WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, July 4, 2008

แด่...พันธมิตรฯ ประชาธิปไตย

คอลัมน์: ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

“...สิ่งซึ่งน่าแปลกประหลาดเหลือเกินก็คือ ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชัยชนะจนเวทีแทบถล่ม เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งตามที่ตนต้องการ แต่เมื่อคนอื่นจะใช้สิทธิทางศาลเพื่อปกป้องตนเอง หรือเพื่อให้ศาลได้บรรเทาความเดือดร้อน บรรดาอาจารย์ทั้งหลายกลับกลายเป็นผู้ร้ายในทันที…”

ผมตั้งใจไว้ว่าจะไม่พูดเรื่องตัวเองในคอลัมน์นี้ เพราะโดยมารยาทแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ

แต่วันนี้ผมขออนุญาตทำผิดกติกาที่วางไว้ เนื่องจากมีความจำเป็นบางประการที่หวังว่าผู้อ่านคงเข้าใจ

ความจำเป็นที่ว่านั้นก็คือ กรณีที่อาจารย์ 10 ท่าน ของโรงเรียนราชวินิตมัธยม ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 6 คน ยุติการชุมนุม ซึ่งเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่ติดตามข่าวนี้คงจะทราบรายละเอียดดีอยู่แล้ว

ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผมก็คือ ทนายความของโจทก์คดีนี้คือ คุณเมธี ใจสมุทร ทนายความประจำสำนักงานทนายความชื่อ สำนักมหาสมุทรกฎหมาย ดังนั้นเมื่อ คุณเมธี ใจสมุทร เป็นทนายความที่กล้าหาญฟ้องคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ และเมื่อทนายความมีนามสกุลเดียวกับผม เรื่องราวต่างๆ จึงถูกผูกเป็นนิยายต่างๆ นานา บนเวทีพันธมิตรฯ ที่ปิดถนนรบกวนชาวบ้านชาวช่อง คุณเมธี ใจสมุทร

ซึ่งเป็นบุคคลที่น่ายกย่องสรรเสริญว่า เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ทนายความอย่างสมเกียรติและเกียรติศักดิ์ของทนายความ กลับถูกด่าทอว่ากล่าวอย่างรุนแรงจากเวทีที่อ้างว่าเป็นผู้เจริญนั้น ไม่รวมถึงตัวผมที่ถูกด่าเช้าด่าเย็นจนยันสว่าง ทั้งบนเวทีและเว็บไซต์ของเครือข่ายคนกลุ่มนี้ ซึ่งผมเองไม่ได้ถือสาหาความอันใด เพราะเมื่อพิจารณาถึงบุคคลต่างๆ เหล่านั้น ล้วนแต่เป็นบัวใต้น้ำ ที่แม้เต่าปลาก็ยังเมิน เพราะรังเกียจในพฤติกรรม

แต่ที่ผมจำเป็นต้องขอกล่าวถึงก็คือ หลายครั้งหลายครา ไม่เพียงแต่ผมหรือคุณเมธีจะถูกกล่าวถึงในทางเสียหาย แต่ตระกูล “ใจสมุทร” ก็ยังถูกคนปากพล่อยตำหนิติเตียนถึง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นการบังอาจ เนื่องจากหากไม่พอใจก็สมควรจะว่ากล่าวผมหรือคุณเมธี ไม่ควรจะกล่าวถึงตระกูล ซึ่งกระทบกับคนอื่นๆ ในตระกูลใจสมุทร

สิ่งที่ผมจะยืนยันได้ก็คือ คนในตระกูลใจสมุทร ซึ่งบรรพบุรุษคือ หลวงต่างใจราช และ หลวงสมุทรโยธี ผู้เป็นเจ้าเมืองตรัง คุมกองเรือเก้าร้อยลำ ปากแม่น้ำตรัง ทหารเอกของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ส่วนใหญ่เป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรม ประกอบสัมมาชีพ และเมื่อทำงานการเมืองก็มีอุดมการณ์ชัดเจน ประการสำคัญ ใจสมุทรทุกคนเคารพกฎหมายบ้านเมือง ตรงไปตรงมา เมื่อแพ้ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ และเมื่อชนะก็ไม่เคยจะเยาะเย้ยผู้แพ้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของสายเลือดใจสมุทร คือ เป็นคนจริงและตรงไปตรงมา ซึ่งลักษณะที่ว่ามานี้ ผมก็ไม่เห็นว่าหน้าไหนบนเวทีพันธมิตรฯ จะมีคุณลักษณะเช่นว่านี้

ผมไม่ปฏิเสธว่าเป็นผู้ดำเนินการให้คุณเมธีหัวหน้าสำนักมหาสมุทรกฎหมาย ซึ่งมีผมเป็นเจ้าของ เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ และไม่เคยปกปิดหรือว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะหากไม่ประสงค์จะให้ผู้ใดรู้ ผมเพียงแต่ให้ทนายความคนอื่นกระทำการแทนคุณเมธีก็ย่อมได้ การที่พันธมิตรฯ ไปหลงประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แทนที่จะพิจารณาว่าโจทก์ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ จึงเป็นที่น่าอเนจอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเพียงเรื่องเท่านี้ยังคิดไม่ได้ แล้วยังบังอาจคิดการใหญ่เปลี่ยนแปลงบ้านเมือง

และเมื่อมีการผูกโยงคุณเมธีกับผม แล้วโยงเข้ากับพรรคพลังประชาชน โดยเฉพาะผู้เป็นต้นคิดคือ คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความข้างกาย คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ด้วยแล้ว ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปอีก เพราะหากคุณสุวัตรหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา โดยไม่ให้ความเคารพต่อวิชาชีพทนายความที่คุณเมธีได้ทำหน้าที่แล้ว ถือว่าคุณสุวัตรกำลังดูถูกคนที่มีวิชาชีพเดียวกัน คุณสุวัตรอาจเป็นคนที่อ้างตนเป็นทนายความ แล้วขึ้นเวทีพันธมิตรฯ และเห็นว่านั่นคือความถูกต้องชอบธรรม ซึ่งแตกต่างจากคุณเมธี ซึ่งไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใดๆ ในโลกนี้ คุณเมธีเพียงทำหน้าที่ของตนดังกล่าวแล้ว คุณสุวัตรอย่ามาเปรียบเทียบกับคุณเมธีเลยครับ เพราะเทียบกันไม่ได้หรอกสำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะคุณเมธีไม่ได้เป็นสมุนไอ้เจ๊กแป๊ะคนใด สิ่งซึ่งน่าแปลกประหลาดเหลือเกินก็คือ

ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชัยชนะจนเวทีแทบถล่ม เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งตามที่ตนต้องการ แต่เมื่อคนอื่นจะใช้สิทธิทางศาลเพื่อปกป้องตนเอง หรือเพื่อให้ศาลได้บรรเทาความเดือดร้อน บรรดาอาจารย์ทั้งหลายกลับกลายเป็นผู้ร้ายในทันที ข้อหาไม่รักชาติถูกยัดเยียดทั้งบนเวทีและเว็บไซต์ สารพัดที่จะกล่าว ทั้งๆ ที่อาจารย์ 10 ท่านของโรงเรียนราชวินิตมัธยม คือบุคคลที่ได้สร้างวีรกรรมครั้งสำคัญของประเทศ ที่กล้าหาญชาญชัยประกาศท้ารบกับอำนาจเถื่อนที่แสดงความเหิมเกริมอวดศักดา แม้กฎหมายก็ไม่อาจเอื้อมเข้าไปจัดการ

อาจารย์ทุกท่านได้แสดงให้เห็นว่า ในฐานะ “ครู” ซึ่งถือว่าเป็นแม่คนที่สองของศิษย์ จำเป็นต้องออกมาปกป้องนักเรียนทุกคนจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย ที่รุกประชิดถึงรั้วโรงเรียนโดยมิกลัวเกรง อาจารย์ทุกคนเป็นผู้หญิงที่ดูอ่อนแอ แต่ทว่ากลับมีจิตใจที่แข็งแกร่ง

กลุ่มพันธมิตรฯ ทุกคนได้ทบทวนตัวเองหรือยังว่า บัดนี้ประชาชนได้สะท้อนความรู้สึกให้พวกคุณรู้แล้วว่า ประชาชนรังเกียจคุณแค่ไหน ยุติบทบาทเสียเถิด อย่าหลอกตัวเองอีกเลย เพราะเพียงครูผู้หญิงตัวเล็กๆ 10 คน ที่กล้าแสดงเช่นนี้ออกมา ก็น่าจะทำให้แกนนำพันธมิตรฯ ที่เป็นบุรุษเพศ ได้สำนึกอะไรขึ้นบ้างกระมัง

ศุภชัย ใจสมุทร