รองอัยการสูงสุด เปิดโต๊ะแถลงข่าวโต้ คตส. ระบุไม่ใช่แค่ไปรษณีย์ ยืนยันไม่เคยเตะถ่วงคดี แต่ที่ตีกลับต้องการให้คดีมีหลักฐานสมบูรณ์ ยอมรับที่ผ่านมาบรรยากาศทำงานร่วมกับ คตส.สุดแย่ วางตัวเป็นนักกฎหมายรุ่นใหญ่จนทำงานด้วยลำบาก คาดหวังหลังโอนงานให้ ป.ป.ช. ความร่วมมือจะราบรื่นมากขึ้น
นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานรับผิดชอบคดีจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อพิจารณาส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แถลงข่าวตอบโต้ คตส.กรณีกล่าวหาไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีให้ตามที่ร้องขอ แต่เกรงว่าหลักฐานบางคดียังไม่สมบูรณ์เรียบร้อยอาจเป็นเหตุให้ถูกยกฟ้อง
"เราไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์ เราต้องกลั่นกรองให้ความเป็นธรรม อย่างคดีหวยบนดินถูกฟ้องถึง 47 คน ผมว่ามันไม่ค่อยเป็นธรรม ประชุมครั้งเดียวก็ถูกฟ้องด้วย"
รองอัยการสูงสุด กล่าวอีกว่า คดีที่อัยการสูงสุดแจ้งให้ คตส.รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม 3-4 เรื่องนั้นเพื่อให้มีหลักฐานสมบูรณ์ในการพิสูจน์ความผิดตามข้อกล่าวหา อัยการสูงสุดยังไม่มีความเห็นที่แตกต่างไปจาก คตส.หรือมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหา แต่กลับขอสำนวนคดีไปฟ้องเอง
"ท่านอัยการสูงสุดยังไม่เคยมีความเห็นแตกต่างจาก คตส. เลย แต่ คตส.นำกลับไปฟ้องเอง ในความเห็นผม คตส.ใจร้อนไปนิดหนึ่ง ข้ามขั้นตอนไปนิดหนึ่ง พยานหลักฐานใดที่ไม่สมบูรณ์อาจทำลายความน่าเชื่อถือของพยาน" นายวัยวุฒิ กล่าว และยอมรับว่า การทำงานร่วมกับ คตส.ในช่วงที่ผ่านมาไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะคณะทำงานที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งให้เข้ามาประสานงานกับ คตส.ไม่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจเท่าที่ควร
"ตั้งแต่ประชุมมาบรรยากาศไม่ดีเลย เพราะ คตส. มักจะมองคณะทำงานของอัยการสูงสุดว่าเป็นนักกฎหมายรุ่นเด็ก และมองว่าท่านเป็นนักกฎหมายอาวุโส เป็นอาจารย์ จึงไม่ค่อยรับฟังคำแนะนำจากคณะทำงานของเราสักเท่าไร"
รองอัยการสูงสุดกล่าวว่า แม้จะมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสถานะและอำนาจของ คตส.แต่ในช่วงที่ผ่านมาอัยการสูงสุดยังเดินหน้าพิจารณาสำนวนคดีต่อไป ไม่เคยรอการพิจารณาไว้ โดยคำนึงถึงกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม หวังว่าสำนวนคดีที่ คตส. โอนต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและ ป.ป.ช. จะประสานความร่วมมือได้เป็นอย่าง