"เฉลิม" บินด่วนกลับ กทม. หลังม็อบบุกชุมนุมไล่ถึงหน้าโรงแรม เปิดแถลงข่าวแฉม็อบรับจ้างจากนักการเมืองบุกรุกที่ดิน พปช. เชื่อมีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลัง ขณะเดียวกันวิจารณ์แซด มท.1 ใจไม่ถึง กลัวคนแค่เพียงหยิบมือจนเสียงานราชการ แถมทำรัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือ น่าจะใช้กฎหมายจัดการให้เด็ดขาดไปเลย
หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ โดยค้างคืนที่โรงแรมมาริไทม์ปาร์ค สปาแอนด์รีสอร์ท จ.กระบี่ เพื่อเตรียมประชุมมอบนโยบายให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต รวมถึงการไปตรวจที่ดินเกาะราชาใหญ่ในวันรุ่งขึ้นนั้น
กลับถูกกลุ่มผู้ชุมนุมนับ 100 คน ปิดหน้าโรงแรมมาริไทม์ปาร์คฯ กระบี่ ตะโกนขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากตำแหน่งตลอดทั้งคืน จนทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้ยกเลิกภารกิจ ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม ที่ จ.กระบี่ พังงา และภูเก็ต ทั้งหมด และหลบออกจากโรงแรมมายังสนามบินกระบี่ ตั้งแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพมหานครทันที
* “เฉลิม” ชี้แจงไม่ได้หนี
ทันที่ที่เดินทางถึงกรุงเทพฯ ในตอนสายวันที่ 2 กรกฎาคม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ทันทีที่ตนไปถึงสนามบินที่กระบี่ ก็ได้รับรายงานมีผู้ชุมนุมมาประท้วงเพื่อคอยพบตน แต่ตนได้หนีไปทางอื่น จนโดนทุบกระจกรถ ก็ไม่ได้ว่าอะไร จากนั้นเมื่อไปถึงโรงแรมที่พักก็มีกลุ่มเหล่านี้ตามไปอีก ซึ่งตนไม่ขอเรียกว่า ผู้ชุมนุมประท้วง แต่เห็นว่าเป็นพวกรวมตัวขัดขวางก่อกวน หลังได้รับเงินลงขันจากผู้บุกรุกที่ดินโดยผิดกฎหมายมากกว่า โดยกลุ่มคนเหล่านี้ขู่ให้ตนยกเลิกการประชุม ไม่เช่นนั้นจะตามไปก่อกวนจนถึงที่สุด พร้อมกับมีการขว้างปาน้ำแข็งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่อีกด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า การยกเลิกการประชุมดังกล่าวนั้น ขอยืนยันว่าตนไม่ได้หนี แต่อยากจะหลีกเลี่ยงกลุ่มคนขัดขวางก่อกวนมากกว่า เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะพวกนี้คอยแต่จะสร้างเงื่อนไข ซึ่งกระทำการในกรุงเทพฯ ไม่สำเร็จ และข่าวที่ออกไปว่ามีคนออกมาปิดล้อมตนถึง 3-4 พันคนนั้น ก็ขอยืนยันว่าไม่จริง มีแค่ 2-3 ร้อยคนเท่านั้น แต่ประโคมข่าวกันไปใหญ่โต
เมื่อถามว่า การกระทำดังกล่าวของกลุ่มผู้มาชุมนุมนั้น ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จริงๆ แล้วเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่การดำเนินการตามรัฐธรรมนูญจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ทั้งนี้ ตนไม่ติดใจที่จะเอาเรื่องราวใด ๆ กับใคร และไม่โกรธ เพราะถือเป็นสิทธิของคนเหล่านั้น ไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
"ผมคิดว่ามันน่าประหลาด ผมจะไปทำคุณงามความดีให้ ก็มีนักการเมืองหนุนหลังอยู่ เขาก็ให้รู้กันทั้งหมด ผมไปทำให้ จะเอางบประมาณไปลง ไปตรวจสอบความถูกต้อง แต่ไม่เป็นไรครับ" รมว.มหาดไทย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 4 กรฎาคมนี้ ตนได้นัดประชุม ผวจ. ไว้แล้วล่วงหน้า ซึ่งจะมีการประชุมกันที่ราชนาวีสโมสร แต่ก็จะดำเนินการต่อไป ไม่มีปัญหาอะไร
* ชี้ม็อบไล่ผิดกฎหมาย
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหากจะดำเนินการตามกฎหมายถึงขั้นสลายการชุมนุมนั้นก็สามารถทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีต่อสังคมไทย และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีพรรคการเมืองเก่าแก่ชักใยอยู่เบื้องหลัง
“ผมเชื่อว่า กลุ่มประชาชนที่มาปิดล้อมโรงแรมเพื่อออกมาต่อต้านในครั้งนี้ มีการจัดการและเป็นกระบวนการที่ผิดธรรมชาติของคนที่ไม่เห็นด้วย และสังเกตเห็นว่ามี ส.ส. ของพรรคการเมืองบางพรรคที่เป็นแกนนำของกลุ่มพันธมิตรฯ ใน จ.กระบี่ ซึ่งเป็นอดีตสมาชิก อบจ. และล่าสุดกำลังลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. ในนามของพรรคการเมืองภาคใต้ สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ และไม่ได้ส่งผลดีต่อการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าวเลย”
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนขอความกรุณากลุ่มพันธมิตรอย่าสร้างลัทธิความรุนแรง ให้เกิดขึ้นภายในสังคม เพราะถ้าหากคนกลุ่มนี้เชื่อว่า แผนการดังกล่าวที่ได้ปฏิบัติในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ และจะนำมาใช้ปฏิบัติทุกครั้งเพื่อต่อต้านรัฐมนตรีท่านอื่นๆ ที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ ก็คงจะไม่มีรัฐมนตรีท่านใด กล้าที่จะลงไปพื้นที่ดังกล่าว
“ถ้าเขาประกาศชัยชนะจากแผนปฏิบัติในครั้งนี้ และนำมาใช้ทุกครั้งที่มีรัฐมนตรีลงไปปรับหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ ถ้าเป็นอย่างนั้นอยากจะฝากไปถามพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้าคุณต้องลงไปปฏิบัติหน้าที่บนพื้นที่ภาคอีสานหรือภาคเหนือ ที่มีกลุ่มประชาชนให้การสนับสนุนรัฐบาลอยู่ และต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไร ถ้าต้องมีปัญหาว่าพื้นที่ของประชาธิปัตย์ห้ามฝ่ายรัฐบาลลงไป แล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร”
* ฉะ ปชป. จัดคนไล่เฉลิม
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนมั่นใจว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาปิดล้อม ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เป็นพวกเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเป็นผลเสียต่อคนในภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด เพราะหากมีรัฐมนตรีในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ลงไปแก้ปัญหาแล้วได้รับการปฏิบัติเหมือน เช่น ร.ต.อ.เฉลิม ก็จะทำให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ปากว่าตาขยิบ กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะโรงแรมที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่จัดให้คณะของ ร.ต.อ.เฉลิม พัก เป็นโรงแรมของ นาย พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์เต็มคือนายทุนที่บุกรุกที่ดินใน จ.ภูเก็ต และบริเวณแถบทะเลอันดามัน เพราะ รมว.มหาดไทย ได้ประกาศว่าจะลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว หลังจากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนยืนยันว่าพื้นที่ทุกแปลงที่บุกรุกและนำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจจะต้องได้รับการตรวจสอบ
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายคนภาคใต้ เพราะการไม่ให้รัฐมนตรีลงไปยิ่งสร้างปัญหามากกว่า และคนใน 14 จังหวัดภาคใต้กำลังเสียโอกาสจากคนไม่กี่ร้อยคน ดังนั้นขอเรียกร้องให้เลิกประเพณีปลุกภาคนิยม เพราะคนที่เสียหายคือคนไทยโดยรวม” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สำหรับตนและ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกรัฐบาลที่เป็นคนภาคใต้ พร้อมที่จะลงไปในพื้นที่ตลอดเวลา และยังตั้งข้อสังเกตถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ว่า โรงแรมในกระบี่มีหลายแห่ง แต่ทำไมถึงมาจองโรงแรมแห่งนี้ เพราะเท่ากับประกาศให้พวกผู้ชุมนุมรับรู้ และเคลื่อนย้ายกันมาปิดล้อม “ผมไม่รู้ว่าผู้ว่าฯ เมายา หรือคิดได้แค่นั้น” นายจตุพร กล่าวย้ำ
* วอน “เฉลิม” ใจกล้ากว่านี้
ขณะเดียวกัน ในสังคมไซเบอร์ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าวตลอดทั้งวัน เช่นในเว็บไซต์พันทิปดอตคอม บ้างก็เห็นว่า มท.1 ทำถูกต้องแล้วที่ไม่ไปปะทะด้วยเพราะจะทำให้เกิดความรุนแรงตามมา และมองว่าม็อบทำเกินเหตุซึ่งจะทำให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้เรื่องเสียหายไปด้วย
แต่อีกด้านหนึ่งก็เห็นว่า ร.ต.อ.เฉลิม ทำเสียหายหมด เพราะเสมือนว่า ร.ต.อ.เฉลิม กลัวกลุ่มคนที่มีเพียงแค่นั้น และน่าจะจัดการตามกฎหมายไปเลย เพราะการกระทำของม็อบที่ทุบรถ ร.ต.อ.เฉลิม ถือว่าท้าทายกฎหมาย แบบนี้จะทำให้ยิ่งได้ใจ เหมือนกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และถ้า ร.ต.อ.เฉลิม กลัวแบบนี้ก็ไม่น่าลงไปพื้นที่ตั้งแต่แรก ทำให้รัฐบาลดูขาดความน่าเชื่อถือไปเลย
บางส่วนก็แสดงความเห็นว่า “เรื่องแค่นี้ ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะจัดการได้ แต่ดันหนีไป ไม่แน่จริงเลย มัวแต่มาพูดโม้ไปวันๆ ดำเนินการตามกฎหมายไปเลย”