ตำรวจเตรียมปรับเกลี่ยกำลังดูแลม็อบพันธมิตรฯ ไปดูแลปัญหาอาชญากรรม หลังสถานการณ์การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยันไม่ต้องจัดกำลังดูแล ศาลแพ่งอ่านคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวยุติการชุมนุมพรุ่งนี้ ( 30 มิ.ย.) เชื่อไม่วุ่นวายเพราะทุกฝ่ายต้องทำตามคำสั่งศาล
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะ รองโฆษก ตร. กล่าวภายหลัง พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง เรียกประชุมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล พร้อมวางแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจร ว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมบริเวณ สะพานชมัยมรุเชฐ มียอดผู้เข้าร่วม สรุปเมื่อเวลา 20.30 น. จำนวนประมาณ 5,000 คน ส่วนกลุ่ม ต่อต้านที่ท้องสนามหวลง มียอดประมาณ 350 คน โดยไม่มีเหตุปะทะหรือก่อกวนระหว่างกันแต่อย่างใด
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่นั้นได้มีการประชุมกันเพื่อลดกำลังในการดูแลการชุมนุม ลงมาประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อจะได้ปรับเกลี่ยกำลังในการดูแลปัญหาด้านอาชญากรรม เนื่องจากการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงเชื่อว่ากำลังเจ้าหน้าที่ที่เหลือสามารถดูแลได้เป็นอย่างดี
ส่วนกรณีที่วันที่ 30 มิ.ย. เวลา 13.30 น. ศาลแพ่ง รัชดา นัดฟังคำพิพากษา อาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียน โรงเรียนราชวินิตมัธยม ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง รัชดาภิเษก ขอคุ้มครองชั่วคราว ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม และย้ายสถานที่ชุมนุม เนื่องจากได้ผลกระทบจากใช้เครื่องขยายเสียง นั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ตำรวจคงไม่มีมาตรการในการรับมือแต่อย่างใด เพราะ เมื่อศาลได้ตัดสินแล้วไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใด ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติจะถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล
“ ส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะเมื่อศาลตัดสิน จะมีคำสั่งมายังผู้ที่ถูกร้องอยู่แล้ว และเชื่อว่าแกนนำของกลุ่มพันธมิตร หรือทีมงานทนายความต้องรับทราบคำสั่งนั้น และต้องปฏิบัติตาม หากไม่ทำคงเป็นการละเมิดอำนาจศาล” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
พล.ต.ต.สุรพล ยังกล่าวถึง การสอบสวนสรุปสำนวนพยานหลักฐานกรณีมีประชาชนแจ้งความร้องทุกข์ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเสร็จเรียบร้อยจะมีการประชุมคณะทำงานอีกครั้ง โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. สั่งกำชับให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย