คอลัมน์ : คิดมุมกลับ
ช่วงนี้ฝนตกฟ้าคะนองทั่วประเทศ คนที่บ้านบ่นว่าผ้าที่ซักตากไว้ล่วงเข้าวันที่ 3 แล้วยังไม่ค่อยจะแห้ง เพราะตากแป๊บๆ ประเดี๋ยวก็ต้องวิ่งเก็บหนีฝนกันอีก วันละ 3-4 เที่ยว ไม่เป็นอันได้ทำอะไร แต่อย่างน้อยรอเก็บผ้าอยู่บ้านก็น่าจะดีกว่าออกจากบ้านไปเจอถนนเฉอะแฉะและรถติด
ตอนพระเจ้าสร้างโลก ไม่รู้ได้บอกหรือเปล่าว่าเมื่อฝนตกรถจะต้องติด แต่จะบอกหรือไม่ ทุกวันนี้รถติดก็กลายเป็นของตายที่ตามมาหลังฝนตก ยิ่งน้ำมันแพง การที่รถติดแหง็กอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ ก็ยิ่งสร้างความหงุดหงิดเดือดร้อนให้คนขับรถมากขึ้นทับทวี ส่วนคนที่อยู่บนรถโดยสาร เช่น รถเมล์ หรือรถตู้...แม้รถติดจะไม่ได้ทำให้จ่ายค่าตั๋วแพงขึ้น แต่ก็ทุกข์พอกัน หรืออาจมากกว่า เพราะสภาพรถเมล์แน่นๆ แล้วยังมีฝนตก รถติด มาซ้ำเติม สภาพมันใกล้เคียงคำว่านรกจริงๆ พับผ่า
อาทิตย์ก่อนได้อ่านบทสัมภาษณ์ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คุณชูวิทย์บอกว่า ถ้าจะถามว่าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้วจะแก้ปัญหารถติดอย่างไร คำตอบคือ แก้ไม่ได้...ทุกคนที่เคยเข้ามา สัญญาว่าจะแก้ได้ด้วยวิธีนั้น วิธีนี้ ก็ทำไม่ได้สักที
จริงของเขา แต่เราก็ยังขอเชื่อง่ายๆ ว่า ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข ไม่เว้นแม้แต่ปัญหาโลกแตกอย่างรถติดในกรุงเทพฯ เพราะสาเหตุเท่าที่ตามองก็คือ รถที่วิ่งไปมามันเยอะกว่าท้องถนนจะรับได้ คนไทยรวย-บอกแล้ว- ไม่งั้นคงไม่มีเงินซื้อรถขับกันคนละคัน นักเรียนนักศึกษาสอบเข้ามหาวิทยาลัยกันได้ทีหนึ่ง ก็ได้รางวัลเป็นรถคันหนึ่ง ขณะที่ถนนก็ยังกว้างยาวเท่าเดิม...พวกอวดรวยตะบักตะบวยนี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญของรถติดเหมือนกัน
บางเส้นทางนอกจากรถเยอะแล้วถนนยังแคบ มีทางวิ่งทางเดียว เช่น สะพานสาทร ช่วงเช้ากับเย็นเวลาเข้า-ออกของเหล่ามนุษย์เงินเดือนนี่ใครไม่จำเป็นอย่าได้พลัดหลงเข้าไป ยืนมองจากสะพานลอย รถติดยาวยิ่งกว่าขบวนงานบวชงานแต่งตามต่างจังหวัด รถแท็กซี่ยังไม่ยอมรับผู้โดยสารไปเส้นทางนี้ในเวลาดังกล่าวเลย จะมีก็แต่มอเตอร์ไซค์ที่ลัดเลาะไปได้ แต่สาวๆ นุ่งกระโปรง หรือคนใจไม่กล้าพอ ก็อาจทำใจนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่ได้...ก็ต้องเห็นใจเขาล่ะ เพราะมอ’ไซค์รับจ้างบ้านเรา ขับรถเหมือนผ่านสนามฟอร์มูล่าวันมาแล้วทุกคน
แบบนี้เป็นเรื่องของระบบคมนาคมที่โทษเฉพาะประชาชนก็ไม่ได้ แต่อย่างน้อยบางเส้นทาง เช่น สาทร ก็ยังมีความหวัง เพราะประมาณปี 2552 รถไฟฟ้าสายสารพัดสีที่จ่อคิวอยู่ก็จะเปิดบริการ ตอนนี้ตัวสถานีเสร็จแล้ว เหลือแต่ตัวรถ ถ้าเปิดใช้เมื่อไรก็คงบรรเทาปริมาณรถติดไปได้อีกบ้าง ยัดเยียดบนรถไฟฟ้าอย่างน้อยก็ยังไม่เสียเวลาเท่ารถติดบนถนนล่ะ
บ่นมาตั้งนาน สรุปว่าใครที่คิดว่าปัญหารถติดแก้ไม่ได้ แย้งว่าน่าจะยังแก้ได้ แต่อาจต้องอาศัยงบประมาณเพื่อทุ่มกับขนส่งมวลชนให้มากกว่านี้ และถ้าระบบขนส่งมวลชนที่รัฐให้การสนับสนุนทำได้ดีแล้ว ก็ค่อยไปรีดเก็บภาษีแพงๆ เอาจากคนที่ใช้รถส่วนตัวเอาก็แล้วกัน
ที่ว่ามานี้ ก็จำมาจากต่างประเทศที่เจริญแล้วอีกทีทั้งนั้นแหละ
ปฏิญา ยอดเมฆ