WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, July 4, 2008

อย่าปิดหู-ปิดตา

คอลัมน์: โต๊ะข่าวประชาทรรศน์

การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เท่ากับเป็นการ “เปิดหู-เปิดตา” ได้รับการติดอาวุธทางปัญญา ให้สามารถแยกแยะความถูกต้องชอบธรรม วิเคราะห์ได้อย่างเป็นระบบ จะได้ไม่ไปหลงเชื่อการหว่านล้อมชักจูงให้หลงผิด ไปทำในเรื่องที่เป็นพิษภัยต่อตนเองและส่วนรวม

การชุมนุมของม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในขณะนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความพยายามที่จะเผยแพร่ “ยัดเยียด” ข้อมูลข่าวสารเพื่อ “จูงใจ” ให้มีผู้คนเห็นด้วย และมาร่วมการชุมนุมให้มาก เพื่อจะได้นำไปใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อว่า มีผู้เห็นด้วยและมาร่วมเป็นจำนวนมาก แต่ความเคลื่อนไหวของม็อบพันธมิตรฯ ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ยืนยันได้ว่า มีผู้เห็นด้วยและมาร่วมการชุมนุมไม่มากมาย และนับวันยิ่งหดหายไป

ข่าวคราวการออกมาคัดค้านทักท้วงของพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติเงิน 48 ล้านบาท ให้กับ ส.ส. คนละ 1 แสนบาท เพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจทางการเมือง การปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา และการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นท่าทีที่น่ากังขาไม่น้อย

สิ่งที่นักการเมืองอาวุโสทำ พูดง่ายๆ คือ เป็นการให้ความรู้กับประชาชน ถึงสิทธิและหน้าที่ความรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ให้ตกเป็น “เหยื่อ” ของผู้ที่ไม่หวังดี หรือมีเจตนาแอบแฝง ไร้ความจริงใจ อย่างที่ออกมาเย้วๆ กันกลางถนน ละเมิดสิทธิของผู้อื่น สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้เกิดขึ้นในสังคม อย่างที่ประสบพบเห็นอยู่ในตอนนี้

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และพัฒนาการของรัฐสภาไทย และเพื่อ

ความเข้าใจในกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองทุกระดับของประชาชน และฝ่ายนิติบัญญัติ

รูปแบบที่นำมาใช้คือ การจัดสัมมนา ฝึกอบรม การบรรยายทางวิชาการ หรือการเสวนา

กลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนทั่วไป ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มอาชีพ กลุ่มเยาวชน

วันนี้เรามีการกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ท้องถิ่น เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการและปกครองกันเอง ซึ่งประชาชนมีส่วนสำคัญ มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิด ในการเลือกผู้นำท้องถิ่นมา “ทำงาน” และกระตุกสำนึกความรับผิดชอบให้เป็นไปตามความต้องการของท้องถิ่น แทนที่การสั่งการมาจากข้างบนเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยตรงกับความต้องการของประชาชนนัก

วันนี้ประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สามารถใช้สิทธิและเสรีภาพของตนเองได้เท่าที่ไม่ไปละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น อย่างที่ม็อบพันธมิตรฯ ถือปฏิบัติกันอยู่ในตอนนี้

เมื่อมีการติดอาวุธทางปัญญา ได้สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เชื่อเหลือเกินว่า ประชาชนสามารถกำหนดทิศทาง แผนงาน โครงการในการพัฒนาท้องถิ่น ให้ไปสู่การอยู่ดีกินดี มีสิทธิมีเสียง

รัฐบาลเองก็สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดบริการสาธารณะของท้องถิ่น โดยคำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมตามศักยภาพของท้องถิ่น รวมทั้งความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนขยายการให้บริการที่ครอบคลุมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน มีการเชื่อมโยงบูรณาการกับแผนชุมชนและแผนระดับต่างๆ ในพื้นที่ มากกว่า ทางดี-น้ำไหล-ไฟสว่าง อย่างที่เคยทำกันมา

รายได้ที่มาจากการจัดเก็บ และที่ได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลาง ที่ผ่านมาต้องเสียผู้เสียคนไปมากมาย จากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้าวันนี้ประชาชนได้เข้าไปมีส่วนรับรู้ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเห็นชอบกับการใช้จ่ายเงินดังกล่าว มีการตรวจสอบ ทำให้เงินที่มีอยู่จะได้ใช้อย่างคุ้มค่า

ดังนั้น ผู้นำผู้บริหารจะต้องพัฒนาตัวเองให้มีศักยภาพ มีวิสัยทัศน์ ทำงานให้สัมฤทธิผล ไม่เช่นนั้นก็เสี่ยงต่อการถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง

การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชน ประชาคมกลุ่มอาชีพต่างๆ มีความรู้ความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน โดยถือความถูกต้องเป็นหลัก และสามารถตรวจสอบได้ จะนำไปสู่การบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล เมื่อปัญหาทุกอย่างสามารถจบลงได้ด้วยดีในระดับท้องถิ่น รัฐบาลและรัฐสภาก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

การมีความรู้ความเข้าใจทางการเมืองที่ถูกต้อง จะทำให้ประชาชนเป็น “ผู้เล่น” ไม่ใช่เป็นแค่ “ผู้ดู” อีกต่อไป จะเป็นรากฐานที่มั่นคงของสังคมและประเทศชาติ

ความคิดของท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นสิ่งที่ดี เป็นเจตนาที่ดี และต้องการให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศชาติและประชาชนได้ โดยไม่ต้องไปใช้วิธีการนอกสภามาข่มขู่คุกคามอีกต่อไป

“เม็ดเงิน” ที่ต้องเสียไปจากการทำโครงการนี้ เทียบไม่ได้กับ “ประโยชน์” ที่จะได้รับ อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชนฉลาด รอบรู้ และรู้ทันคนมากขึ้น

ระหว่างที่รอผลที่จะได้จากการจัดทำโครงการให้ความรู้ทางการเมืองกับประชาชนครั้งนี้ ขอให้ใช้ความรอบคอบ พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใดลงไป ขอให้พิจารณาชั่งน้ำหนักให้ดี

ขอให้คลำจมูกก่อน ว่ามีสิ่งแปลกปลอมมา “จูง” ให้หลงผิดคิดร้ายหรือไม่

บิ๊กโบ๊ต