้อม กันนี้คนเสื้อแดงยังมีหน้าที่สอดส่องดูแลการเลือกตั้ง ว่ามีความบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ ซื้อเสียงหรือไม่ ถูกแทรกแซงหรือไม่ เราตั้งองค์กรประชาชนขึ้นทั่วประเทศเพื่อการเลือกตั้งโดยเฉพาะ
ความ กังวลที่ว่ามวลชนเสื้อแดงอาจไปชุมนุมประท้วงการลงพื้นที่ของแกนนำพรรคอื่น นั้น ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมคนเสื้อแดงได้ทุกคน บางคนอาจไปแสดงออกในนามส่วนตัวก็ได้
แต่เราจะกำชับไปยังแกนนำแต่ละจังหวัด ให้พยายามควบคุมดูแล ปล่อยให้มีการหาเสียงอย่างเต็มที่ ประเทศจะได้เดินหน้า
ส่วน ยุทธศาสตร์หลังเลือกตั้ง แน่นอนว่าเราเดินหน้าเข้มข้นเหมือนเดิม ทั้งการตั้งเวทีให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตย รวมถึงการเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบกรณีพี่น้องของเราต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บ จำนวนมากจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
แต่เราคงเปลี่ยนแปลง ยุทธศาสตร์ย่อยคือการนำแกนนำ มวลชนของแต่ละภาคเข้าสู่ส่วนกลางเพิ่มขึ้น เพราะแกนนำส่วนหนึ่งต้องไปเป็นส.ส. โดยจะคัดเลือกจากทุกภาค อาทิ ภาคอีสาน 2 คน และภาคเหนือ 1 คน
จุดยืนยันของเราคือ ต่อสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยอย่างสงบสันติ เสื้อแดงกลุ่มอื่นๆ ที่อาจดำเนินการนอกลู่นอกทาง ยอมรับว่าคนเสื้อแดงมีหลายกลุ่ม อาจมีความคิดเห็นแย้งกันบ้าง ถือเป็นระบอบประชาธิปไตย
แต่เราก็ทำได้ แค่ตักเตือน ให้คำแนะนำที่ถูกที่ควรเท่านั้น ถ้าทำผิดหรือใช้ความรุนแรง ก็ให้ฝ่ายบ้านเมืองดำเนินคดีตามกฎหมายไป ตรงนี้ไม่มีปัญหา
หรือหากไม่มีการเลือกตั้ง เราจะจับตาดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้น จะหารือแนวทางกันอีกครั้ง
ถ้า เลือกตั้งแล้ว พรรคอันดับหนึ่งไม่ได้ตั้งรัฐบาลหรือไม่ได้เป็นนายกฯ ต้องดูว่าเกิดจากอะไร ถ้ามีปัจจัยภายนอกแทรกแซง เช่น การตั้งรัฐบาลในค่ายทหารเหมือนครั้งก่อนอีก เราจะหารือกันระหว่างแกนนำอีกครั้งว่าจะเดินหน้าต่อสู้อย่างไร
แต่ เชื่อว่าประเด็นนี้คงไม่ซ้ำรอย ขณะนี้ประชาชนเข้าใจแล้ว ต่อไปนี้จะไม่มีภาพเอาดอกไม้ไปให้รถถังอีก หรือหากมีการทำรัฐประหาร คนเสื้อแดงทั่วประเทศ จะออกมาโดยไม่รีรอ
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
แกนนำนปช. และรองประธานภาคใต้ พรรคเพื่อไทย
แกนนำเสื้อแดงพูดคุยและมีข้อสรุปชัดเจนว่า เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งแล้ว แกนนำนปช.ที่เป็นผู้สมัครส.ส. จะต้องยุติบทบาทในเวทีคนเสื้อแดง ไม่ให้มีปัญหาข้อกฎหมายที่ฝ่ายตรงข้ามใช้เล่นงานเราระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง
โดยแกนนำนปช.ทั้งหมดที่เป็นผู้สมัครจะทำกิจกรรมทางการเมืองร่วม กับพรรคเพื่อไทยทุกรูปแบบ ไม่ว่าการขึ้นเวทีปราศรัย หรือการรณรงค์ต่างๆ ที่ทางพรรคกำหนด
ต้องทำอย่างระมัดระวัง รอบคอบ รัดกุม เพราะเราเป็นเป้าสายตาของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามฉวยโอกาส ใช้ความเคลื่อนไหวของเราสร้างปัญหาทางกฎหมายให้กับพรรคได้
แต่คงไม่ มีอะไรเป็นปัญหา ทุกคนหมายถึงแกนนำและคนเสื้อแดงต่างเข้าใจเป็นอย่างดี และคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ภายใต้การจับตามองของคนทั้งประเทศ รวมถึงต่างชาติ
สังคมจึงมีวิจารณญาณที่จะพิจารณาในประเด็นที่ ถูกกล่าวหา หากเป็นข้อหาที่ไร้น้ำหนัก ไร้เหตุผล อย่างเช่น พรรคเพื่อไทยตั้งเวทีปราศรัยแล้วคนเสื้อแดงไปฟัง แล้วเอามาเป็นประเด็นทางกฎหมาย เชื่อว่าสังคมต้องมีปฏิกิริยาใดๆ ออกมา
สำหรับ เนื้อหาการปราศรัย ต้องระมัดระวังพอสมควร แต่ยืนยันว่าจะไม่เป็นเหตุให้เราเกร็งจนไม่กล้าทำอะไร การเลือกตั้งทุกครั้ง พรรคการเมืองต้องนำเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจ
เชื่อว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยเข้าถึงและตรงใจประชาชน หากเราทำให้นโยบายเข้าถึงประชาชนส่วนใหญ่ได้ จะไม่มีทางแพ้ ชนะถล่มทลายแน่นอน
ส่วน ประเด็นการสลายการชุมนุม สามารถเอามาอธิบายความให้ประชาชนรับฟังได้ แต่ต้อง ระมัดระวังการกล่าวหาให้ร้ายซึ่งถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง
แต่ ข้อ เท็จจริงก็คือข้อเท็จจริง อาทิ ในรัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ถือเป็นรัฐบาลที่มีประชาชนเสียชีวิตจากการออกมาเรียกร้องทางการเมืองมากที่ สุดในประวัติ ศาสตร์ประเทศไทย ก็ต้องอธิบายความได้
ส่วนเรื่องการ ชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อมีการประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้วคงต้องหยุดไปก่อน แต่กรณีวันที่ 19 พ.ค. ที่เป็นวันรำลึกเหตุการณ์สลายการชุมนุม ถือเป็นข้อยกเว้น แกนนำทุกคนจะไปร่วมงาน
แต่คงต้องดูรูปแบบเพื่อไม่ให้หมิ่นเหม่กับการผิดกฎหมายใดๆ
สมบัติ บุญงามอนงค์
บ.ก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง
เข้า สู่โหมดเลือกตั้ง ทางกลุ่มจะรณรงค์ 3 เรื่อง คือ 1.เปิดพื้นที่ให้เวทีการเมืองเป็นหลัก รณรงค์ให้พี่น้องคนเสื้อแดงรวมถึงมวลชนทุกแขนงเปิดทางให้พรรคการเมืองได้ รณรงค์หาเสียงอย่างเต็มที่
เช่น พรรคประชาธิปัตย์มาหาเสียงที่ภาคอีสาน เราจะกำชับว่าอย่าไปโห่ไล่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยไปหาเสียงภาคใต้ก็อย่าโห่ไล่เช่นกัน ควรปล่อยให้เขาหาเสียงเต็มที่
2.รณรงค์ 'โหวตเยส' สนับ สนุนการเลือกตั้ง จากนั้นจะปล่อยให้ประชาชนคิดเองก่อนเข้าคูหาว่าจะเลือกใคร เราจะไม่ชี้นำ ประเด็นนี้เน้นเฉพาะเจาะจงช่วงรณรงค์เลือกตั้งเท่านั้น
การ รณรงค์ดังกล่าวจะตามประกบกับ 'โหวตโน' ของกลุ่มพันธมิตร เพราะเราถือว่าเป็นสีสันและเป็นไอเดียที่ดีกว่าการนอนหลับทับสิทธิ์ สิ้นหวังทางการเมือง
โดยจะทำสติ๊กเกอร์ให้ครบ 5 แสนใบ แล้วนำไปติดและแจกจ่ายผู้คนทั่วประเทศ ใช้จักรยานถีบรณรงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ คุยกับชาวบ้านข้างถนนไปด้วย
ก่อนถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จะรณรงค์ให้ใส่เสื้อแดงเข้าคูหาอีกด้วย
กิจกรรม ที่ว่านี้ทำเพื่อให้การเลือกตั้งมีสีสัน มีความหวัง ไม่ใช่อับเฉา เบื่อหน่าย พูดง่ายๆ คือ เราจะจัดเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเทศกาลแห่งความหวัง
และ 3. เดินสายรณรงค์จัดสัมมนาทางวิชาการเล็กๆ นั่งคุยกัน 30-50 คนตามสถานที่ต่างๆ เนื้อหาเป็นการให้ความรู้เรื่องประชาธิปไตยเป็นหลัก
ถามว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหรือไม่ ยอมรับว่า 'งง' เหมือนกัน
เพราะ มีเรื่องของทหารตบเท้าออกมา รวมทั้งเรื่องกฎหมายลูกการเลือกตั้ง 3 ฉบับที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ยิ่งผลโพลระบุชัดว่า เพื่อไทยจะได้คะแนนสูง สงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามจะยอมหรือ
ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง หรือเกิดการรัฐประหารเกิดขึ้น เราและคนเสื้อแดงทุกกลุ่มออกมาแสดงพลังแน่นอน